ภายในห้องนั่งเล่นอันโอ่อ่า มีร่างของลู ติงแบงนั่งปรายสายตาอันเย็นชาพร้อมใบหน้าที่เคร่งเครียดมองไปยังลูกชายคนที่สามที่กำลังเดินเข้ามา
“พ่อ” เซียวเหยาเอ่ยทักทาย
ติงแบงหรี่ตามองลูกชายเชิงจับผิด “กลับมาทำไม?”
มุมปากของเซียวเหยายกยิ้มทันที เมื่อได้รับคำตอบจากผู้เป็นพ่อ “พ่อก็รู้เหตุผลอยู่แล้วไม่ใช่เหรอไง? ทำไมจะต้องมาถามย้ำกันอีก?”
ชายวัยเกษียณแต่ยังมีอำนาจในมือจ้องมองลูกชายของตนอยู่พักหนึ่ง ก่อนเบนสายตาไปอีกด้าน
ส่วนตัวเซียวเหยานั้นชินชากับท่าทีเย็นชาของพ่อตัวเองอยู่แล้ว จึงไม่สะทกสะท้านแล้วเดินไปนั่งโซฟาอีกตัวราวกับไม่รีบร้อน
หลังจากนั้นทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบจนแทบได้ยินเสียงเครื่องปรับอากาศ หากคนนอกเห็นภาพแบบนี้คงจะคิดว่าชายหนุ่มต่างวัยนั้นเป็นคนแปลกหน้า ทว่าความจริงทั้งสองคือพ่อลูกเลือดเนื้อเชื้อไขเดียวกันต่างหาก พักใหญ่ ลู ติงแบงก็เป็นฝ่ายเปิดปากพูดก่อน “ถ้าแกมาเพราะเรื่องของคนตระกูลหยิงล่ะก็ แกคิดผิดแล้วล่ะเซียวเหยา”
เซียวเหยายิ้มตอบ “ในเมื่อผมกล้ากลับมาเหยียบบ้านหลังนี้อีกครั้ง ผมก็ไม่กลัวอะไรอีกแล้ว”
เกิดความเงียบขึ้นระหว่างคนสองคนอีกรอบ
ห้านาทีผ่านไป ลู เซียวเหยาก็เริ่มพูดต่อ
“ปล่อยตระกูลหยิงไปได้ไหมพ่อ?”
“เพราะอะไร?” ติงแบงเบนสายตากลับมามองหน้าลูกชาย “เพราะอะไรฉันถึงต้องปล่อยตระกูลหยิงไป?”
“เพราะผมเป็นน้องของพี่ใหญ่ไงล่ะ”
พลันสายตาแข็งกร้าวของตาเฒ่าลูก็ฉายความพออกพอใจออกมา ก่อนจะเปลี่ยนกลับเป็นเย็นชาดังเดิมโดนไว “รู้ใช่ไหม ว่าถ้าอยากให้ฉันปล่อยตระกูลหยิงไป มันมีราคาที่แกต้องจ่ายให้ฉันนะ?”
เซียวเหยาพยักหน้า “ผมรู้ ผมถึงมาที่นี่ไงล่ะ”
ใบหน้าหล่อของเซียวเหยายังคงนิ่งสงบไร้ซึ่งคลื่นอารมณ์
อย่างกับว่าเจ้าตัวรู้ดีถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้
ทางด้านลู ติงแบงเองก็มีสีหน้าเข้มดูหยิ่งผยองราวกับคาดการณ์ไว้ก่อนแล้ว ดูได้จากสายตาที่เปี่ยมความอิ่มอกอิ่มคู่นั้น “ถ้าแกกลับมาเร็วกว่านี้ เรื่องแบบนี้คงไม่เกิด”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่รักสายฟ้าแลบ: เจ้าสาว ของ คุณ พอจะเป็น ฉันได้ไหม