มาเฟียพ่อลูกอ่อน นิยาย บท 56

"ละ..ลูกหน้าเหมือนนายเลย" อิงดาวอมยิ้มทั้งน้ำตาด้วยความตื้นตันใจ ความเจ็บปวดและความเหนื่อยล้าเหมือนจะหายไปในพริบตาเมื่อได้เห็นใบหน้าของลูกน้อยที่เฝ้ารอมาตลอดเก้าเดือน มันเป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย นี่คือการรอคอยที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับคนเป็นแม่อย่างเธอ

"ลูกน่ารักมาก น่ารักเหมือนเธอเลย" คาเรนไม่รู้ตัวเลยว่าน้ำตาลูกผู้ชายมันไหลออกมาคลอเบ้าตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาตระกองกอดลูกสาวตัวน้อยไว้ในอ้อมแขนด้วยความหวงแหนสุดหัวใจ ตอนนี้ไม่สามารถละสายตาจากใบหน้าเปียกชุ่มของลูกน้อยได้เลย ยิ่งเธอมีใบหน้าที่ละม้ายคล้ายคลึงกับเขา ก็ยิ่งมั่นใจว่าเธอคือลูกของเขาจริงๆ

"ผมว่าเรารีบไปโรงพยาบาลกันเถอะครับ อย่างน้อยก็เพื่อความมั่นใจ" นายแพทย์หนุ่มพูดขึ้นขัดจังหวะหลังจากนั่งมองภาพน่าประทับใจมาหลายนาที ทว่าคำพูดของเขากลับเหมือนธาตุอากาศสำหรับคาเรน เพราะคาเรนยังให้ความสนใจกับลูกน้อยในอ้อมแขนเพียงอย่างเดียว ขณะที่อิงดาวยื่นมือสั่นเทิ้มขึ้นไปจับฝ่าเท้าน้อยเบาๆ

"นายอยากเป็นคนตั้งชื่อลูกเองไหม"

"เฟรย่า ลูกสาวของเราชื่อเฟรย่า" คาเรนยอมละสายตาจากใบหน้าจิ้มลิ้มของลูกสาวตัวน้อย เขาส่งยิ้มให้อิงดาวเป็นการขอบคุณที่เธอยังอยู่กับเขาตรงนี้ และมอบของขวัญสุดพิเศษให้กับเขา

"นี่แอบตั้งชื่อลูกไว้นานแล้วเหรอ"

"นานพอๆกับแอบอ่านตำราหมอตำแยนั่นแหละ" อิงดาวหลุดขำอย่างนึกเอ็นดูกับคำตอบของคาเรน เช่นเดียวกับชานนท์ที่พลอยอมยิ้มไปด้วย

"ขอบคุณที่รัก ฉันรักเธอ" ใบหน้าคมคายโน้มลงมาหอมกลางหน้าผากมนหนักๆ ซึ่งอิงดาวก็หลับตาพริ้มซึมซับความรักจากสัมผัสของเขา

"เอ่อ ขออนุญาตขัดจังหวะอีกรอบนะครับ แต่ผมว่าเรารีบไปโรงพยาบาลกันดีกว่าไหมครับ" น้ำเสียงเกรงใจของชานนท์ทำให้คาเรนค่อยๆถอนจูบออกแม้จะไม่ค่อยเต็มใจนัก เขาตวัดสายตามองนายแพทย์หนุ่มอย่างนึกรำคาญ ทำเอาคนโดนจ้องมองรู้สึกเสียวสันหลังวาบ

"มึงเอาเครื่องมืออะไรมาบ้าง ตัดสายสะดือให้ลูกกูได้ไหม"

"พอดีผมเพิ่งเปลี่ยนรถคันใหม่ เลยไม่ได้เอาอุปกรณ์อะไรใส่ไว้เลย ผมว่าเรารีบไปโรงพยาบาลกันเถอะครับ จะได้เช็กร่างกายของน้องอิงให้แน่ใจด้วยว่าไม่เป็นอะไร" นายแพทย์หนุ่มเสนอทางออก "เดี๋ยวผมอุ้มลูกให้เองครับ ส่วนคุณคาเรนก็อุ้มน้องอิงลงไปที่รถก็ได้"

"..." คาเรนมองใบหน้าของลูกสาวตัวน้อยกับอิงดาวสลับกันไปมาอย่างชั่งใจ ก่อนจะส่งสายตาขอโทษให้อิงดาว

"ฉันรักเธอนะที่รัก แต่ฉันไม่อยากให้กลิ่นตัวไอ้หมอมันแปดเปื้อนร่างกายของลูก"

"แล้วนายจะยอมให้กลิ่นตัวพี่หมอติดตัวฉันเหรอ"

"ถ้ามันมีทางเลือกที่ดีกว่านั้นฉันจะไม่ยอมให้มันหรือใครแตะต้องตัวเธอเด็ดขาด" อิงดาวตีสีหน้าเรียบเฉยอย่างนึกน้อยใจ แม้จะเข้าใจว่าคาเรนหวงลูกสาว แต่ก็อดน้อยอกน้อยใจไม่ได้ที่ถูกลดความสำคัญลงเมื่อลูกน้อยลืมตาดูโลก

"พี่ว่าเรารีบไปโรงพยาบาลกันเถอะครับ" ชานนท์พูดขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นสีหน้าน้อยอกน้อยใจของหญิงสาว พร้อมกับสอดแขนเข้าไปใต้ต้นคอและข้อพับขาของเธอ

"ปล่อยเมียกูลงเดี๋ยวนี้เลย!" ทว่าเสียงตวาดเข้มของคาเรนก็ทำเอาเขาสะดุ้งตกใจ รีบวางอิงดาวลงบนเตียงอีกครั้งอย่างรวดเร็ว

"ไปหยิบเสื้อคลุมในตู้มา" คาเรนออกคำสั่ง ซึ่งนายแพทย์หนุ่มก็ยอมทำตามอย่างไม่เรื่องมาก

เขาค่อยๆวางลูกสาวตัวน้อยลงบนอ้อมอกของอิงดาว แล้วหยิบเสื้อคลุมในมือชานนท์มาปิดต้นขาให้เธอ จากนั้นจึงช้อนตัวเธอขึ้นอย่างระมัดระวัง เขาทำให้สีหน้าเรียบเฉยของอิงดาวกลับมาเปื้อนรอยยิ้มมุมปากอีกครั้ง ในขณะที่ชานนท์ได้แต่ยืนมองการกระทำของมาเฟียหนุ่มอย่างมึนงง เขาไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหนหวงเมียและลูกแม้กระทั่งกับหมอแบบนี้เลย

"ถ้าเมื่อกี้นายยอมให้พี่หมออุ้มฉัน ฉันคงคิดว่านายรักฉันน้อยลงแล้ว" อิงดาวพูดขึ้นหลังจากคาเรนเดินพ้นขอบประตูห้องนอนออกมา

"ใครมันจะหมดรักเร็วขนาดนั้น"

"เผื่อนายได้ลูกแล้วลืมฉันไง"

"ฉันไม่ลืมคนที่ทำให้ฉันมีความสุขหรอก" คาเรนก้มมองหญิงสาวในอ้อมแขนด้วยสีหน้าจริงจิง "เธอเป็นความสุขของฉันมานานแล้วนะ ต่อให้เราจะมีลูกด้วยกันอีกสักกี่คน เธอก็ยังจะเป็นความสุขของฉันอยู่ดี"

"นายก็เป็นความสุขของฉันเหมือนกันนะ"

"รู้นานแล้ว" อิงดาวลอบเบ้ปากอย่างนึกหมั่นไส้ ก่อนจะซบหน้าลงตรงแผงอกแกร่งด้วยความเหนื่อยล้า พร้อมกอดประคองลูกน้อยไว้มั่น

@โรงพยาบาล

"อื้อ~" แสงสว่างจากหลอดไฟบนเพดานที่ตกกระทบลงมาสู่ใบหน้าและเปลือกตา ปลุกอิงดาวที่นอนหลับมานานหลายชั่วโมงให้ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอไม่รู้ตัวเลยว่าผล็อยหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้เพียงแค่ว่าภาพสุดท้ายที่เห็นคือคาเรนกำลังนั่งหยอกล้อกับลูกสาวอยู่ข้างๆเตียง

"เกาพุงๆ ไหนขอแด๊ดเกาพุงหน่อย" มุมปากบางยกยิ้มเอ็นดูเมื่อเหลือบเห็นคาเรนกำลังนั่งหยอกล้อกับเฟรย่าอยู่ข้างๆเตียงเหมือนเดิม เขากลายเป็นผู้ชายอบอุ่นเมื่ออยู่ต่อหน้าลูก การกระทำอ่อนโยนมันลบภาพมาเฟียโหดเหี้ยมของเขาไปจนแทบไม่อยากเชื่อว่านี่คือคาเรนคนเดิม

"ตื่นแล้วเหรอ" เขาเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้เมื่อเห็นเธอขยับพลิกตัวไปมา

"นี่อย่าบอกนะว่านั่งคุยกับลูกทั้งคืนเลย"

"ก็นอนไม่หลับ เลยนั่งคุยกับลูกแทน แต่ตัวเล็กหลับไปตั้งแต่พร้อมเธอแล้ว เลยต้องเล่นคนเดียวเนี่ย"

"แล้วนี่โทรบอกพ่อกับแม่รึยัง"

"อาทิตย์หน้าค่อยโทรบอก"

"ทำไม หวงลูกรึไง"

"ขอเลี้ยงลูกเองก่อน ไม่อยากให้ปู่ย่าตายายมาช่วยเลี้ยง" อิงดาวอมยิ้มล้อเลียน ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าคาเรนกำลังหวงลูกสาว

"แล้วให้พี่หมอตรวจดีเอ็นเอรึยัง"

"ฉันว่ามันไม่จำเป็นแล้ว"

"แต่ฉันอยากให้นายตรวจนะ ฉันไม่ชอบอะไรที่มันค้างคา" เธอค่อยๆพลิกตัวนอนตะแคงข้าง พร้อมกับยกแขนขึ้นมากอดลูกสาวไว้หลวมๆ

"พอได้เห็นหน้าลูกฉันก็ลืมเรื่องตรวจดีเอ็นเอไปเลย ฉันไม่อยากรู้ผลของมันแล้ว"

"ทำไม กลัวว่าเฟรย่าจะไม่ใช่ลูกของนายเหรอ"

"เปล่า ฉันแค่รู้สึกว่าเฟรย่าเป็นลูกของฉันจริงๆ ความรู้สึกมันบอกแบบนั้น"

"แต่สำหรับฉันความรู้สึกอย่างเดียวมันไม่พอหรอก" มือบางยกขึ้นมาลูบแก้มสากเบาๆ "ฉันขอตรวจดีเอ็นเอนะ นายจะได้มั่นใจเต็มร้อยไงว่าไม่ได้เลี้ยงลูกคนอื่น ฉันเองก็จะได้ไม่มีอะไรค้างคาด้วย"

"รู้ไหมถึงเฟรย่าจะไม่ใช่ลูกของฉัน ฉันก็ไม่ยอมยกให้ใครหรอก เพราะฉันทำคลอดเองกับมือ แล้วก็จะเลี้ยงเองกับมือด้วย" อิงดาวอมยิ้มเล็กน้อย ท่าทางมาดมั่นของคาเรนทำให้เธอเชื่อมั่นว่าเขาจะสามารถเป็นพ่อที่ดีของเฟรย่าได้

รวมถึงเป็นสามีที่ดีของเธอด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มาเฟียพ่อลูกอ่อน