"โทรกลับหาพ่อเถอะ เผื่อท่านมีธุระด่วนจะคุยกับเธอ" อิงดาวผละตัวออกห่างอย่างรวดเร็ว เธอส่ายหน้าพัลวันด้วยสีหน้าเป็นกังวล นั่นไม่ใช่ความคิดที่ดีแน่ เพราะเธอรู้จักนิสัยของพ่อตัวเองดีว่าเป็นยังไง ยิ่งเงียบเท่าไรก็ยิ่งน่ากลัวเท่านั้น
"เมื่อกี้พ่อไม่พูดอะไรกับนายเลยเหรอ"
"เขาบอกว่าให้เธอโทรกลับด้วย แล้วก็วางสายไปเลย คงรีบไปเตรียมอาวุธสงครามมาถล่มฉันล่ะมั้ง" คาเรนพูดติดตลกเพราะไม่อยากเห็นสีหน้าเป็นกังวลของคนตัวเล็ก เขาชอบที่จะเห็นรอยยิ้มของเธอมากกว่า แต่นอกจากอิงดาวจะไม่หัวเราะไปกับคำพูดติดตลกของเขาแล้ว เธอยังทำสีหน้าตึงเครียดมากกว่าเดิม นาทีต่อมาจึงถอนหายใจพรืดใหญ่ แล้วกระชากตัวลุกขึ้น
"ทำเป็นเล่นไปเถอะ ระวังจะโดนพ่อฉันขนอาวุธสงครามมาถล่มนายจริงๆ"
"ทำไม พ่อเธอเป็นคนผลิตอาวุธสงครามรึไง"
"ไม่ได้ผลิต แต่รวยพอที่จะซื้อมายิงถล่มกะโหลกน้อยๆของนายก็แล้วกัน" คาเรนยักไหล่ไม่สนใจ แล้วดึงตัวหญิงสาวเข้ามาสวมกอด ใบหน้าคมคายซบลงคลอเคลียหน้าท้องแบนราบจนคนโดนออดอ้อนกัดปากเบาๆระงับอารมณ์ เธอหอบหายใจหนักๆเมื่อคาเรนลากริมฝีปากลงไปจูบเบาๆบนเนินสามเหลี่ยมโหนกนูน
"ฉันไม่กลัวพ่อเธอหรอก เพราะฉันมีเธอกับลูกเป็นตัวประกัน พ่อตาไม่กล้าทำอะไรฉันแน่" อิงดาวลอบเบ้ปากกับความเจ้าเล่ห์ของมาเฟียหนุ่ม แต่หัวใจดวงน้อยมันกลับพองโตเพราะถ้อยคำถัดมาของเขา
"ฉันไม่กลัวพ่อตาหรอก ก็รักลูกสาวของเขาไปแล้วนิ" ระ..รักงั้นเหรอ? นี่คาเรนกำลังบอกรักเธอจริงๆหรือเธอหูฟาดกันแน่ถึงได้ยินคำว่ารักจากปากของเขา เธอไม่เคยคาดหวังที่จะได้ยินคำว่ารักจากปากของผู้ชายดิบห่ามอย่างคาเรน มันเกินความคาดหวังจนเธอแทบทำอะไรไม่ถูก
"เมื่อกี้นาย...บะ..บอกรักฉันเหรอ"
"ฉันบอกรักเธอเหรอ ไม่รู้ตัวเลยนะเนี่ย" คาเรนเงยหน้าขึ้นมายิ้มกริ่ม น่าเหลือเชื่อที่เขากล้าพูดคำว่ารักต่อหน้าเธอ เพราะมันเป็นคำพูดเดียวที่เขาเคยคิดว่าจะไม่พูดมันออกมาต่อหน้าผู้หญิงคนไหน อิงดาวทำให้ความคิดนั้นหายไป เธอเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างของเขาแม้กระทั่งความรู้สึกที่ไม่เคยคิดจะรักใคร
"อย่ามาล้อเล่นกับฉันนะ ฉันไม่ตลก"
"รีบไปอาบน้ำต่อเถอะ ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทนจับเธออัลตร้าซาวด์อีกรอบ"
"ช่วยพูดประโยคเมื่อกี้อีกสักรอบได้ไหม นะๆ ฉันอยากมั่นใจว่าได้ยินไม่ผิด แล้วก็ไม่ได้หูฝาด" อิงดาวดื้อดึงไม่ยอมทำตามคำสั่งของมาเฟียหนุ่มง่ายๆ เธอขยับตัวขึ้นมานั่งคร่อมบนหน้าตักแกร่ง
"ไม่ ฉันพูดได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้นแหละ"
"ถ้านายยอมพูดคำนั้นอีกครั้ง ฉันจะบอกพ่อว่านายเป็นเพื่อนสนิทของฉัน แล้วเมื่อกี้นายก็แค่แกล้งพ่อเล่น เพราะคิดว่าพ่อเป็นแฟนฉัน"
"ต่อให้ฉันพูดหรือไม่พูดอีกครั้ง เธอก็จะใช้เหตุผลนั้นอ้างกับพ่อของเธออยู่ดี" มาเฟียหนุ่มกระตุกยิ้มอย่างรู้ทัน ทำเอาอิงดาวทำหน้าเซ็ง
"ทำไมหัวใจเต้นแรงแบบนี้เนี่ย" มือบางวางทาบตรงตำแหน่งหัวใจเพื่อวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ใบหน้าหวานร้อนผ่าวราวกับนั่งอยู่หน้ากองเพลิงอย่างไรอย่างนั้น แม้จะอยู่กับคาเรนมาสักพักหนึ่งแล้วแต่ก็ใช่ว่าความเขินอายที่มีต่อการกระทำของเขามันจะลดน้อยลง กลับกันมันยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะคาเรนทำตัวน่ารักกว่าวันแรกๆที่เจอกันจนเธอเผลอหวั่นไหว และความรู้สึกนั้นมันก็พัฒนามาเรื่อยๆจนกลายเป็น...ความรัก
บ้าชะมัด! เธอเผลอรักคาเรนไปแล้ว
"อย่ามัวแต่เขินนะ ลูกหิวข้าวแล้ว!" ให้ตายสิ! เขามันร้ายกาจชะมัด อิงดาวยู่ปากเมื่อได้ยินเสียงของคาเรนดังเล็ดลอดเข้ามาในห้องน้ำ เธอพ่นลมหายใจหนักๆ แล้วเดินตรงไปเปิดฝักบัว พยายามไม่นึกถึงคำว่ารักของคาเรนที่ยังวนเวียนอยู่ในสมอง
@โรงพยาบาล (หลายวันต่อมา)
"สวัสดีครับคุณอิงดาว เป็นยังไงบ้างครับ" เพียงแค่เดินเข้ามาในห้องตรวจของนายแพทย์หนุ่ม คาเรนก็ทำหน้าบึ้งตึงด้วยความไม่พอใจ ต่างจากคนที่โดนทักทายอย่างอิงดาวที่ส่งยิ้มหวานให้หมอหนุ่ม
"สวัสดีค่ะ" เธอเอ่ยทักทายตามมารยาท
"วันนี้เรามีนัดอัลตร้าซาวด์กันนะครับ"
"แหกขี้ตามาโรงพยาบาลแต่เช้าก็เพื่อมาอัลตร้าซาวด์ปะ? ทำไมต้องพูดหลายรอบวะ" ยังไม่ทันที่อิงดาวจะตอบกลับนายแพทย์หนุ่ม คาเรนก็โพล่งแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่ชอบใจนัก ทำเอาอิงดาวกลอกตาไปมาอย่างเอือมระอา ขณะที่นายแพทย์หนุ่มยิ้มแห้งให้มาเฟียหนุ่ม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มาเฟียพ่อลูกอ่อน