กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ นิยาย บท 1564

แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อดูจากสีหน้าที่มีเลือดฝาดของยูลแล้ว เขาก็ดูไม่เหมือนคนป่วยที่ใกล้จะตายเลย มียารักษาที่แสนมหัศจรรย์แบบนี้อยู่จริง ๆ เหรอ?

ในเวลานี้ยูลพูดต่อไปว่า “เรื่องที่สองที่ผมอยากพูดถึงก็คือ ถ้าทุกคนไม่เชื่อว่าผมได้หายดีแล้ว ผมก็จะไปที่โรงพยาบาลแฟร์วิวหลังจากจบการแถลงข่าวนี้ทันที ผมจะเข้ารับการตรวจซีทีสแกนทั้งร่างหาย และจะแจ้งผลการตรวจร่างกายให้สื่อมวลชนและประชาชนทั่วไปได้ทราบทั่วกัน”

ทันทีที่ยูลพูดออกมาดังนี้ ก็ไม่มีใครสงสัยอีกเลยว่าเขาหายจากอาการป่วยจริงหรือเปล่า

เนื่องจากถ้าเขาทำซีทีสแกนทั้งร่างกาย พวกเขาก็จะสามารถค้นพบเนื้องอกชนิดต่าง ๆ ได้ในร่างกายของเขา ถึงแม้ว่าจะเป็นเนื้องอก หรือมะเร็งขนาดเล็กที่สุดในระยะเริ่มแรก ก็สามารถค้นพบได้โดยง่ายเช่นกัน

ถ้ายูลยังไม่หายดี เขาคงไม่กล้ายอมรับการตรวจสุขภาพแบบนี้อย่างแน่นอน

ในเวลานี้ทุกคนต่างอดที่จะสงสัยไม่ได้ พวกเขาไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ ว่ายังมีการรักษาอันแสนมหัศจรรย์ ที่สามารถรักษาโรคร้ายแรงระยะสุดท้าย อย่างเช่นโรคมะเร็งตับอ่อนได้ พวกเขาอดที่จะนึกถึงคนอัจฉริยะอย่างสตีฟ จ็อบส์ไม่ได้ ซึ่งเขาได้เสียชีวิตไปเมื่อไม่กี่ปีนี้เอง

ทั้งสองคนต่างป่วยเป็นโรคเดียวกัน แล้วทำไมสตีฟ จ็อบส์ถึงไม่ได้โชคดีแบบนี้ล่ะ?

ถ้าสตีฟ จ็อบส์ยังมีชีวิตอยู่ บางทีเขาอาจนำนวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลงมาสู่มนุษยชาติต่อไปได้

หลังจากนั้นยูลก็พูดว่า “เรื่องที่สามที่ทุกคนน่าจะเป็นกังวลกันอย่างมาก ก็เป็นเรื่องการจัดการของประธานบริษัทโกลดิ้งกรุ๊ปคนปัจจุบัน ในเวลานี้ผมอยากจะประกาศอย่างเป็นทางการว่าผม… ยูล โกลดิ้ง… ยังคงดำรงตำแหน่งประธานบริษัทโกลดิ้งกรุ๊ปต่อไป นอกจากนี้เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมานี้เอง ผู้ถือหุ้นอีกสองคนของโกลดิ้งกรุ๊ป เอเดรียน โกลดิ้งและโรแกน โกลดิ้งเพิ่งลงนามในสัญญา เพื่อโอนสิทธิ์ในการลงคะแนนเสียงทั้งหมดให้กับผม ผู้ถือหุ้นทั้งสองคนนี้ได้โอนสิทธิ์การออกเสียงทั้งหมดตามจำนวนหุ้นที่พวกเขาถือครองให้กับผมอย่างถาวร!”

ทุกคนยิ่งตกตะลึงเข้าไปกันใหญ่เมื่อได้ยินดังนี้!

พวกเขาต่างสอบถามกันมานานแล้ว และพยายามค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความไม่ลงรอยกันระหว่างสามพี่น้องตระกูลโกลดิ้ง

พวกเขารู้ว่า เอเดรียนและโรแกนกำลังสร้างแนวร่วมเพื่อจัดการกับพี่ชายคนโต ทั้งสองคนนั้นต่างสมรู้ร่วมคิด และรวมหัวกับผู้ถือหุ้นรายอื่นเพื่อเล่นงานยูล

ทุกคนต่างรอคอยที่จะได้เห็นการต่อสู้และการเผชิญหน้าครั้งใหญ่ของตระกูล ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้คาดหวังจะเห็นสามพี่น้องสามารถทำข้อตกลงร่วมกันอย่างสมานฉันท์เช่นนี้ได้

หากเอเดรียนและโรแกนโอนสิทธิ์ในการลงคะแนนเสียงทั้งหมดของพวกเขาไปให้ยูลอย่างถาวร นั่นก็หมายความว่าเขาจะต้องปฏิบัติตาม และเชื่อฟังการตัดสินใจของยูลในอนาคตอย่างนั้นเหรอ?

ส่วนฝ่ายต่าง ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในเรื่องนี้ คงจะดีมาก ๆ ถ้าพวกเขาสามารถทำงานร่วมกัน และรวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียวกันโดยเปลี่ยนความเกลียดชังให้กลายเป็นมิตรภาพได้ นั่นคือทางออกที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง

แต่ในสายตาของผู้ชมแล้ว ฉากในการดำเนินเรื่องแบบนี้เป็นอะไรที่น่าเบื่อและไม่ชวนตื่นเต้นเอาเสียเลย

นี่อาจกล่าวได้ว่าเป็นอะไรที่น่าผิดหวังมาก

ยูลเหลือบมองการแสดงสีหน้าสีตาของนักข่าวและสื่อมวลชนทั้งหมดในเวลานี้ หลังจากนั้นเขาก็ยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดผ่านไมโครโฟนว่า “นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สามพี่น้องจากตระกูลโกลดิ้งจะรวมเป็นหนึ่งเดียว และช่วยกันทำงานเพื่อนำเกียรติยศและความรุ่งเรืองมาสู่บริษัทโกลดิ้งกรุ๊ปมากขึ้น ท้ายที่สุดแล้วถ้าเรารวมตัวกันในฐานะพี่น้อง ก็ย่อมมีประสิทธิภาพมากกว่าการทำงานคนเดียวอย่างแน่นอน แน่นอนว่า เราจะได้รับชัยชนะในอนาคตที่ง่ายขึ้นด้วย ผมเชื่อว่า ด้วยความพยายามร่วมกันของเรา โกลดิ้งกรุ๊ปก็จะสามารถแสดงผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น และรายงานมูลค่าตลาดที่สูงขึ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนของเราทั้งหมดได้อย่างแน่นอน”

หลังจากนั้นยูลก็หัวเราะในขณะที่พูดว่า “แต่อย่างไรก็ตาม ผมขออนุญาตขออภัยใน ณ ที่นี้ด้วย เพราะพวกคุณทุกคนคงรู้สึกผิดหวังมาก ที่ไม่ได้เห็นฉากดราม่าที่มีสมาชิกในครอบครัวมาทะเลาะกันที่นี่ในวันนี้!”

ทันทีที่เขาพูดออกมาแบบนี้ เหล่านักข่าวและสื่อมวลชนในห้องแถลงข่าวก็เริ่มหน้าแดงด้วยความเขินอาย ในเวลาเดียวกันราคาหุ้นของโกลดิ้งกรุ๊ปและบริษัททั้งหมดที่จดทะเบียนภายใต้โกลดิ้งกรุ๊ปก็พุ่งทะยานสูงขึ้น!