พอได้ยินซู เหวินจิงพูดเรื่องที่คุณปู่เซินแกล้งป่วย ซอง อันยีก็หลุดยิ้มออกมา “คุณซู ไม่ว่าอากาศป่วยจริงหรือหลอกมันก็ไม่สำคัญแล้วล่ะคะ เพราะยังไงคุณสองคนก็ทำให้โมเฟยไม่พอใจไปแล้ว เป็นธรรมดาที่เขาจะโกรธจนไม่อยากเจอหน้าพวกคุณ”
“ฉันเข้าใจค่ะ” เหวินจิงตอบกลับด้วยน้ำเสียงเครียด “ฉันเข้าใจว่าพี่สามเองก็มีสิทธิ์ที่จะโกรธ แต่ตอนนี้ปู่ก็รู้ตัวแล้วว่าตัวเองผิด พวกเขาเป็นครอบครัวเดียวกันไม่ควรมาแตกหักเพราะอคติแบบนี้”
เมื่อเห็นใบหน้าที่เคร่งเครียดของเหวินจิง อันยีก็เม้มปากแน่นอย่างใช้ความคิด “โอเค ไว้ฉันจะลองคุยเรื่องนี้กับโมเฟยดูนะ”
พลันใบหน้าที่อึมครึมของเหวินจิงเมื่อครู่ก็กลับมามีสีสัน เธอดีใจและรีบขอบคุณซอง อันยี ทันที “ขอบคุณนะคะคุณซอง ขอบคุณมากจริง ๆ ค่ะ…”
“ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอกค่ะ” อันยีรีบยกมือขึ้นห้าม “ฉันทำได้แค่ช่วยพูด ส่วนการตัดสินใจจะเป็นยังไก็อยู่ที่เจ้าตัวเองค่ะ”
ซู เหวินจิงส่ายหน้า “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเชื่อว่าพี่สามต้องฟังคุณแน่นอน”
ได้ยินแบบนั้น ซอง อันยีก็ทำเพียงยิ้มกลับไปโดยไม่พูดอะไรอีก
…
เมื่อซอง อันยีบอกเซิน โมเฟยว่าซู เหวินจิงมาหาเธอ ร่างสูงก็พุ่งเข้ามาจับหัวไหล่บางสแกนความปลอดภัยตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างกับคนวิตกจริตอย่างใดอย่างนั้น “เธอไม่ได้ทำอะไรคุณตรงไหนใช่ไหม?”
ร่างบางฟังแล้วไม่รู้จะขำหรือร้องไห้ดี “ให้ฉันพูดให้จบก่อนได้ไหมล่ะ?”
“โอเค พูดต่อเลย”
“เธอแค่มาขอร้องให้ฉันเกลี้ยกล่อมคุณเรื่องคุณปู่ ฉันได้ยินว่าท่านไม่ยอมทานอะไรมาสองสามวันแล้ว”
อันยีพูดพลางเหลือมองสีหน้าของแฟนหนุ่ม ใบหน้าหล่อเหลานั้นแปรเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว ทว่ายังคงท่าทีนิ่งขรึม โมเฟยปล่อยมือจากไหล่บางแล้วหมุนตัวเดินไปอีกทาง “มันไม่เกี่ยวกับผมหนิ”
เสียงเข้มตอบเสียงเรียบราวกับกำลังเจรจาธุรกิจอยู่ก็ไม่ปาน โมเฟยบอกไม่ใช่ธุระของเขา และเขาไม่สนใจ แต่อันยีรู้ดีว่า สำหรับโมเฟยแล้ว คุณปู่เซินสำคัญกว่าพ่อแม่เขาเสียอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่รักสายฟ้าแลบ: เจ้าสาว ของ คุณ พอจะเป็น ฉันได้ไหม