"ไปอาบน้ำเถอะ จะได้ลงไปกินข้าวเช้ากัน ลูกคงหิวแล้ว" คาเรนดันศีรษะทุยเล็กออกจากซอกคอหนาอย่างไม่แรงนัก แต่คนข้างบนกลับไม่ยอมขยับตัวลงจากแผงอกแกร่งง่ายๆ เธอผงกศีรษะขึ้นมามองเขาตาปริบๆอย่างออดอ้อน ก่อนจะโน้มใบหน้าลงมาจูบหนักๆบนริมฝีปากหนาได้รูป ไม่อยากยอมรับว่ารู้สึกดีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนกับรสจูบนุ่มนวลของเธอ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสัมผัสของเธอมันทำให้หัวใจเต้นแรง
"ทำไมวันนี้อาบน้ำก่อนฉันล่ะ"
"ก็เธอไม่ชอบอาบน้ำพร้อมกันนิ ฉันจะอาบน้ำพร้อมกับเธอทีไร เธอก็ไล่ฉันออกมาทุกที"
"แล้วไม่คิดบ้างเหรอว่าวันนี้ฉันอาจจะอยากให้นายช่วยถูหลังให้ก็ได้" อิงดาวเอียงคอถาม
"เด็กหื่น" มือหนายกขึ้นมาบีบปลายจมูกเชิดรั้นเบาๆอย่างนึกมันเขี้ยว ทว่าคนตัวเล็กกลับปัดมือออก แล้วโน้มใบหน้าลงมาจูบเบาๆตรงปลายจมูกโด่งคม ให้ตายสิ! จะต้องให้หัวใจแกร่งมันเต้นแรงอีกสักกี่ครั้งเธอถึงจะเลิกกลั่นแกล้งเขาซะที
"อกนายอุ่นดีจัง ขนาดอาบน้ำมาใหม่ๆยังอุ่นเลย"
"เลิกอ้อนฉันแล้วไปอาบน้ำได้แล้ว"
"กระเป๋าน้ำร้อนของฉัน" นอกจากอิงดาวจะดื้อดึงไม่ยอมทำตามคำสั่งของเขาแล้ว เธอยังขยับตัวลงไปซบหน้าลงตรงแผงอกแกร่งอีกครั้ง พวงแก้มนวลคลอเคลียไปมาเบาๆ ทำเอาร่างกายของเขาสั่นเกร็งเพราะสัมผัสของเธอ
"ไปอาบน้ำก่อนนะ" ริมฝีปากอวบอิ่มลากลงไปจูบหนักๆตรงขอบผ้าขนหนูที่พันรอบเอวสอบอย่างหมิ่นเหม่ พานทำให้ไรขนอ่อนตามร่างกายของเขาลุกชูชัน คาเรนพ่นลมหายใจหนักๆ พยายามระงับอารมณ์กระสันที่ถูกปลุกให้ลุกฮืออย่างง่ายดาย ขณะที่เจ้าของการกระทำเมื่อสักครู่หัวเราะในลำคอเบาๆราวกับสะใจนักหนาที่สามารถกลั่นแกล้งเขาได้ ก่อนที่เธอจะเดินหนีเข้าห้องน้ำไป โดยวางโทรศัพท์ของเขาไว้ตรงขอบเตียง
"ยัยแม่มดน้อย ร้ายกาจชะมัด" ดวงตาคมกริบจ้องมองใจกลางความเป็นชายที่กำลังผงาดแข็งชันแล้วก็ต้องถอนหายใจพรืดใหญ่ เขานอนแน่นิ่งอยู่อย่างนั้นหลายนาทีเพื่อให้ร่างกายปรับสภาพกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม นึกแล้วก็อยากทำโทษเด็กร้ายกาจจริงๆที่ชอบกลั่นแกล้งเขาให้ทรมานอยู่เรื่อย
ครืด~ ครืด~
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นเรียกความสนใจจากคาเรนที่กำลังนอนหลับตาพริ้มให้ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เขาดีดตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่าโทรศัพท์มือถือของอิงดาวที่วางอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงมีการแจ้งเตือนว่ามีสายโทรเข้า
แต่แทนที่เขาจะตะโกนเรียกอิงดาวให้ออกมารับสาย มือหนากลับยื่นไปหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอมากดรับสายอย่างถือวิสาสะ
"ฮัลโหล"
(นั่นใคร มารับโทรศัพท์ของอิงดาวได้ยังไง) ผู้ชายงั้นเหรอ? คาเรนทำหน้าหงุดหงิดเมื่อรู้ว่าคนปลายสายคือผู้ชาย เขาดึงมือถือออกมาดูให้แน่ใจอีกครั้งว่าเบอร์โทรศัพท์ที่โชว์อยู่บนหน้าจอไม่มีชื่อของใครกำกับไว้
(ฉันถามว่านั่นใคร)
"แล้วมึงเป็นใคร โทรหาเมียกูทำไม"
(เมีย?) เหมือนว่าคำถามของเขาจะสร้างความมึนงงให้คนปลายสายไม่น้อย
"กูถามว่ามึงเป็นใคร โทรหาเมียกูทำไม"
(ให้อิงดาวโทรกลับหาฉันด้วย บอกเธอว่า...พ่อแท้ๆของเธอโทรมา)
"..!!" ราวกับสายฟ้าฟาดลงมากลางศีรษะจนสมองอื้ออึงไปหมด คาเรนแทบสำลักน้ำลายตัวเอง(?)เมื่อได้ยินคำว่าพ่อจากคนปลายสาย แต่ยังไม่ทันที่สมองจะประมวลผลคำพูดของคนที่อ้างตัวว่าเป็นพ่อของอิงดาว สายก็ถูกตัดไปแล้ว
"ฉะ..ฉิบหายแล้วไงไอ้คาเรน" ให้ตายเถอะ! นี่คงเป็นครั้งแรกที่เขานึกเกลียดชังความปากไวของตัวเอง มิหนำซ้ำยังใช้คำหยาบสนทนากับว่าที่พ่อตาอีกต่างหาก คาเรนลูบหน้าเบาๆอย่างใช้ความคิด เขากำลังคิดว่าจะทำยังไงถึงจะประสานรอยร้าวระหว่างว่าที่พ่อตากับตัวเองได้
"แม่งเอ้ย! ปากหมาจนเป็นเรื่องเลยมึง"
"เมื่อกี้คุยกับใครเหรอ" คาเรนถอนหายใจเบาๆเมื่อเห็นอิงดาวชะโงกหน้าออกมาจากห้องน้ำ เธอปรายตามองโทรศัพท์มือถือของตัวเองในมือของเขาด้วยสีหน้ามึนงง
"แอบรับโทรศัพท์ของฉันเหรอ ใครโทรมาอะ" เธอถามด้วยท่าทางสบายๆ ไม่ได้แสดงท่าทางโกรธเคืองที่โดนล้ำเส้นความเป็นส่วนตัวมากเกินไป
"พ่อเธอโทรมา"
"พ่อโทรมา!!" จากที่เคยมึนงงกลับกลายเป็นเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ อิงดาวนิ่งอึ้งไปราวกับถูกสาปไปชั่วขณะ ก่อนจะรีบวิ่งออกมาหาคาเรนทั้งที่ร่างกายยังเปลือยเปล่าและเปียกชุ่ม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มาเฟียพ่อลูกอ่อน