กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 177

กระบี่จงมา – บทที่ 177 พระพุทธเจ้าพิจารณาน้ำในบาตร
บทที่ 177 พระพุทธเจ้าพิจารณาน้ำในบาตร
โดย
ProjectZyphon
แต่ไหนแต่ไรมา แจกันสมบัติทวีปมักจะชอบใช้สำนักศึกษากวานหูเป็นตัวแบ่งเหนือใต้

ทางเหนือมีพวกป่าเถื่อนเยอะ ทางใต้ล้วนเป็นพวกที่ได้รับการศึกษา

คนใต้ดูถูกคนเหนือ นั่นคือเรื่องที่ถูกต้องตามหลักฟ้าดิน ต่อให้เป็นเหล่ากวีผู้ลือนามของต้าสุยแห่งทางเหนือ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับปัญญาชนผู้มีความรู้ของแคว้นหนันเจี้ยนก็ยังยอมรับว่าตัวเองต่ำต้อยกว่าระดับหนึ่ง นี่จึงเป็นเหตุให้ชนชั้นสูงของทางใต้เห็นว่า หากแต่งงานกับคนทางเหนือถือเป็นความอัปยศ

ใกล้ช่วงปลายปี ในตลาดที่ครึกครื้นแห่งหนึ่งทางทิศใต้ มีหลวงจีนวัยกลางคนใบหน้ารูปเหลี่ยมเด็ดเดี่ยว เปลือยเท้าอุ้มบาตรเดินไปด้านหน้าอย่างเชื่องช้า

มีนักเล่นกายกรรมคนหนึ่งแสดงฝีมือของตนออกมาอย่างเต็มที่ เรียกเสียงปรบมือและเสียงให้กำลังใจจากผู้ชมได้เป็นระลอก หลวงจีนมองเห็นลิงตัวเล็กที่ถูกมัดเข้ากับเสาไม้เสาหนึ่ง ตัวมันผอมมาก ดวงตาจึงดูกลมโตเป็นพิเศษ

หลวงจีนย่อตัวลง ควักขนมแป้งแข็งครึ่งชิ้นออกมา บิให้เล็กละเอียด วางกลางฝ่ามือ ยื่นให้ลิงน้อยตัวผอมแห้ง

แต่มันกลับตกใจกับการกระทำด้วยความหวังดีของหลวงจีนจึงวิ่งเผ่นหนีไปด้านหลังด้วยความลนลาน โซ่เลยถูกดึงให้ตึงในฉับพลัน ร่างถูกดึงกลับ ลิงน้อยที่ทั่วร่างเต็มไปด้วยรอยแส้หงายหลังลงบนพื้น มันรีบขดตัว ส่งเสียงร้องครางแผ่วๆ

หลวงจีนวางขนมที่บิเล็กไว้ใกล้ๆ กับเสาไม้ ก่อนจะบิแผ่นแป้งที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วโปรยไว้บนพื้น จากนั้นจึงวางบาตรลง แล้วเสร็จถึงได้ลุกขึ้นยืนเดินถอยหลัง สุดท้ายไปนั่งขัดสมาธิอยู่ห่างจากเสาไม้ประมาณสามสี่ก้าวแล้วเริ่มหลับตา ริมฝีปากขยับขมุบขมิบ ท่องศีลข้อห้ามของคัมภีร์

เดินก็ฝึกบำเพ็ญเพียร นั่งก็ฝึกบำเพ็ญเพียร ระยะทางยาวไกลนับหมื่นลี้ล้วนบำเพ็ญตนอย่างยากลำบากอยู่ตลอดเวลา

ลิงน้อยที่ทั้งอดยากและหนาวเหน็บคงจะหิวมากแล้วจริงๆ หลังจากหลวงจีนนั่งเข้าฌานแล้ว ลิงน้อยที่มองเขาอย่างขลาดกลัวอยู่นาน ในที่สุดก็ปลุกความกล้าขยับเข้าไปหยิบเศษขนมมาหนึ่งชิ้น ถอยกลับมาที่เดิมแล้วก้มหน้ากัดกิน พอเห็นว่าหลวงจีนยังนิ่งเฉย ความกล้าก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น แอบขโมยกินอีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างนี้ซ้ำไปซ้ำมา หันไปเห็นโดยบังเอิญว่าในบาตรมีน้ำใสอยู่จึงดื่มเข้าไปหนึ่งอึก ทั้งที่เป็นช่วงกลางฤดูหนาว แต่น้ำใสในบาตรกลับค่อนข้างอุ่น นี่จึงทำให้ลิงน้อยรู้สึกสบาย เริ่มไม่กลัวหลวงจีนผู้นั้น ดวงตากลมโตจ้องเป๋งไปยังเจ้าคนหัวโล้นเปลือยเท้าผู้นั้นด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ

หลังจากท่องคัมภีร์บทหนึ่งจบ หลวงจีนก็ลืมตาแล้วลุกขึ้นยืน ลิงน้อยขยับตัวหลบซ่อน หลวงจีนทำเพียงแค่ค้อมตัวหยิบบาตรขึ้นมาแล้วจากไป

ลิงน้อยจับเสาไม้ มองแผ่นหลังของหลวงจีนที่หายไปท่ามกลางหมู่มวลชนที่เบียดเสียดอย่างรวดเร็ว

มันเรอออกมาเบาๆ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ยื่นมือเกาข้างแก้มแห้งตอบไร้เนื้อของตัวเอง กะพริบดวงตากลมโตปริบๆ

หลวงจีนเท้าเปล่าเดินก้มหน้าอยู่ท่ามกลางฝูงชน ต่อให้ถูกคนเดินชนไหล่ก็ไม่เงยหน้าขึ้น กลับกันยังใช้มือขวาวางตั้งไว้ตรงหน้าอก ผงกศีรษะเล็กน้อยแสดงการคารวะ แล้วจึงเดินหน้าต่อไป

ในตลาดมีผู้เฒ่าสติวิปลาสอยู่คนหนึ่ง หัวคิ้วของเขาขมวดเข้าหากันเป็นปม เสื้อผ้าขาดร่องแร่ง เนื้อตัวสกปรกมอมแมม ขอแค่เจอเข้ากับเด็กเล็ก ไม่ว่าผู้ปกครองของพวกเด็กๆ จะรวยหรือจน เขาก็จะต้องขยับเข้าไปใกล้แล้วถามคำถามหนึ่งที่เหมือนกัน ชาวบ้านส่วนใหญ่เห็นกันจนชินตา อย่างมากก็แค่จูงลูกหลานเดินเร็วๆ จากไป แต่ก็มีบางส่วนที่ด่าอย่างไม่จริงจังนัก ยังมีชายฉกรรจ์นิสัยฉุนเฉียวบางคนที่อาจจะผลักผู้เฒ่าวิปลาสออกให้พ้นตัว และตั้งแต่ต้นจนจบ ผู้เฒ่าเสียสติจะเอาแต่เอ่ยคำถามประหลาดนั้นซ้ำๆ

“เด็กบ้านเจ้าตั้งชื่อแล้วหรือยัง?”

มีคนหนุ่มเสเพลกลุ่มหนึ่งที่รู้ความเป็นมาของผู้เฒ่าดีมาขวางทางเขาเอาไว้ คนหนึ่งในนั้นถามด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย “ที่บ้านข้ามีเด็กคนหนึ่งยังไม่ได้ตั้งชื่อ เจ้าจะทำไม?”

ผู้เฒ่าหน้าบานทันที เขาดีใจจนแทบจะกระโดดโลดเต้น “ข้าจะตั้งให้ ข้าจะตั้งชื่อให้เอง คราวนี้ข้าต้องตั้งชื่อดีๆ ได้แน่…”

“ตั้งกะปู่เจ้าน่ะสิ!” ผู้เฒ่าถูกคนหนุ่มผู้นั้นถีบเข้าที่หน้าท้องจนหงายหลังผลึ่ง กุมท้องล้มกลิ้งไปบนพื้น

หลวงจีนถือบาตรย่อตัวลงประคองผู้เฒ่าให้ลุกขึ้น อันธพาลกลุ่มนั้นจากไปพร้อมเสียงหัวเราะดังครืน

หลังถูกประคองให้ลุกขึ้น ผู้เฒ่าก็ยื่นมือมาจับแขนหลวงจีนไว้แน่น และยังคงถามคำถามที่ไร้ความเคารพยำเกรงอย่างถึงที่สุดคำถามนั้นกับหลวงจีน “เด็กบ้านเจ้าตั้งชื่อแล้วหรือยัง?”

หลวงจีนวัยกลางคนมองสีหน้าเซ่อซ่าของผู้เฒ่าแล้วส่ายหน้า ช่วยปัดฝุ่นบนร่างให้ผู้เฒ่า ค่อยเดินหน้าต่อไป

ผู้เฒ่ายังคงหาเรื่องลำบากใส่ตัว เรียกคำด่าและอาการค้อนตาจากคนนับไม่ถ้วนอยู่ในตลาด

ภายใต้แสงอาทิตย์แรงจ้า หลวงจีนถือบาตรขอบิณฑบาต หลังผ่านไปได้เจ็ดหลังคาเรือนก็ไม่มีวาสนาอีก อาหารในบาตรหร็อมแหร็ม คิดจะกินให้ท้องอุ่นยังยาก

หลวงจีนเข้าเมืองทางทิศเหนือ ออกจากเมืองทางทิศใต้ คนสัญจรไปมาบนถนนเดินสวนกันขวักไขว่ หลวงจีนก้มหน้าเดิน หากเจอแมลงตัวเล็กก็จะเก็บขึ้นมาแล้ววางลงข้างทางที่ไม่มีคนเดินผ่าน

สุดท้ายพบวัดเก่าที่ถูกทิ้งร้างมานานแห่งหนึ่ง หลวงจีนคารวะด้วยมือข้างเดียวอยู่นอกประตู ก่อนเดินช้าๆ เข้าไปข้างใน

หลังจากกินอาหารในบาตรอยู่บนระเบียงทางเดินใต้ชายคานอกห้องโถงใหญ่ หลวงจีนก็เริ่มนั่งสมาธิเข้าฌาน ฝึกบำเพ็ญตบะต่ออีกครั้ง

ท่ามกลางแสงสายัณห์ ผู้เฒ่าวิปลาสเดินโซซัดโซเซกลับมา เขาบึ่งเข้าไปในห้องโถงใหญ่โดยไม่แม้แต่จะชายตาแลหลวงจีน เดินไปล้มตัวลงนอนบนกองฟางกองหนึ่ง ตลบผ้าห่มผืนบางแหว่งวิ่นขึ้น พยายามดึงมาห่มมือและเท้า กรนครอกๆ เสียงดัง

หนึ่งคืนผ่านไปอย่างปกติสุข

ผู้เฒ่าสกปรกที่ชอบตั้งชื่อให้คนอื่นมั่วซั่วนอนหลับถึงเที่ยงวันกว่าจะตื่นขึ้นมา พอตื่นแล้วก็ออกจากวัดร้าง เข้าไปรวมอยู่กับฝูงชนในเมือง ไม่คิดจะแยแสหลวงจีนวัยกลางคนแม้แต่น้อย ตอนแรกใช่จะไม่มีคนเดาได้ว่า ผู้เฒ่าวิปาลาสจะใช่คนวิเศษที่มีนิสัยประหลาดหรือไม่ ภายหลังถึงได้พบว่าผู้เฒ่าคือคนแก่กะโหลกกะลาอย่างแท้จริง โดนตีก็ไม่เอาคืน โดนด่าก็ไม่ด่ากลับ แถมพอถูกตีเจ็บยังร้องไห้โวยวาย โดนตีหนักเข้าก็เลือดไหลได้เหมือนคนปกติ ถึงท้ายที่สุดจึงมีเพียงพวกอันธพาลเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อเท่านั้นที่ถึงจะหาเรื่องผู้เฒ่าเพื่อความบันเทิงของตัวเอง

ผู้เฒ่าอาศัยอยู่ในวัดร้างแห่งนี้มาหลายปีแล้ว

เกือบครึ่งปีต่อมา วันเวลาแต่ละวันล่วงเลยผ่านไป หลวงจีนก็มาอาศัยอยู่ที่นี่ชั่วคราว บางครั้งก็เข้าเมืองไปพร้อมผู้เฒ่า ถือบาตรออกบินฑบาตร และบางครั้งก็ออกจากเมืองกลับเข้ามาในวัดพร้อมกับผู้เฒ่า คนทั้งสองไม่เคยพูดคุยกัน แม้แต่จะมองสบตากันก็ยังน้อยครั้ง ทุกครั้งที่พบหลวงจีน ผู้เฒ่าวิปลาสจะทำหน้างงงัน จำอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น

คืนนี้ฝนเทกระหน่ำพร้อมฟ้าคำรามกระหึ่มก้อง

ท่ามกลางสายลมที่ซัดสาดและเม็ดฝนหนาถี่ ต่อให้ตะโกนเรียกในระยะประชิดก็คงได้ยินไม่ชัดเจนนัก

ทุกครั้งที่เสียงฟ้าร้องดังครืนครั่น ผู้เฒ่าที่นอนขดตัวอยู่บนกองฟางจะต้องสะดุ้งตกใจตัวสั่นระริก ไม่รู้ว่าผู้เฒ่าที่นอนหลับสนิทนึกถึงเรื่องเศร้าอะไร หรือว่าฝันร้ายถึงเรื่องใด มือสองข้างของเขาถึงได้กำแน่น ร่างขึงเกร็ง พึมพำซ้ำไปซ้ำมาไม่หยุด “เป็นปู่ที่ตั้งชื่อไม่ดี เป็นปู่ที่ทำร้ายเจ้า เป็นปู่ที่ทำร้ายเจ้าแท้ๆ”

ใบหน้าแห้งตอบแก่ชรานั้นไม่มีน้ำตาเหลือให้ไหลนานแล้ว ทว่านี่กลับยิ่งทำให้สีหน้าของเขาดูร้าวรานใจมากเป็นพิเศษ

เมื่อเสียงฟ้าร้องถี่กระชั้นเปลี่ยนมาเป็นขาดๆ หายๆ แม้ว่าเม็ดฝนจะยังถี่หนา พลังอำนาจน่าพรั่นพรึง ทว่าเสียงพึมพำของผู้เฒ่ากลับค่อยๆ แผ่วจางลงไป

แต่ขณะที่ผู้เฒ่ากำลังจะหลับลึกนั้นเอง หลวงจีนกลับงอนิ้วแล้วเคาะเบาๆ หนึ่งที

ติ๊ง!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!