"จะหนีไปไหน!" น้ำเสียงเข้มของคาเรนที่ดังขึ้นจากทางด้านหลังในตอนที่อิงดาวกำลังจะเดินหนีขึ้นไปบนชั้นสองทำให้เธอหยุดชะงักการเคลื่อนไหวกะทันหัน ความรู้สึกในตอนนี้ไม่ต่างจากตอนที่โดนปลายกระบอกปืนนับสิบกระบอกเล็งเป้ามาที่กลางศีรษะเลย พับผ่าเถอะ! ไม่เคยมีความรู้สึกเหมือนกำลังจะตายแบบนี้มาก่อนเลย
"จะขึ้นไปอาบน้ำ นายมีอะไรเหรอ" เธอหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับเจ้าพ่อมาเฟียหนุ่ม พยายามบังคับน้ำเสียงไม่ให้สั่น แต่ให้ตายเถอะ! สีหน้าเคร่งขรึมของคาเรนมันทำให้ร่างกายของเธอสั่นเทิ้มยิ่งกว่าน้ำเสียงซะอีก
"ไอ้เวรตัวไหนเป็นคนพาเธอไปที่โรงแรม" คาเรนกอดอกถามด้วยท่าทางเอาจริง พร้อมกับปรายตามองลูกน้องทุกคนที่ยืนเรียงรายอยู่ในห้องโถงใหญ่ แล้วเบนสายตากลับมามองเธออย่างจับผิดอีกครั้ง คำถามของคาเรนทำให้ลูกน้องทุกคนพร้อมใจกันก้มหน้าหลบสายตาอย่างพร้อมเพรียง ไม่เว้นแม้แต่อิงดาวที่แสร้งเสมองไปทางอื่น ขณะเดียวกันก็คิดหาคำตอบไปด้วย
"ทำไมนายต้องคาดคั้นฉันด้วยในเมื่อเรื่องมันเกิดไปแล้ว แล้วฉันก็บอกนายเป็นร้อยรอบแล้วนะว่าฉันนั่งแท็กซี่ไปเอง" อิงดาวทำหน้าเซ็ง แต่ใครจะรู้ว่าหัวใจดวงน้อยมันกำลังเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง เธอหันหน้ากลับมาสบตากับคาเรนอีกครั้ง เพราะเชื่อว่าการโกหกที่แนบเนียนที่สุดคือการสบตา
"ถ้าฉันปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปง่ายๆแล้วต่อไปฉันจะปกครองลูกน้องยังไงวะ" คาเรนแย้งเสียงเกรี้ยว "หรือจะให้ฉันเข้าไปถามลูกเองว่าวันนี้แม่มันตอแหลอะไรบ้าง"
"อะไรเล่า ลูกนอนหลับอยู่ไม่ว่างตอบหรอก"
"งั้นกระแทกแม่มันให้หายตอแหลเลยดีไหม"
"อย่ามาโยนความผิดให้ฉันคนเดียวสิ อย่าลืมนะว่านายเองก็ผิดเหมือนกันที่ไม่ยอมบอกความจริงกับฉันตั้งแต่แรกว่าจะไปคุยงาน"
"แต่เธอทำให้ฉันเสียงาน มันใช่เหรอวะที่จะมาอ้างเหตุผลว่าฉันก็ผิดเหมือนกันที่ไม่ยอมบอกเธอ" คนโดนตั้งคำถามลอบถอนหายใจเบาๆ เธอยอมรับว่าตัวเองผิดที่ทำให้คาเรนเสียการเสียงาน แล้วเขาจะให้เธอทำยังไงล่ะ ในเมื่อเธอย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว
"แล้วนายจะให้ฉันทำยังไงล่ะ ให้ฉันไปกราบแทบเท้าอ้อนวอนคุณคิมอะไรนั่นให้มาคุยกับนายตอนนี้เลยไหม"
"ทำผิดแล้วยังกล้าประชดอีกนะ"
"ฉันไม่อยากเถียงกับนายแล้ว ไร้สาระ ไปอาบน้ำนอนดีกว่า" เธอเบี่ยงเบนประเด็นพลางทำสีหน้าเบื่อหน่าย แล้วหมุนตัวเดินขึ้นไปบนชั้นสองในทันที แต่เมื่อลับตาคาเรนก็ถอนหายใจพรืดใหญ่อย่างโล่งอก รีบวิ่งหนีเข้าไปในห้องนอนอย่างรวดเร็ว
"ว่าฉันตอแหลไม่เนียนเหรอไอ้แก่ ชิ! ฉันตอแหลไม่เก่งเหมือนนายต่างหากย่ะ" อิงดาวบ่นอุบขณะที่ปลดเปลื้องเสื้อผ้าอยู่หน้ากระจก นึกหมั่นไส้คาเรนที่พยายามจับผิดเธอ เธอไม่ได้ทำให้เขาเสียการเสียงานขนาดนั้นสักหน่อย แค่ทำให้เขาเสียเวลานิดหน่อยเท่านั้นเอง หญิงสาวคิดเข้าข้างตัวเอง เมื่อปลดเปลื้องเสื้อผ้าเสร็จแล้วจึงเดินเข้าห้องน้ำไป
"อ๊า~ น้ำเย็นดีชะมัด" สายน้ำเย็นฉ่ำไหลลงมากระทบกับใบหน้าและผิวกายเปลือยเปล่า ให้ความรู้สึกผ่อนคลายในแบบที่เธอต้องการ อิงดาวเงยหน้าขึ้นรับสัมผัสเย็นฉ่ำของสายน้ำ ริมฝีปากอวบอิ่มเผยอขึ้นเล็กน้อยเพื่อพ่นลมหายใจ ขณะที่เปลือกตาบางทั้งสองข้างปิดสนิท
มือบางยกขึ้นมาเสยผมลวกๆพลางเช็ดหยดน้ำออกจากใบหน้า แล้วค่อยๆลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง
"อ๊ะ!" ดวงตากลมโตเบิกโพลงด้วยความตกใจเมื่อลืมตาขึ้นมาแล้วพบว่าคาเรนยืนกอดอกมองอยู่หน้าห้องน้ำ ร่างกายของเขาเปลือยเปล่าไม่ต่างจากเธอ ความตกใจทำให้เธอรีบยกมือขึ้นมาปิดตาทั้งสองข้าง
"โรคจิตเหรอถึงมายืนแก้ผ้าต่อหน้าผู้หญิงแบบนี้"
"ไม่ต้องทำตัวเป็นนางเอกใสๆหรอก ฉันรู้ว่าเธอไม่ใช่" อิงดาวลอบเบ้ปาก แล้วเอามือลง
"เข้ามาทำไม ไม่เห็นเหรอว่าฉันอาบน้ำอยู่"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มาเฟียพ่อลูกอ่อน