@หลายสัปดาห์ต่อมา
มันคงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่ได้หนีความวุ่นวายในเมืองหลวงมาสูดอากาศบริสุทธิ์บนดอย หลายสัปดาห์ที่ผ่านมาเธอพยายามปรับตัวที่จะอยู่คนเดียวโดยไม่มีคาเรนคอยอยู่เคียงข้าง แต่เหมือนว่ามันจะยากเย็นเหลือเกินที่จะทำแบบนั้น เธอยังต้องการอ้อมกอดอบอุ่นของเขาในทุกๆคืนที่หลับตานอนและทุกๆเช้าที่ลืมตาตื่น มันเป็นความทรมานที่เธอต้องผ่านไปให้ได้
เธอไม่รู้ว่าตอนนี้คาเรนเป็นยังไงบ้างในวันที่ไม่มีเธออยู่ข้างๆ แต่เชื่อว่าเขาคงสบายดี เพราะนับตั้งแต่วันนั้นที่เธอกับเขาเลือกที่จะหันหลังให้กัน คาเรนก็ไม่เคยมาหาเธอเลยสักครั้ง เขาไม่เคยติดต่อมาเหมือนที่เธออยากให้เป็น มันชัดเจนว่าเขาไม่ได้หวั่นไหวกับเธอจริงๆ
ในเมื่อคาเรนยังอยู่ได้โดยไม่ต้องมีเธอ แล้วเธอจะยังคร่ำครวญหาเขาเพื่ออะไร อิงดาวสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ อากาศบริสุทธิ์บนดอยช่วยให้เธอรู้สึกผ่อนคลายขึ้นหลังจากที่จมปลักกับความเศร้ามาหลายสัปดาห์ เธอยิ้มให้กำลังใจตัวเอง พร้อมกับกำขวดน้ำในมือแน่น ก่อนจะเริ่มทำหน้าที่รับผิดชอบของตัวเองอีกครั้ง หลังจากหยุดพักมาหลายนาที ในขณะที่เพื่อนๆและรุ่นพี่คนอื่นๆยังทำงานกันอย่างขะมักเขม้น
"น้ำไหมคะ" แทนไทที่กำลังก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของตัวเองเงยหน้าขึ้นมามองเจ้าของน้ำเสียงใสๆที่เดินเข้ามาเงียบๆจากทางด้านหลัง เขาอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าคนที่ยื่นขวดน้ำให้คืออิงดาว แต่แทนที่จะยื่นมือไปรับขวดน้ำจากเธอ เขากลับยกมือทั้งสองขึ้นมาให้เธอดู
"มือเปื้อน ป้อนพี่หน่อยสิ" อิงดาวชั่งใจชั่วครู่กับคำขอของชายหนุ่ม ก่อนจะตัดสินใจย่อตัวนั่งลง ข้างๆ แล้วยื่นขวดน้ำไปจ่อตรงริมฝีปากหนาของแทนไทหลังจากเปิดฝาให้เสร็จสรรพ การกระทำของเธอไม่ได้เรียกเสียงโห่แซวจากเพื่อนๆของแทนไทอย่างเดียว เพราะแม้แต่เพื่อนๆของเธอก็ต่างส่งเสียงแซวกันสนุกสนาน
"นี่มันค่ายอาสานะครับไม่ใช่สถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง ไม่ต้องหวานกันขนาดนั้นก็ได้คร้าบ"
"เสือกนะพวกมึง" แทนไทปรามเจ้าของคำพูดเย้าแหย่เมื่อสักครู่ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเขา ในขณะที่อิงดาวได้แต่นั่งยิ้มแห้งกับคำหยอกล้อเหล่านั้น
"เดี๋ยวพี่กินเองก็ได้" เขาบอกด้วยน้ำเสียงเกรงใจ พร้อมกับยื่นมือเข้าไปหมายจะจับขวดน้ำในมือเธอ แต่อิงดาวกลับดึงมือกลับ เธอส่ายหน้าไปมาด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะยื่นขวดน้ำไปให้เขาอีกครั้ง
"มือพี่แทนไทเปื้อนอยู่ เดี๋ยวอิงป้อนเองค่ะ"
"ป้อนด้วยปากได้ไหม พี่อยากกินน้ำที่ผ่านการกรองจากปากของเราก่อน กลัวไม่ปลอดภัย"
"..." อิงดาวชะงักไปในทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น แม้จะไม่ได้หวั่นไหวกับแทนไท แต่หัวใจดวงน้อยกลับเต้นแรงไม่เป็นส่ำกับคำพูดของเขา
"พี่ล้อเล่น" ใบหน้าหล่อเหลายังคงเปื้อนด้วยรอยยิ้มตลอดเวลา ก่อนที่เขาจะแย่งขวดน้ำจากมือเธอไปดื่มเอง โดยที่ดวงตายังจับจ้องที่ใบหน้าหวานของเธอไม่ละไปไหน ทำให้อิงดาวต้องเป็นฝ่ายเบือนหน้าหนีเพราะไม่รู้จะทำตัวยังไง
"พี่ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม"
"คะ?" เธอหันหน้ากลับมาหาเขาอีกครั้ง
"ตอนนี้เรายังโสดใช่ไหม" แทนไทถามด้วยสีหน้าจริงจัง เขาไม่ได้พูดถึงคาเรนที่เคยแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเธอ แต่กลับถามตรงประเด็นจนเธอชะงักไปอีกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มาเฟียพ่อลูกอ่อน