กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ นิยาย บท 1460

เธอเป็นดั่งดอกไม้ที่ส่งกลิ่นหอมและสุดสวยงาม ใคร ๆ ก็อยากเอาอกเอาใจเธอ และแสดงความเอาใจใส่และห่วงใยเธอ

ถึงแม้ว่าชาร์ลีจะไม่ได้ชอบเธอในเชิงชู้สาว แต่เขาก็ให้ความยอมรับนับถือและชื่นชมในความเป็นตัวเธออย่างมาก

ถ้าเขาให้ความชื่นชมใครก็ตาม เขาก็ย่อมไม่อยากให้คนคนนั้นได้รับอันตรายใด ๆ เป็นธรรมดา

แต่คู่ต่อสู้ที่นานาโกะจะต้องเผชิญหน้าก็คือสาวซ่าอย่างออโรร่า

ชาร์ลีหวังเป็นอย่างยิ่งว่าออโรร่าจะสามารถคว้าตำแหน่งผู้ชนะเลิศได้ ในขณะเดียวกันก็สามารถนำเกียรติยศศักดิ์ศรีมาสู่ชาวออสเกียนได้

แต่โดยส่วนตัวแล้วเขาไม่อยากให้นานาโกะต้องได้รับบาดเจ็บมากเกินไป

บางทีเขาก็อยากชักจูงให้ออโรรารู้จักยับยั้งตัวเองเอาไว้บ้าง เพื่อที่เธอจะได้ไม่ทุ่มพลังไปทั้งหมดหลังจากขึ้นสังเวียนไปแล้ว วิธีนี้จะช่วยให้เธอไม่ต้องทำร้ายนานาโกะมากเกินไป

แต่ชาร์ลีล้มเลิกความคิดนี้หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง

นี่เป็นเพราะเขารู้ว่าไม่ควรเข้าไปแทรกแซงในการแข่งขันของออโรร่า

ถ้าเขาพูดเรื่องนี้กับออโรร่า เธอจะต้องตกใจและผิดหวังอย่างแน่นอน

เพราะท้ายที่สุดแล้วเขาคือปรมาจารย์เวดที่เธอให้ความชื่นชมอย่างสุดหัวใจ และเขาก็ทำหน้าที่เป็นโค้ชคนปัจจุบันของเธอด้วย ถ้าเขาขอให้เธอแสดงความเมตตาต่อศัตรูก่อนที่จะลงมือทำการแข่งขัน เธอจะต้องรู้สึกโดนหักหลังอย่างแน่นอน

ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงเก็บความกังวลนี้ไว้ใจก้นบึ้งของจิตใจ ในขณะเดียวกันถ้านานาโกะไม่ได้รับบาดเจ็บหนักหนาสาหัสจนเกินไป เขาก็จะเลิกเข้าไปก้าวก่ายในชีวิตของเธอ แล้วปล่อยให้เธอกลับญี่ปุ่นไป

แต่ถ้านานาโกะได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาคงไม่สามารถทิ้งเธอไว้ตามลำพังได้ อย่างน้อย ๆ เขาก็ต้องช่วยเธอสักครั้งก่อน เขาไม่สามารถปล่อยให้เธอลงเอยในสภาพเหมือนกองขยะอย่างยามาโมโตะ คาสึกิผู้เป็นอาจารย์ของเธอได้

ในเวลาเดียวกันนั้น ณ ห้องรับรองนักกีฬาอีกห้องหนึ่ง นานาโกะกำลังรู้สึกประหม่าอยู่เล็กน้อยในเวลานี้

ฮิโรชิผู้ช่วยของเธอได้วางโทรศัพท์มือถือสองเครื่องไว้ตรงหน้าเธอ ซึ่งมีการเชื่อมต่อวิดีโอคอลจากโทรศัพท์มือถือทั้งสองเครื่องนี้

โดยเครื่องหนึ่งเป็นวิดีโอคอลกับคาสึกิ ซึ่งยังคงนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล และส่วนอีกเครื่องหนึ่งเป็นวิดีโอคอลกับยาฮิโกะผู้เป็นพ่อของเธอที่โทรทางไกลมาจากประเทศญี่ปุ่น

คาสึกิพูดด้วยสีหน้าที่ดูขึงขังว่า “นานาโกะ ยังไม่สายเกินไปนะที่จะขอสละสิทธิ์จากการแข่งขันในครั้งนี้ ผมคิดว่าไม่ต้องแข่งขันกับออโรร่าจะดีกว่า ถ้าคุณได้รับบาดเจ็บสาหัสในระหว่างการแข่งขัน อนาคตของคุณทั้งหมดก็ต้องพังพินาศอย่างแน่นอน!”

นานาโกะตอบอย่างจริงจังว่า “ถ้าอย่างนั้นอาจารย์ก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้วล่ะค่ะ ฉันจะเข้าไปแข่งขันในสนามประลองนั้นในอีกสิบนาทีต่อจากนี้แล้ว ช่วยพูดให้กำลังใจหรือแนะนำการใช้กลยุทธ์ให้ฉันแทนจะดีกว่าค่ะ!”

คาสึกิถอนหายใจแล้วพูดว่า “นี่! ทำไมไม่ฟังคำแนะนำกันบ้างเลย?”

ยาฮิโกะที่อยู่ในวิดีโอคอลในโทรศัพท์มือถืออีกเครื่องหนึ่ง ก็รู้สึกประหม่าอยู่เช่นกันในขณะที่พูดว่า “นานาโกะ! คุณยามาโมโตะเป็นอาจารย์ของลูกนะ! ทำไมถึงไม่เชื่อฟังเขา ทำไมถึงยืนกรานที่จะแข่งขันในแมตช์นี้?! ลูกคือลูกสาวที่พ่อรักดั่งดวงใจ พ่ออยากให้ลูกอยู่เฉย ๆ จะได้ไม่ต้องได้รับบาดเจ็บจากการแข่งขันครั้งนี้!”

ดวงตาของนานาโกะแดงก่ำในขณะที่พูดว่า “คุณพ่อผู้สูงส่งเห็นหนูมาตั้งแต่เด็ก ก็น่าจะรู้ดีที่สุดว่าหนูมีนิสัยและบุคลิกยังไง ถ้าหนูเลือกที่จะสละสิทธิ์และถอนตัวจากการแข่งขันในวันนี้ หนูก็เกรงว่ามันจะติดค้างอยู่ในใจของหนูไปจนตลอดชีวิต ปีนี้หนูเพิ่งจะมีอายุเพียงยี่สองปีเท่านั้นเองนะคะ คุณพ่อผู้สูงส่งอยากให้หนูต้องรู้สึกเสียใจไปตลอดชีวิตจริง ๆ เหรอ?”

ยาฮิโกะหายใจติดขัดขึ้นมาทันทีในขณะที่พูดว่า “นานาโกะ ลูกเรียกพ่อว่าคุณพ่อผู้สูงส่งมาตลอด วันนี้พ่ออยากให้ลูกเรียกพ่อว่าโอโต้ซัง เหมือนที่เด็กทั่วไปเรียกพ่อของพวกเขา…”

นานาโกะลุกขึ้นยืนทันทีก่อนจะโค้งคำนับต่อหน้าวิดีโอคอล พร้อมกับพูดด้วยความนอบน้อมว่า “โอโต้ซัง!”

โอโต้ซังหมายถึง ‘พ่อ’ ในภาษาญี่ปุ่น

หลังจากได้ยินนานาโกะเรียกเขาว่าโอโต้ซังแล้ว ยาฮิโกะก็ถอนหายใจเบา ๆ ในขณะที่พูดว่า “นานาโกะ ทำในสิ่งที่ลูกต้องการเถอะ พ่อเคารพทุกการตัดสินใจของลูก จงออกไปไล่ตามความฝันด้วยความมีสติรู้ชอบ พ่อจะรอลูกอยู่ที่โตเกียวนะ!”

นานาโกะยิ้มหวานก่อนจะพูดว่า “โอโต้ซัง ถ้าครั้งนี้หนูได้รับบาดเจ็บสาหัส หนูไม่อยากกลับโตเกียวในทันที หนูอยากไปพักฟื้นที่เกียวโตแทน หนูชอบบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่นั่นมากกว่า…”

โตเกียวเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น และเป็นเมืองสมัยใหม่ที่มีตึกสูง การจราจรที่พลุกพล่าน และบรรยากาศที่ดูทันสมัยมาก

ในทางตรงกันข้ามโตเกียวเป็นเมืองหลวงเก่าของประเทศญี่ปุ่น มีอนุสรณ์ทางประวัติศาสตร์มากมายที่มีอายุหลายร้อยหรือแม้กระทั่งหลายพันปี ซึ่งล้วนได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีบรรยากาศของความทันสมัย และมีสภาพแวดล้อมที่ดูเงียบสงบมาก แถมยังมีสภาพอากาศที่ดีมากด้วย

สมัยที่นานาโกะยังเด็ก เธอเติบโตขึ้นมาในบ้านเก่าแก่ของครอบครัวอิโตะ เมื่อเธอมีอายุได้สิบสี่ปี เธอได้ย้ายตามครอบครัวมาอยู่ที่โตเกียว แต่ภายในจิตใจของเธอนั้น เกียวโตเป็นบ้านเกิดเพียงแห่งเดียวเท่านั้นที่อยู่ในความทรงจำของเธอตลอดมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ