แม้โรลชูวไม่เชื่อในสิ่งที่หลิน เสวียจีพูด แต่พอนึกถึงท่าท่างเคร่งเครียดของชินจินเมื่อคืน ก็ทำให้เธออดคิดว่าแฟนหนุ่มกำลังเจอกับปัญหาไม่ได้
คราแรกเธอวางแผนกลับไปทำงานที่ออฟฟิศต่อ แต่พอถึงสี่แยก ชั่วพริบตาเดียวมือเรียวกลับหักพวกมาลัยกลับรถหันไปทางธันเดอร์โบลท์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ปแทน
โรลชูวต้องคุยกับชินจินอย่างจริงจัง เพื่อไขข้อสงสัยที่หลิน เสวียจีพูดว่าชายหนุ่มกำลังจนตรอกเรื่องลุงหยิง
ทว่าในเมื่อเธอมาขอพบเขาแบบไม่บอกไม่กล่าว เจ้าหน้าที่ด้านล่างจึงไม่ยอมให้เธอขึ้นไป แต่พวกเขาก็ช่วยติดต่อคนในออฟฟิศของประธานให้แทน
มู หลิงเป็นคนเดินลงมารับเธอขึ้นไป
ขณะที่เดินเข้าไปในลิฟต์ โรลชูวก็ลอบมองมู หลิงที่คอยช่วยเหลืออยู่เคียงข้างชินจินมาโดยตลอดอย่างจับสังเกต
มู หลิงเริ่มขมวดคิ้ว เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาของภรรยาท่านประธาน และมันทำให้เขาอึดอัดจนต้องเอ่ยออกไป “ถ้าคุณต้องการจะพูดอะไร ได้โปรดพูดเถอะครับ”
“จริง ๆ นะ?” โรลชูวทำตาโต
“ครับ” ร่างสูงพยักหน้าตอบ “เชิญคุณถามสิ่งที่ต้องการ หากผมตอบได้ผมจะตอบออกไปตรง ๆ”
ในเมื่อเปิดทางให้แล้ว อย่างนั้นเธอก็จะถามไม่ยั้งเลยนะ
โรลชูวเข้าประเด็นทันที “สองวันมานี้ ท่านประธานกำลังเจอปัญหาอะไรอยู่หรือเปล่า?”
มู หลิงชะงักไปนิด พลันสวมบทนิ่งดังเดิม เขายิ้มตอบเล็กน้อย “จู่ ๆ ทำไมถามอย่างนั้นล่ะครับ?”
“อย่าเปลี่ยนเรื่องสิ นายตอบแค่ใช่หรือไม่ก็พอ”
“ไม่ครับ” มู หลิงตอบโดยไม่ลังเล
“จริงเหรอ? ไม่ได้โกหกฉันใช่ไหม?” ทัง โรลชูวกดดันอีกคน
มู หลิงหัวเราะขำ “จริงสิครับ คิดว่าผมจะกล้าโกหกคุณเหรอครับ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่รักสายฟ้าแลบ: เจ้าสาว ของ คุณ พอจะเป็น ฉันได้ไหม