ดังนั้นหลังจากที่ได้ยินว่ายูลป่วยเป็นมะเร็งตับอ่อน และสภาพร่างกายของเขาทรุดโทรมลง ชาร์ลีก็ตัดสินใจทันทีว่าจะต้องช่วยชีวิตเขา!
เขาจึงบอกควินน์ทันทีว่า “งั้นเอาแบบนี้ไหม? หลังจากเราปรึกษาหารือในเรื่องการทำสัญญารับรองยาเสร็จสิ้นแล้ว เธอก็กลับไปอีสต์คลิฟฟ์ก่อน แล้วอีกสองสามวันฉันจะแอบตามไปเยี่ยมลุงโกลดิ้ง เมื่อถึงเวลานั้น ฉันก็มีวิธีของฉันในการรักษาอาการป่วยให้ลุงได้!”
ควินน์ตกตะลึงแล้วถามเขาว่า “พี่มีวิธีรักษาแบบไหนที่สามารถรักษาอาการป่วยระยะสุดท้ายของพ่อฉันได้? มีหมอจากทั่วโลกหลายคนบอกฉันว่า ไม่มีทางรักษาอาการป่วยระยะสุดท้ายของพ่อให้หายได้เลย…”
ชาร์ลีตอบอย่างจริงจังว่า “ฉันยังไม่สะดวกที่จะเปิดเผยอะไรให้เธอรู้ในตอนนี้ แต่เธอไม่ต้องเป็นกังวลไป ในเมื่อฉันพูดออกมาแล้ว ฉันก็จะต้องทำตามสัญญาอย่างแน่นอน!”
ชาร์ลีมียาอายุวัฒนะอยู่ในมือ
ยาที่เขากลั่นออกมาครั้งแรกนั้น สามารถรักษาอาการอัมพาตของร่างกายท่อนล่างได้ ซึ่งโรคนี้นับว่ามีอาการรุนแรงจนเกือบจะใช้วิธีรักษาทางการแพทย์ไม่ได้เลย
ถ้าเขานำหนึ่งในยาวิเศษเหล่านั้นมาให้ยูล ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะช่วยรักษาโรคมะเร็งตับอ่อนให้หายได้
ถ้าเขามีอาการแย่ลง แล้วบอกว่ายาวิเศษนั้นไม่สามารถรักษาเขาได้ ชาร์ลีก็ยังสามารถใช้ยาอายุวัฒนะอีกชนิดหนึ่งกับยูลได้
เขาได้ปรุงยาอายุวัฒนะชุดนั้นไว้หลายเม็ด โดยกินเข้าไปสองสามเม็ด และนำไปให้คนอื่นอีกสองสามเม็ด แต่ก็ยังเหลืออยู่หลายเม็ด ยานี้จะช่วยให้มีชีวิตใหม่ได้อีกครั้ง โดยจะช่วยชุบชีวิตให้กับคนที่ใกล้จะตายได้ ดังนั้นชาร์ลีจึงมั่นใจว่าเขาจะสามารถใช้ยาอายุวัฒนะนั้นรักษายูลได้อย่างแน่นอน
เมื่อคิดทบทวนดูแล้ว ก็ไม่สำคัญหรอกว่ายาอายุวัฒนะนั้นจะช่วยรักษาอาการป่วยให้เขาได้หรือเปล่า เพราะท้ายที่สุดแล้วเขาก็ยังใช้พลังฝ่ามือของเขาได้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ
รออ่านตอน 1601 อยู่นะครับ...จะมีไม่ครับ?...
นอกจากแปลมั้วแล้วลงไม่สุดอีกตายๆ...
ตกลงจะเอาสกุลเงินบาทหรือดอลลาร์กันแน่ครับแปลมั้วไปหมด...
เมื่อไหร่ยัยเอเลนจะตายครับรู้สึกรำคาณชิบหาย...
จะมีให้อ่านต่อ 1600+ ไหมคับ...