"คาเรน คาเรนน คาเรนนน คาเรนนนนนนนน" เจ้าพ่อมาเฟียหนุ่มลอบถอนหายใจเบาๆอย่างละเหี่ยใจขณะที่ยืนถอดเสื้ออยู่หน้ากระจก เพื่อเตรียมตัวอาบน้ำเข้านอน เขาหมุนตัวกลับไปมองเจ้าของสีหน้าบูดบึ้งอย่างเหนื่อยหน่าย ทว่าเธอกลับยิ้มร่าเมื่อเห็นเขายอมหมุนตัวกลับไปหา
"เรียกแล้วก็ไม่พูด เรียกทำไมวะ"
"นายรู้สึกหิวเหมือนฉันไหม" อิงดาวเอียงคอถาม ขณะที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง เธอเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องพยายามเรียกร้องความสนใจจากคาเรน ความรู้สึกแบบนี้มันเกิดขึ้นหลังจากที่เธอมีอาการแพ้ท้องเมื่อเช้านี้ และเธอไม่สามารถควบคุมมันได้เลย คงเป็นเพราะเจ้าตัวเล็กในท้องอยากอยู่ใกล้ๆคนเป็นพ่อ เลยพานทำให้เธอมีความรู้สึกแบบนั้นไปด้วย
"เธอหิวตอนสามทุ่มเนี่ยนะ เมื่อตอนเย็นกินข้าวไม่อิ่ม?" หญิงสาวส่ายหน้าช้าๆเป็นคำตอบ
"เมื่อตอนเย็นกินอิ่ม แต่ตอนนี้หิวอีก อยากดื่มนมอุ่นๆก่อนนอน นายลงไปชงให้หน่อยสิ"
"ฉัน?" คาเรนชี้นิ้วเข้าหาตัวเองอย่างมึนงง "เธอคิดว่าหน้าอย่างฉันเนี่ยชงนมเป็นเหรอวะ"
"ฉันกับลูกไม่มีความสำคัญสำหรับนายเลยใช่ไหม ที่ทนอยู่กับฉันเพราะรอวันตรวจดีเอ็นเอสินะ ไม่เป็นไร แค่นมแก้วเดียว ฉันชงกินเองก็ได้" อิงดาวตัดพ้อเสียงเครือ ถ้อยคำและน้ำเสียงของเธอแสดงออกถึงความน้อยอกน้อยใจที่มีต่อมาเฟียหนุ่ม ทำเอาคาเรนขมวดคิ้วมึนงงกับถ้อยคำตัดพ้อของคนตัวเล็ก
"ก็ฉันชงนมไม่เป็น แล้วจะให้ทำยังไงวะ"
"ฉันไม่เคยน้อยใจใคร ฉันยังน้อยใจนายได้เลย ทำไมฉันทำได้แล้วนายทำไม่ได้ล่ะ"
"ตรรกะบ้าบออะไรของเธอวะ" ยิ่งได้ฟังถ้อยคำตัดพ้อของอิงดาวเขาก็ยิ่งเข้าใจว่าตอนนี้กระบวนการความคิดของเธอผิดเพี้ยนไปหมด มันจะมีมนุษย์สักกี่ร้อยคนบนโลกที่มีความคิดแปลกประหลาดเหมือนเธอในตอนนี้
"มันคือการเปรียบเทียบ"
"ฉันว่าเธอควรพบจิตแพทย์นะ"
"..." คำพูดตรงๆที่ยังไม่ได้กลั่นกรองของคาเรนทำคนฟังอย่างอิงดาวชะงักไป เธอมองเขาด้วยแววตาสั่นระริก มือบางประสานกันวางบนหน้าตัก ก่อนที่นาทีต่อมาจะก้าวขาลงจากเตียง เดินจ้ำอ้าวไปหยิบเสื้อผ้าของตัวเองกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ออกมา ทำเอาคาเรนนิ่งเงียบไป
"จะทำอะไร เก็บกระเป๋าไปไหน"
"จะไปพบจิตแพทย์ไง" เธอตอบโดยไม่สบตา แล้วก้มหน้าก้มตาพับเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทาง
"ทำไมเธอต้องจริงจังกับคำพูดของฉันขนาดนั้นวะ ฉันก็แค่ประชดไหมล่ะ?"
"..." อิงดาวเลือกที่จะเงียบ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าความเงียบของเธอมันทำให้คาเรนกระวนกระวาย
"โอเค อยากกินนมอุ่นๆก่อนนอนใช่ไหม" คาเรนรีบเดินเข้ามาจับข้อมือบางไว้แน่นเพื่อหยุดการกระทำของอิงดาว ซึ่งก็เหมือนว่ามันจะได้ผล เธอพยักหน้ารับทั้งที่สีหน้ายังบึ้งตึง
"ไปนั่งรอบนเตียงไป" หญิงสาวลอบอมยิ้มเมื่อได้ยินอย่างนั้น ก่อนจะระริกระรี้เดินกลับไปนั่งรอบนเตียงอย่างสงบเสงี่ยม ปล่อยให้คาเรนเก็บเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นคนเดียว
นี่มันเวรกรรมอะไรของเขานักหนาเนี่ย! คาเรนสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆเพื่อระงับอารมณ์เดือดดาล พร้อมกันนั้นก็เก็บเสื้อผ้าของอิงดาวไปด้วย นี่คงเป็นอาการแพ้ท้องของเธอสินะ แต่คนเราจะสามารถแพ้ท้องได้ขนาดนี้เชียวเหรอ เขาเก็บความสงสัยไว้ในใจ แล้วเดินออกจากห้องไปในทันทีเมื่อเก็บเสื้อผ้าให้เธอเสร็จเรียบร้อยแล้ว
"พวกมึงออกไปซื้อนมมาให้กูดิ๊" เขาออกคำสั่งกับลูกน้องที่ยืนเรียงรายกันอยู่ในห้องโถงใหญ่ พร้อมกับเดินเข้าไปหย่อนตัวนั่งลงบนโซฟา
"นายอยากทานนมอะไรเหรอครับ" ลูกน้องคนหนึ่งถามขึ้น
"ต้องตบตูดกล่อมนอนด้วยไหม"
"..." หญิงสาวหลับตาแน่น ไม่ยอมพูดยอมจากับมาเฟียหนุ่ม เพราะรู้ว่าเขาจงใจกลั่นแกล้งเธอ ถึงชงนมใส่ขวดมาให้เธอแบบนี้
"เหอะ! เด็กดื้ออย่างเธอต้องโดนดัดนิสัยซะบ้าง"
"..."
"พูดด้วยแล้วทำเป็นนิ่ง งอน?"
"..."
"นิ่งให้ตลอดก็แล้วกัน" ท่อนขาแกร่งยกขึ้นมาตวัดพาดบนหน้าขาของคนตัวเล็กอย่างแรงจนคนโดนกลั่นแกล้งรู้สึกอึดอัด เธอเงยหน้าขึ้นมามองค้อนคาเรน จากนั้นจึงปัดท่อนขาแกร่งออก โดยที่ปากยังคาบจุกนมไว้ ไม่ใช่ว่าอยากทำตัวเป็นเด็กน้อยต่อหน้าเขา แต่เพราะหิวต่างหากถึงยอมโดนกลั่นแกล้งแบบนี้
"หึ ยัยแม่มดน้อย เธอนี่ดื้อกว่าที่ฉันคิดนะ"
"..."
"งอนเก่งเหมือนเด็ก นี่แพ้ท้องหรือนิสัยส่วนตัว" คาเรนยังคงตั้งคำถาม แม้ว่าคนตัวเล็กในอ้อมกอดจะหลับตาลงอีกครั้งแล้วก็ตาม
น่าเอ็นดูชะมัด เธอเหมือนเด็กน้อยไม่มีผิด เจ้าตัวเล็กที่อยู่ในท้องของเธอคงจะน่าเอ็นดูเหมือนเธอสินะ ทำไมจู่ๆเขาถึงอยากเห็นหน้าเจ้าตัวเล็กนะ ให้ตายสิ! ความรู้สึกแบบนี้มันอะไรกัน มันใช่ความผูกพันระหว่างพ่อกับลูกไหมนะ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มาเฟียพ่อลูกอ่อน