วันรุ่งขึ้น ซูไห่เฉานั่งอยู่ในสำนักงาน ทันทีที่รับสาย ๆ หนึ่ง เขาก็หัวเราะจนน้ำตาไหล
เพื่อนร่วมงานในตระกูลซูอีกสองสามคนมองดูซูไห่เฉาที่กำลังหัวเราะอย่างงุนงง
“ไห่เฉาเกิดอะไรขึ้น นายตลกอะไรนักหนา?”
“หยุดหัวเราะ แล้วบอกเราเร็ว ๆ สิ”
“คงไม่ใช่เพราะซูหยิงเซี่ยหนีไปแล้วใช่ไหม?”
ซูไห่เฉาจับท้องของเขาและพูดว่า “ฉันหัวเราะจนปวดท้องไปหมดแล้ว ซูหยิงเซี่ยนี่โง่จริง ๆ”
“เกิดอะไรขึ้น รีบบอกมาเร็วเข้า” ญาติของตระกูลซูหลายคนกระวนกระวายราวกับมดที่อยู่บนหม้อไฟ
“ผู้หญิงบ้าคนนี้ให้หานซานเฉียนขับรถยนต์ไฟฟ้าพาเธอไปยังบริษัทลั่วเฉวน่ะสิ เธอเสียสติไปแล้วสินะ” ซูไห่เฉาพูด
เมื่อได้ยินประโยคนี้ เสียงหัวเราะมากมายก็ดังขึ้นในสำนักงาน ไม่มีใครหยุดหัวเราะได้เลย ทุกคนต่างหัวเราะกันดังลั่น
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า เธอจะไปเจรจาเรื่องความร่วมมือในสภาพแบบนี้ บริษัทลั่วเฉวคงจะยอมเจรจากับเธออยู่หรอกนะ?”
“ฉันว่าเธอคงยอมแพ้แล้วล่ะ แต่ก็นะ พวกเรายังขอเจรจาไม่ได้เลย แล้วเธอจะทำได้ยังไง”
“ไห่เฉา วิธีนี้ของนายใช้ได้เลยนะ ครั้งนี้ซูหยิงเซี่ยไม่รอดแน่ เธอจะถูกไล่ออกจากตระกูลซู เมื่อถึงเวลาแบ่งทรัพย์สมบัติ เธอก็จะไม่ได้อะไรเลย”
คนหนุ่มสาวสองสามคนไม่มีใครเชื่อว่าซูหยิงเซี่ยจะทำได้ และพวกเขาพร้อมแล้วที่จะดูเรื่องตลก
“ถ้าเธอเปลี่ยนใจ แล้วสำนึกผิดล่ะ” ใครบางคนพูดขึ้นมาด้วยความกังวล
ซูไห่เฉายิ้มเยาะอย่างเย็นชา ในที่สุดเขาก็ได้โอกาสที่จะไล่ซูหยิงเซี่ยออกจากตระกูลซู เขาจะให้โอกาสซูหยิงเซี่ยกลับใจได้อย่างไร?
“ไม่ต้องห่วง ฉันมีวิธีไล่เธอออกจากตระกูลซูแล้ว เมื่อถึงเวลานั้นพวกนายอยู่ข้างฉันก็พอ” ซูไห่เฉากล่าว
“นายไม่ต้องกังวลไปเลย พวกเราอยู่ฝั่งเดียวกับนายแน่นอน”
“ซูหยิงเซี่ยทำให้ตระกูลซูของเราขายหน้าไม่น้อย การที่เราไล่เธอออกจากตระกูลซู เราจะได้ไม่ถูกคนอื่นหัวเราะเยาะอีก”
“ใช่ เพราะคนต่ำต้อยอย่างหานซานเฉียนทำให้ฉันไม่สามารถเชิ่ดหน้าชูตาได้ ในที่สุดก็สามารถกำจัดเขาได้สักที”
ณ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ลั่วเฉว
หลังจากจอดรถเสร็จแล้ว หานซานเฉียนก็มองไปที่ซูหยิงเซี่ยที่กำลังรู้สึกประหม่า เขาพูดกับเธอด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ต้องกังวล ผมคุยกับเพื่อนร่วมชั้นแล้ว เหลือแค่เซ็นสัญญา”
ซูหยิงเซี่ยไม่ได้ถามอะไรมากเกี่ยวกับเพื่อนร่วมชั้นของหานซานเฉียน แต่คราวนี้ตระกูลซูมีคู่แข่งมากมาย และตระกูลซูก็ไม่มีข้อได้เปรียบใด ๆ เลย จะเป็นไปได้เหรอที่การขอเป็นหุ้นส่วนครั้งใหญ่นี้จะอาศัยเพียงมิตรภาพของเพื่อนร่วมชั้น?
จงเหลียงยิ้มและพูดต่อว่า “เจ้านายต้องเข้างานสังคมมากมาย ดังนั้นเขาจึงไม่ค่อยว่างออกมาพบปะผู้คน ถ้าคุณผู้หญิงซูมีปัญหาอะไร คุณสามารถบอกผมได้เลยครับ”
ซูหยิงเซี่ยรีบส่ายหัวทันที และพูดด้วยความตื่นตระหนกว่า “ไม่ค่ะ ไม่ค่ะ ฉันไม่ได้มีปัญหาอะไรค่ะ แต่...เรายังไม่ได้เริ่มเจรจาเกี่ยวกับการเป็นหุ้นส่วนกันเลยนี่คะ”
“ตามคำสั่งของเจ้านาย สัญญาได้ถูกเตรียมไว้แล้วครับ ผมได้ลงนามไปแล้ว ถ้าคุณผู้หญิงซูอ่านแล้วรู้สึกว่าไม่มีปัญหาอะไรก็สามารถเซ็นสัญญาได้เลยครับ” จงเหลียงกล่าว
“อ๊ะ!” ซูหยิงเซี่ยมองจงเหลียงด้วยความประหลาดใจ แม้ว่าเจ้าของบริษัทลั่วเฉวจะเป็นเพื่อนร่วมชั้นของหานซานเฉียน แต่ซูหยิงเซี่ยไม่คิดไม่ฝันว่ามันจะราบรื่นขนาดนี้ บริษัทลั่วเฉวได้เตรียมสัญญาเอาไว้แล้ว!
“พี่จงคะ คุณ...ไม่ได้ล้อฉันเล่นใช่ไหม?” ซูหยิงเซี่ยถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ไม่ใช่แน่นอนครับ ทั้งหมดนี้เป็นคำสั่งจากเจ้านาย ได้โปรดตามผมมาครับ” จงเหลียงกล่าว
หลังจากตามจงเหลียงเข้าไปในสำนักงาน ซูหยิงเซี่ยมองดูสัญญา เธอไม่พบปัญหาใด ๆ และสัญญานี้ก็ให้กำไรมหาศาลกับตระกูลซู ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ในตลาดจะทำกำไรได้มากขนาดนี้
“พี่จงคะ แน่ใจนะคะว่าไม่ได้เล่นตลกกับฉัน?” ซูหยิงเซี่ยรู้สึกเหมือนกำลังฝัน หากเธอสามารถนำสัญญานี้กลับไปที่ตระกูลซูได้ ก็จะไม่มีใครกล้าดูถูกเธออีก และจะมีใครกล้าบอกว่าเธอไม่เหมาะสมหรือบอกว่าเธอไร้ประโยชน์อีก?
จงเหลียงส่งปากกาของเขาให้ซูหยิงเซี่ยและพูดว่า “ไม่ใช่เรื่องตลกแน่นอน ถ้าคุณผู้หญิงซูคิดว่าไม่มีปัญหาอะไร ก็สามารถเซ็นมันได้เลยครับ"
ปากของซูหยิงเซี่ยแห้งผาก ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ระหว่างหานซานเฉียนกับเพื่อนร่วมชั้นของเขาคนนี้จะดีมากจริง ๆ
แต่ทำไมเขาถึงได้รู้จักคนที่มีอิทธิพลเช่นนี้ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยฟ้าประทาน