“งานอดิเรกเหรอ…เห็นว่าเขาสนใจเรื่องจัดสวนนะคะ”
“แล้วคุณพอจะรู้ไหมครับว่าเขามีคนใกล้ชิดคนอื่นอีกหรือเปล่า?”
เสี่ยวหวันนิ่งคิดไปพัก ก่อนเอ่ยตอบ “ฉันไม่ได้สังเกตเลยค่ะ แต่ก็เห็นอยู่คนหนึ่งที่เจอกับเขาอยู่บ่อยครั้ง ฉันเคยถามเขาว่าเธอเป็นใครแต่เขาบอกแค่ว่า เธอเป็นคนรู้จักกันตั้งแต่ตอนอยู่บ้านเกิด ฉันเลยไม่ได้ถามอะไรต่ออีก”
นายตำรวจจดทุกสิ่งอย่างที่เสี่ยวหวันพูดไว้ แล้วดำเนินการสืบสวนต่อไป แต่ดูเหมือนว่า เซา เสี่ยวหวันจะเตรียมตัวสำหรับการตอบคำถามมาเป็นอย่างดี เธอดูมั่นใจ และใช้คำพูดได้อย่างคล่องแคล้ว
พอถามจนได้ความมาระดับหนึ่ง เจ้าหน้าที่ทั้งสองก็ขอตัวกลับ
และพอพวกเขาเดินออกไป เสี่ยวหวันก็ถอนหายใจโล่งอก พลันทิ้งตัวลงกับโซฟาอย่างเหนื่อยล้า
กู โรลโรลรีบวิ่งเข้าไปหาคนเป็นด้วยความวิตกกังวลแม่ทันที “แม่คะ โอเคไหม?”
ผู้เป็นแม่ส่ายหน้าช้า ๆ สองที่นวดขมับไปมาไม่หยุด “แม่ไม่เป็นไร”
เห็นแบบนั้นโรลโรลก็เริ่มยู่หน้า “แม่คะ แล้วเราจะทำยังไงต่อไปดี?”
“ไม่ต้องห่วง ตราบใดที่แม่ไม่พูด พวกเขาก็จะไม่มีวันรู้”
คนที่รู้เรื่องที่อยู่ของลุงจ้าวก็มีแต่เธอกับลูกสาว และก็หลี่วู ถ้าพวกเขายืนกรานมั่นใจเกี่ยวกับที่อยู่ของลุงจ้าว ตำรวจก็ไม่มีวันหาตัวลุงเจอ
“แต่ ทัง โรลชูวต้องไม่ยอมง่าย ๆ แน่เลย” นี่คือสิ่งที่โรลโรลกังวล
หากพูดตามลักษณะนิสัยของโรลชูวแล้ว ถ้ายังหาความจริงไม่พบ หล่อนจะไม่มีวันยอมแพ้
เสี่ยวหวันลดมือที่นวดขมับลง ก่อนจะเพ่งมองไปด้านหน้าราวใช้ความคิด “งั้นเราต้องทำให้แน่ใจว่า…เธอจะไม่สามารถหาวิธีอื่นมาเล่นงานเราได้”
“แม่หมายถึง…”
เสี่ยวหวันหันมาสบตากับลูกสาวอีกครั้ง “อย่างที่ลูกคิดนั้นแหละ สั่งหลี่วูให้ลงมือได้เลย”
กู โรลโรลเงียบไปสักพัก แล้วพยักหน้ารับคำสั่ง “โอเคค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่รักสายฟ้าแลบ: เจ้าสาว ของ คุณ พอจะเป็น ฉันได้ไหม