กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ นิยาย บท 1380

ดังนั้นหลังจากที่ได้ยินว่ายูลป่วยเป็นมะเร็งตับอ่อน และสภาพร่างกายของเขาทรุดโทรมลง ชาร์ลีก็ตัดสินใจทันทีว่าจะต้องช่วยชีวิตเขา!

เขาจึงบอกควินน์ทันทีว่า “งั้นเอาแบบนี้ไหม? หลังจากเราปรึกษาหารือในเรื่องการทำสัญญารับรองยาเสร็จสิ้นแล้ว เธอก็กลับไปอีสต์คลิฟฟ์ก่อน แล้วอีกสองสามวันฉันจะแอบตามไปเยี่ยมลุงโกลดิ้ง เมื่อถึงเวลานั้น ฉันก็มีวิธีของฉันในการรักษาอาการป่วยให้ลุงได้!”

ควินน์ตกตะลึงแล้วถามเขาว่า “พี่มีวิธีรักษาแบบไหนที่สามารถรักษาอาการป่วยระยะสุดท้ายของพ่อฉันได้? มีหมอจากทั่วโลกหลายคนบอกฉันว่า ไม่มีทางรักษาอาการป่วยระยะสุดท้ายของพ่อให้หายได้เลย…”

ชาร์ลีตอบอย่างจริงจังว่า “ฉันยังไม่สะดวกที่จะเปิดเผยอะไรให้เธอรู้ในตอนนี้ แต่เธอไม่ต้องเป็นกังวลไป ในเมื่อฉันพูดออกมาแล้ว ฉันก็จะต้องทำตามสัญญาอย่างแน่นอน!”

ชาร์ลีมียาอายุวัฒนะอยู่ในมือ

ยาที่เขากลั่นออกมาครั้งแรกนั้น สามารถรักษาอาการอัมพาตของร่างกายท่อนล่างได้ ซึ่งโรคนี้นับว่ามีอาการรุนแรงจนเกือบจะใช้วิธีรักษาทางการแพทย์ไม่ได้เลย

ถ้าเขานำหนึ่งในยาวิเศษเหล่านั้นมาให้ยูล ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะช่วยรักษาโรคมะเร็งตับอ่อนให้หายได้

ถ้าเขามีอาการแย่ลง แล้วบอกว่ายาวิเศษนั้นไม่สามารถรักษาเขาได้ ชาร์ลีก็ยังสามารถใช้ยาอายุวัฒนะอีกชนิดหนึ่งกับยูลได้

เขาได้ปรุงยาอายุวัฒนะชุดนั้นไว้หลายเม็ด โดยกินเข้าไปสองสามเม็ด และนำไปให้คนอื่นอีกสองสามเม็ด แต่ก็ยังเหลืออยู่หลายเม็ด ยานี้จะช่วยให้มีชีวิตใหม่ได้อีกครั้ง โดยจะช่วยชุบชีวิตให้กับคนที่ใกล้จะตายได้ ดังนั้นชาร์ลีจึงมั่นใจว่าเขาจะสามารถใช้ยาอายุวัฒนะนั้นรักษายูลได้อย่างแน่นอน

เมื่อคิดทบทวนดูแล้ว ก็ไม่สำคัญหรอกว่ายาอายุวัฒนะนั้นจะช่วยรักษาอาการป่วยให้เขาได้หรือเปล่า เพราะท้ายที่สุดแล้วเขาก็ยังใช้พลังฝ่ามือของเขาได้!

พลังฝ่ามือเป็นพลังงานที่บริสุทธิ์ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บชนิดไหนในโลกใบนี้ที่รักษาด้วยพลังฝ่ามือไม่ได้

นี่เป็นเพราะยูลไม่ได้เป็นเพียงญาติผู้ใหญ่ของเขา หรือเป็นน้องชายที่ดีของพ่อของเขาเท่านั้นนะ แต่ยูลยังเป็นผู้มีพระคุณที่เขาควรจะแสดงความขอบคุณด้วย!

แต่ชาร์ลีไม่ได้วางแผนจะให้ยานี้กับควินน์เอง เนื่องจากมีปัญหาเกิดขึ้นเมื่อเขากลั่นยาวิเศษครั้งล่าสุด อิจิโร่จากโคบายาชิ ฟาร์มา ได้เริ่มกำหนดเป้าหมายไปที่ยาวิเศษที่เขากลั่นขึ้นมาแล้ว

เนื่องจากแอนโธนี่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ และมีทักษะการต่อสู้เป็นของตัวเอง ชาร์ลีจึงไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยมากนัก แต่ควินน์เป็นเพียงหญิงสาวธรรมดาทั่วไป ดังนั้นเขาจึงไม่อยากให้เธอนำยานี้ไปเอง ถ้าเขานำยานี้ไปให้ยูลด้วยตัวเองในอีกสองสามวันก็จะปลอดภัยกว่า!

ในเวลานี้ควินน์ยังคงสงสัยเคลือบแคลงคำพูดของชาร์ลีอยู่

แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากชาร์ลีพูดได้อย่างฉะฉานและมั่นใจ ควินน์ก็ยังรู้สึกมีความหวังอยู่ในใจ

ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้ว่าชาร์ลีจะไม่สามารถรักษาพ่อของเธอได้ แต่เธอเชื่อว่าถ้าชาร์ลีเต็มใจที่จะไปอีสต์คลิฟฟ์เพื่อพบพ่อของเธอ อย่างน้อย ๆ ก็ทำให้พ่อของเธอมีความสุขมากที่ได้พบเขา

การปลอบประโลมที่ดีที่สุดสำหรับคนที่เป็นร้ายแรงไม่มีทางรักษานั้น ก็คือการทำให้ผู้ป่วยคนนั้นมีความสุข!

ดังนั้นเธอจึงถามอย่างไม่ค่อยแน่ใจว่า “พี่ชาร์ลีคะ พี่จะไปพบพ่อของฉันที่อีสต์คลิฟฟ์ในอีกสองสามวันจริงเหรอคะ?”

ชาร์ลีพยักหน้าอย่างหนักแน่นในขณะที่พูดว่า “ไปสิ! ฉันต้องไปแน่นอน!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ