พี่ใหญ่ไม่ยอมบอกเขาเรื่องนี้ อาจจะเป็นเพราะพี่ชินจินไม่อยากให้เซียวเหยาคิดมาก แต่จะให้เขานั่งรออยู่เฉย ๆ โดยไม่ทำอะไรเลยอย่างนี้เหรอ?
ชายหนุ่มครุ่นคิดพลางเหลือบมองหยิง เสี่ยวเซียวที่นอนหลับจากฤทธิ์น้ำเมา ในใจของเขาตัดสินใจได้แล้ว
มือหนาลูบเกลี่ยแก้มนวลของคนรักอย่างอ่อนโยน “เสี่ยวเซียว ฉันจะต้องช่วยลุงหยิงให้ได้”
เสียงเข้มพูดด้วยสายตาที่แน่วแน่
ครั้งนี้ เขาจะไม่ขอเอาแต่หลบอยู่หลังพี่ชายตัวเองอีกต่อไป
…
สายของวันถัดมา คนเมาเริ่มได้สติตื่นพร้อมกับศีรษะที่ปวดตุบ นัยน์ตากลมกระพริบตาปริบ เพื่อปรับสายตาที่พร่าเลือนให้จับโฟกัส ก่อนจะกวาดมองไปทั่วห้องกว้างที่คุ้นเคย
คิ้วเรียวขมวดมุ่น นี่มันห้องเซียวเหยาไม่ใช่เหรอ?
พลันภาพเมื่อคืนก่อนก็ฉายเข้ามาในหัวอย่างไว จนลืมตัวรีบลุกขึ้น ทว่าการเคลื่อนไหวที่ฉับไวทำเอาหัวสมองของเธอปวดจี๊ดจนน้ำตาแทบไหล
“โอ๊ย!!” หยิง เสี่ยวเซียวแผดเสียงร้องหงุดหงิด พร้อมใช้มือนวดข้างขมับช่วยบรรเทาอาการปวด
พอความเจ็บปวดเบาลง หญิงสาวก็ตวัดผ้าห่มหนาออกก้าวลงจากเตียง ขาเรียวสาวเท้าเดินออกไปนอกห้อง
ทว่าด้านนอกกลับพบเพียงความว่างเปล่า ราวกลับไม่มีใครอยู่
เธอเดินไปถึงห้องนั่งเล่น ทำทีจะยกมือเคาะประตูด้านหน้า แต่ก็เอามือลงแล้วหมุนลูกบิดประตูเข้าไปแทน
ผ้าม่านสีเข้มด้านในป้องกันไม่ให้แสงแดดลอดผ่าน และนั่นทำให้ทั้งห้องมืดอับ แต่มันก็ไม่ได้มืดจนมองไม่เห็นว่าโซฟาตัวยาวนั่นว่างเปล่า
ร่างเล็กนิ่วหน้ากว่าเดิม ไม่อยู่ในห้องนี้เหรอ? แล้วเขาไปอยู่ที่ไหนกัน?
เสี่ยวเซียวหมุนตัวหันหลังเดินออกจากห้องรับแขก ริมฝีปากบางเม้มนิด ๆ สะกดกั้นอาการปวดหัวขณะตามหาตัวแฟนหนุ่ม
ห้องนั่งเล่นก็ไม่มี
ระเบียงด้านนอกก็ไม่อยู่
ห้องครัวก็ว่างเปล่า
ห้องน้ำก็แห้งสนิท
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่รักสายฟ้าแลบ: เจ้าสาว ของ คุณ พอจะเป็น ฉันได้ไหม