@เช้าวันต่อมา
"อื้อ~" มันเป็นเช้าที่ไม่สดใสเอาซะเลยสำหรับเธอที่ต้องตื่นขึ้นมาบนเตียงนอนคนเดียวโดยไม่มีอ้อมกอดของคาเรนคอยให้ความอบอุ่น แสงแดดยามเช้าที่เคยกวนใจกลับกลายเป็นตัวสร้างความอบอุ่นให้เธอในเช้านี้ มันเป็นสัญญาณเตือนว่าทุกสิ่งทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
คาเรนไม่ได้ชอบเธอ เขาไม่ได้หวั่นไหวกับเธอเหมือนที่เธอหวั่นไหวกับเขา ถ้อยคำเหล่านั้นมันตอกย้ำเธอซ้ำๆให้พยายามตีตัวออกห่างจากเขาเพื่อปกป้องความรู้สึกไม่ให้ถลำลึกไปมากกว่านี้ มันคงจริงเหมือนที่ใครหลายๆคนเคยบอก ว่าการที่เรามอบความรักให้ใครสักคนไป ก็ใช่ว่าเขาคนนั้นจะให้ความรักกลับมา
"เฮ้อ~ หนูอยากให้แม่หวั่นไหวกับพ่อเขาเหรอตัวเล็ก ถึงทำให้แม่อ่อนแอขนาดนี้" เธอลืมตาขึ้นมาช้าๆ จ้องมองหน้าท้องแบนราบด้วยสายตาตัดพ้อ ไม่อยากเชื่อว่าการมีลูกจะทำให้จิตใจของเธออ่อนไหวขนาดนี้ คงเป็นเพราะตอนนี้เธอกับลูกใช้ความรู้สึกเดียวกันสินะ
อิงดาวพ่นลมหายใจเบาๆเมื่อความคิดเริ่มล่องลอยไปไกล เธอเลือกที่จะหยุดความคิดฟุ้งซ่านไว้เพียงแค่นั้น จากนั้นจึงหยัดกายลุกขึ้นเดินเข้าไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำแทนการเดินกลับไปอาบน้ำที่ห้องนอนของคาเรน ตอนนี้เธอไม่อยากใช้เวลาร่วมกับเขามากมายขนาดนั้น
@ครึ่งชั่วโมงต่อมา
"..." สองเท้าเปลือยเปล่าหยุดชะงักกะทันหันเมื่อเปิดประตูห้องนอนออกมาแล้วพบว่ามีใครบางคนยืนรออยู่หน้าประตู เธอไม่รู้ว่าทำไมคาเรนถึงมายืนอยู่ตรงนี้ เพราะเวลานี้เขาควรจะนอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มในห้องนอนของเขาเหมือนทุกวันมากกว่า
"..." ทั้งที่คาเรนยืนอยู่ตรงหน้า แต่มันเหมือนกับว่ามีกำแพงกั้นอยู่ตรงกลางระหว่างเขากับเธอ เมื่อเขาเลือกที่จะเงียบ ความรู้สึกอึดอัดก็ถาโถมเข้าหาเธอในทันที ทำไมเธอต้องเป็นฝ่ายแบกรับความรู้สึกเหล่านั้นคนเดียวด้วยนะ ไม่ยุติธรรมเลย
"เธอเป็นบ้าอะไรวะ ทำไมต้องหอบลูกหนีฉันมานอนอีกห้อง จะทำให้ฉันประสาทเสียไปถึงเมื่อไหร่วะ" คาเรนเปิดฉากตั้งคำถาม สีหน้าและน้ำเสียงของเขาบ่งบอกถึงอารมณ์เดือดดาลที่พร้อมจะระเบิดออกมาทุกเมื่อ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมอิงดาวต้องกลั่นแกล้งเขาด้วยการหนีออกมานอนคนเดียว เพราะมันทำให้เขานอนไม่หลับทั้งคืน
"ฉันทำให้นายโกรธอีกแล้วเหรอ อยู่กับฉันไม่มีความสุขเลยใช่ไหม ขอโทษนะ" น้ำเสียงของอิงดาวสั่นเครือขึ้นทุกขณะ เธอขยับตัวเข้าไปยืนตรงหน้าพร้อมเขย่งเท้าขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะยื่นหน้าขึ้นไปจูบเบาๆบนริมฝีปากหนา
"ขอโทษนะ ฉันผิดเองแหละที่ทำตัวงี่เง่า นายไม่ต้องสนใจหรอก เดี๋ยวฉันก็ดีขึ้นเอง" เธอเอ่ยคำขอโทษ แล้วผละตัวออกห่าง กำลังจะก้าวเดินออกไป แต่ทว่าท่อนแขนแกร่งของคาเรนกลับตวัดกอดรัดเอวคอดไว้ซะก่อน
"เธอบอกไม่ให้ฉันสนใจ แล้วทำไมต้องทำตัวแบบนี้วะ อยากให้ฉันเป็นบ้าตายรึไง"
"..." เปล่าเลย เธอไม่ได้อยากให้เขาเป็นแบบนั้น แต่เธอไม่สามารถควบคุมความคิดและความรู้สึกของตัวเองได้ เหมือนกับที่เขาเองก็บังคับความรู้สึกให้ชอบเธอไม่ได้เหมือนกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มาเฟียพ่อลูกอ่อน