มาเฟียพ่อลูกอ่อน นิยาย บท 44

ในเวลาต่อมาจึงตอบรับจูบดูดดื่มของคาเรนด้วยการดันเรียวลิ้นเข้าไปตวัดควานหาความหวานในโพรงปากหนาอย่างหนักหน่วง พร้อมกับยกมือขึ้นมาประคองใบหน้าคมคายไว้หลวมๆเพื่อไม่ให้คาเรนเบือนหน้าหนี ขณะที่เขาเองก็ยังเพลิดเพลินกับการดูดดึงเรียวลิ้นเล็ก สลับกับดูดกลืนน้ำลายของกันและกันอย่างไร้ความรังเกียจ ก่อนที่เธอจะเป็นฝ่ายถอนจูบออกในเวลาต่อมา เพราะรู้สึกว่าโดนช่วงชิงลมหายใจนานเกินไป

"เขินเหรอ?" อิงดาวอมยิ้มเชิงล้อเลียน พร้อมกับจิ้มแก้มสากเบาๆสองสามครั้ง ทว่าคาเรนกลับปัดมือออกอย่างไม่แรงนัก ทำราวกับไม่พอใจทั้งที่ใบหน้าและลำคอแดงก่ำไม่ต่างจากลูกตำลึงสุก เขาเสมองไปทางอื่นกลบเกลื่อนความเขินอาย แต่ใช่ว่าคนชอบแกล้งจะยอมหยุดง่ายๆ

"นายฝันว่าฉันบอกรักอย่างเดียวเองเหรอ ไม่ฝันถึงอย่างอื่นนอกจากนั้นเลยเหรอ"

"ทำไม เธอแอบลักหลับฉันรึไง" คาเรนขมวดคิ้วถาม แต่อิงดาวกลับยังคงอมยิ้ม แล้วเลื่อนใบหน้าเข้าไปจูบหนักๆกลางหน้าผาก จากนั้นจึงลากริมฝีปากลงมาหอมแก้มสากทั้งสองข้างฟอดใหญ่ ก่อนจะวกกลับไปจูบเบาๆบนปลายจมูกโด่งคม ทำเอาใบหน้าของคนโดนกระทำแดงซ่านมากกว่าเดิม ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำแบบนี้กับเขามาก่อนเลย นั่นคงเป็นเพราะเขาไม่เคยเปิดโอกาสให้ผู้หญิงเหล่านั้นได้ทำเหมือนอิงดาว

"ฉันทำแบบนี้ทุกวันเลยนะ" เธอจูบหนักๆบนริมฝีปากหนาได้รูปเป็นการปิดท้าย "แล้วก็ทำแบบนี้ด้วย" ว่าจบก็เลื่อนใบหน้าลงไปจูบเบาๆตรงตำแหน่งหัวใจของคาเรน

"ฉันรักนายนะ ถึงจะร้ายก็รัก"

"งั้นช่วยหามฉันเข้าห้องไอซียูอีกสักรอบได้ไหม" คาเรนพูดติดตลกพลางหอบหายใจ หัวใจของเขามันอ่อนไหวกับความน่ารักของเธอ "หัวใจจะวายเพราะโดนเธอแกล้งแล้วเนี่ย"

อิงดาวหัวเราะในลำคอเบาๆอย่างนึกขำ ก่อนจะซบหน้าลงตรงแผงอกแกร่งอีกครั้ง พร้อมกันนั้นก็กอดรัดเอวสอบไว้หลวมๆ ด้วยกลัวว่าหากกอดรัดแน่นเกินไปจะทำให้คาเรนอึดอัด

"นายรักฉันไหม"

"เคยบอกไปแล้วนิ"

"ตอนนั้นกับตอนนี้มันคนละเวลากันนิ"

"ฉันเคยบอกเธอแล้วไม่ใช่เหรอว่าฉันชอบแสดงออกมากกว่าพูด" เขาพลิกตัวเข้าหาอีกครั้ง พร้อมสบตากับหญิงสาวอย่างจริงจัง การที่เขาไม่ชอบพูดคำว่ารักมันไม่ได้หมายความว่าความรู้สึกดีๆที่เขามีต่อเธอมันลดน้อยลง

"บอกหน่อยนะ เดี๋ยวจะนอนให้ป้อนนมทั้งคืนเลย" คาเรนยิ้มกริ่มเมื่อได้ยินอย่างนั้น

"ไม่อยากเป็นคนป้อนแล้ว อยากโดนป้อนบ้าง"

"ของแบบนี้มันต้องมีข้อแลกเปลี่ยนนะ" อิงดาวยิ้มมุมปากอย่างเหนือกว่า แต่มีหรือที่คนอย่างคาเรนจะไม่รู้ทันความคิดเจ้าเล่ห์ของเธอ เขาค่อยๆเลื่อนใบหน้าเข้าไปจูบหนักๆบนริมฝีปากอวบอิ่มอีกครั้ง

"ฉันรักเธอ ถึงจะน้อยใจเก่งก็รัก"

"พูดอีกสิ ฉันอยากฟังบ่อยๆ"

"ไม่ให้จูบแล้ว" นิ้วชี้เรียวยาวราวกับผู้หญิงยกขึ้นมาแตะริมฝีปากของคนตัวเล็กเบาๆในตอนที่เธอตั้งท่าจะขยับใบหน้าเข้ามาขบเม้มริมฝีปาก ทำเอาอิงดาวยู่ปากเมื่อโดนขัดใจ

"ฉันไม่ชอบพูดอะไรแบบนั้นหลายๆครั้ง"

"ตลอดอะ"

"เดี๋ยวก็จับอัลตร้าซาวด์ซะหรอก"

"ได้ข่าวว่าเพิ่งฟื้นนะคะคุณพ่อ" อิงดาวเย้าแหย่คนรัก พร้อมกับยกขาขึ้นมาพาดบนท่อนขาแกร่ง ขณะที่มือบางลูบไล้เบาๆตรงลำคอหนา ทว่าบานประตูกลับถูกผลักเข้ามาเสียก่อนในตอนที่เธอกำลังจะเลื่อนใบหน้าเข้าหาอีกครั้ง ทำให้เธอกับคาเรนพร้อมใจกันหันมองไปยังบุคคลที่เพิ่งเปิดประตูเดินเข้ามาอย่างถือวิสาสะ

อิงดาวดีดตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่าคนที่เพิ่งเดินเข้ามาคือพ่อกับแม่ของเธอ แต่คาเรนกลับยังนอนอยู่ท่าเดิม เขายกมือไหว้ว่าที่พ่อตาและว่าที่แม่ยายอย่างอ่อนน้อม แม้ว่าไอศูรย์จะไม่รับไหว้ก็ตามที

"ตื่นแล้วเหรอคาเรน" นลินทิพย์ทักทายว่าที่ลูกเขยอย่างเป็นกันเอง ทั้งที่ไม่ได้สนิทสนมกันแต่ใบหน้าของเธอกลับแสดงความดีใจที่เห็นคาเรนนอนลืมตาอยู่บนเตียงผู้ป่วย

"แม่พูดเหมือนคาเรนนอนหลับไปเมื่อคืนเลยนะคะ" อิงดาวท้วง

"แม่พูดถูกนะ ฉันแค่หลับนานไปหน่อยแค่นั้นเอง" นลินทิพย์ยิ้มขำเมื่อเห็นคาเรนเออออไปกับเธอด้วย ต่างจากอิงดาวที่กลอกตาไปมาอย่างนึกหมั่นไส้ ขณะที่ไอศูรย์เดินเลี่ยงไปนั่งตรงโซฟา ดวงตาคมกริบจ้องมองใบหน้าเปื้อนยิ้มของมาเฟียหนุ่มอายุน้อยกว่าอย่างไม่พอใจนัก

"แล้วนี่แผลเป็นยังไงบ้าง เรียกหมอมาดูอาการรึยัง แม่ว่าให้หมอดูอาการสักหน่อยก็ดีนะ"

"เดี๋ยวค่อยให้หมอเข้ามาตรวจทีหลังก็ได้ครับ ผมอยากอยู่กับอิงดาวก่อน" ท่อนแขนแกร่งตวัดขึ้นมาพาดบนท่อนขาของคนตัวเล็ก โดยไม่สนใจสายตาของว่าที่พ่อตาที่กำลังมองอยู่ ซึ่งอิงดาวก็เอี้ยวหน้ากลับไปส่งยิ้มหวานให้

"ความรักของหนุ่มสาวนี่น่าอิจฉาจังเลยนะ" แค่เห็นลูกสาวกลับมายิ้มแย้มได้อีกครั้งนลินทิพย์ก็พลอยมีความสุขไปด้วย เช่นเดียวกันกับไอศูรย์ที่ลอบยกยิ้มเมื่อเห็นรอยยิ้มของลูกสาว แต่เขากลับทำใจยอมรับที่มาของรอยยิ้มนั้นไม่ได้เสียที

"พ่อครับ" คาเรนค่อยๆหยัดกายลุกขึ้น สายตาที่จ้องมองไอศูรย์มีแววจริงจัง

"ฉันไม่ใช่พ่อแก" มาเฟียใหญ่แย้งเสียงเข้ม แต่เมื่อโดนนลินทิพย์ตวัดสายตามองก็ถอนหายใจพรืดใหญ่ จำใจต้องรับฟังในสิ่งที่คาเรนพรั่งพรูออกมา

"ผมขอโทษนะครับที่ทำทุกอย่างไม่ถูกต้องตั้งแต่แรก แต่ผมพร้อมจะรับผิดชอบชีวิตของอิงดาวกับลูกนะครับ"

"คนอย่างแกจะรับผิดชอบชีวิตของใครได้"

"ถ้าพ่อมองแต่อดีตของผมพ่อก็จะเห็นแต่ความเสเพลของผม แต่ถ้าพ่อมองปัจจุบันของผม พ่อจะเห็นว่าผมไม่เหมือนเดิมแล้ว"

"..." ไอศูรย์เบือนหน้าหนี ไม่อยากยอมรับว่าสิ่งที่คาเรนพูดมานั้นคือความจริง

"พ่อบอกเองนะคะว่าถ้าคาเรนรอดพ่อจะให้หนูกับเขาคบกันได้" อิงดาวกดดันผู้เป็นพ่อ

"ช่างเขาเถอะลูก เราอยู่ด้วยกันแค่นี้ก็ได้ ไม่มีตาสักคนหลานแม่ก็คงไม่ขาดความอบอุ่นหรอก" นลินทิพย์พูดขึ้นเสียงดัง ทำเอาไอศูรย์รีบตวัดสายตากลับมามองภรรยา

"คุณกล้าทิ้งผมจริงๆเหรอลิน"

"ทำไมคุณถึงคิดว่าฉันจะไม่กล้าทิ้งคุณล่ะคะ" นลินทิพย์หมุนตัวกลับไปถาม

"เพราะคุณรักผมไง เราผ่านอะไรมาด้วยกันตั้งมากมาย"

"แล้วคุณรักฉันไหมคะ"

"เมียใครๆก็รัก"

"ถ้าฉันรักก็ยอมรับคาเรนเป็นลูกเขยสิคะ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มาเฟียพ่อลูกอ่อน