เมื่อทานข้าวกลางวันกันเสร็จเรียบร้อย โรลชูวก็ไปส่งหมิงเสี่ยวเซียวที่โรงแรม ก่อนจะแวะไปที่โรงพยาบาล
เธอมาเพื่อ ‘เยี่ยม’ เซา เสี่ยวหวัน
เซา เสี่ยวหวันก็ดูไม่ตกใจกับการมาเยี่ยมของทัง โรลชูว
“ขอเวลาส่วนตัวให้เราหน่อย” หญิงวัยกลางคนหันไปพูดกับคนที่ถูกจ้างมาให้ดูแลตน
พอผู้ช่วยเหลือเดินออกไป เสี่ยวหวันก็ดึงผ้าห่มมาคลุมขาโดยที่ไม่แม้แต่จะพูด หรือหันมองโรลชูวเลยสักนิด
ในห้องพักผู้ป่วยนั้นเงียบเชียบ
โรลชูวได้แต่กวาดตามองไปรอบห้องแล้วยกยิ้ม “ห้องผู้ป่วยวีไอพีก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิดนะ ซึ่งก็ส่งผลดีต่อการรักษาตัวอยู่ในคุกเป็นไหน ๆ ถูกต้องไหม เสี่ยวหวัน?”
หญิงสาวตั้งใจเน้นชื่อ ‘เสี่ยวหวัน’ ด้วยโทนเสียงที่แปลกไป
ทว่า เซา เสี่ยวหวันก็ยังคงมองไปนอกหน้าต่างราวเมินเฉยต่อคำพูดนั้น
โรลชูวเองก็ไม่ได้ใส่กับท่าทีเมินเฉยนั่น ขาเรียวก้าวเท้าไปตรงหน้าต่าง พลันหันหน้ามาสบกับสายตาของเสี่ยวหวัน
บางทีเสี่ยวหวันอาจไม่คิดว่าเธอจะเดินมา เพราะท่าทางตกใจของเธอนั้นเป็นคำตอบได้อย่างดี
โรลชูวมองอีกฝ่ายอย่างเย็นชา “เสี่ยวหวัน นี่ไม่ใช่เธอเลย เธอเคยพูดเยอะกว่านี้เวลาเจอฉัน แล้วทำไมวันนี้ถึงเงียบปากได้ล่ะ? กลัวจะหลุดพูดอะไรออกมาสินะ?”
ได้ยินแบบนั้น เซา เสี่ยวหวันจึงหมดความอดทน “ทัง โรลชูว เธอนี่ชอบจินตนาการไปเรื่อยมากเลยล่ะสิ?”
“จินตนาการเหรอ?” พูดพร้อมเลิกคิ้วขึ้น “เธอน่าจะรู้ดีที่สุด ถ้าฉันกำลังฝันอยู่จริง ๆ”
“ฉันไม่รู้ แล้วก็ไม่อยากรู้ด้วย” เสี่ยวหวันพูดตัด
โรลชูวเหยียดยิ้ม พลางเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “เสี่ยวหวัน กู โรลโรลกลับเข้าวงการบันเทิงอีกแล้วนะ ฉันละเอ็นดูเธอจริง ๆ ทั้ง ๆ เจอเรื่องราวแบบนั้นมาแล้ว แต่เธอยังบ้ากลับไปอีก”
พอได้ฟัง แววตาของเสี่ยวหวันก็หม่นลงไปชั่วขณะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่รักสายฟ้าแลบ: เจ้าสาว ของ คุณ พอจะเป็น ฉันได้ไหม