“ผู้หญิงคนนั้นบอกอยากเจอเธอ แล้วก็โวยวายใส่พนักงานต้องรับด้านล่างใหญ่เลย… ฉันเลย” หลี่ น่า ลังเลเล็กน้อย “พาหล่อนมาที่ออฟฟิศแทน”
‘โวยวายใส่พนักงานต้อนรับเหรอ?’
โรลชูวยิ้มด้วยความสงสัย ‘หล่อนเพิ่งกลับเข้ามาในวงการบันเทิงไม่ใช่เหรอ? ทำไมยัยนั่นถึงกล้าก่อเรื่องทั้ง ๆ ที่รู้ว่านักข่าวสามารถถ่ายรูปเอาไปเล่นข่าวได้ทุกเวลา?’
‘แต่ก็นะ มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันนี่’
“เข้าไปคุยกับหล่อนเถอะ ฉันจะกลับแล้ว”
ผู้จัดการสาวหันมามองโรลชูว ก่อนจะค่อย ๆ ปิดประตูแล้วเดินออกไป
แม้ไม่มีอะไรจะคุยกับกู โรลโรล แต่ ทัง โรลชูวก็ยังเดินเข้าไปใกล้พร้อมมองอีกฝ่ายด้วยแววตาแข็งทื่อ
โรลโรลยกยิ้มเหยียด พลันเอ่ยแซะ “ทัง โรลชูวนี่จับตัวยากซะจริงนะ”
คุณนักข่าวเลิกคิ้วตอบ “ก็ใช่น่ะสิ ฉันยุ่งมาก ถ้ามีอะไรจะพูดก็รีบพูดมา ไม่งั้นก็ไสหัวกลับไปซะ”
“แก…” กู โรลโรลกำหมัดข่มอารมณ์แน่น เมื่ออีกฝ่ายตอบกลับมาแบบนั้น
ดาราสาวโกรธจนหน้าแดงก่ำ ราวกับว่าเธอโดนโรลชูวเหยียดหยาม แต่ไหนแต่ไร เธอไม่เคยโดนใครปฏิบัติใส่แบบนี้มาก่อน
ทว่าตอนนี้โรลโรลกลับสูดหายใจเข้าลึก แล้วสะกดกลั้นอารมณ์เกรี้ยวกราดนั่นไว้ พลันแย้มยิ้มออกมา “ทัง โรลชูว ฉันไม่ได้มาเพื่อทะเลาะกับเธอ แต่ฉันมาเพื่อให้ช่วยอะไรบางอย่าง”
โรลชูวหัวเราะฝืด “ให้ช่วยเหรอ? กู โรลโรล ฉันช่วยอะไรเธอไม่ได้หรอกนะ”
“ไม่ เรื่องนี้จำเป็นต้องให้เธอช่วยเท่านั้น” โรลโรลตอบและจ้องมองนักข่าวสาวไม่ลดละ
ได้ยินแบบนั้น โรลชูวก็อดที่จะยิ้มเยาะออกมาไม่ได้ มุมปากของเธอกระตุกยิ้มขึ้น “กู โรลโรล เสียสติไปแล้วเหรอไง? ลองนึกถึงที่ถึงวีรกรรมที่ผ่านมาของเธอสิ แล้วอย่าได้ฝันว่าฉันจะช่วยเธออีก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่รักสายฟ้าแลบ: เจ้าสาว ของ คุณ พอจะเป็น ฉันได้ไหม