มาเฟียพ่อลูกอ่อน นิยาย บท 62

"อื้อ~" แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาทางม่านระเบียงกระทบกับใบหน้าคมคายและเปลือกตา ปลุกคาเรนที่กำลังนอนหลับให้ตื่นขึ้นมาสูดอากาศบริสุทธิ์ของเช้าวันใหม่ เขาเปล่งเสียงครางในลำคออย่างงัวเงียพลางกวาดแขนไปมาบนเตียงนอนใหญ่เพื่อหาอิงดาวกับลูกสาวตัวน้อยที่เคยนอนอยู่ข้างๆ ก่อนจะปรือตามองรอบๆห้องเมื่อสัมผัสได้เพียงความเย็นเฉียบของเตียง

"ทาแป้งหน่อยนะคะจะได้สวยๆ หนุ่มๆจะได้หันมอง" เขาหยุดโฟกัสสายตาไว้ที่รอยยิ้มหวานของอิงดาวขณะที่เธอกำลังนั่งทาแป้งให้ลูกสาวตัวน้อยอยู่บนพื้น โดยที่เฟรย่าเองก็เหมือนจะชอบใจ เธอนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้ผู้เป็นแม่

"จะพาลูกไปมหาลัยด้วยเหรอ" น้ำเสียงงัวเงียของคาเรนทำให้อิงดาวที่กำลังหยอกล้อกับลูกสาวต้องเงยหน้าขึ้นมามองเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้

"อืม" เธอครางตอบในลำคอ

"วันนี้ไม่มีสอบเหรอ แล้วทำไมตื่นแล้วไม่ปลุกฉัน" ท่าทางเฉยชาไม่เหมือนเดิมของอิงดาวมันทำให้คาเรนคิดว่าเธอมีบางอย่างเปลี่ยนไป

"ฉันคิดว่านายคงเหนื่อยเลยไม่อยากกวน" เธอตอบเสียงเรียบ พร้อมกับอุ้มเฟรย่าขึ้นแนบอก

"เป็นอะไรรึเปล่า ทำเหมือนไม่อยากคุยกับฉันเลย ฉันทำอะไรให้เธอไม่สบายใจรึเปล่า"

"ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่รู้สึกว่าช่วงนี้ฉันทำหน้าที่แม่ไม่เต็มที่เลย เลยอยากเลี้ยงเฟรย่าเองบ้าง นายจะได้มีเวลาพักผ่อนอย่างที่นายต้องการไง"

"ทำไมต้องประชดวะ มีอะไรก็พูดกันตรงๆดิ"

"ต่อไปนี้ฉันจะเลี้ยงลูกเอง" เธอคลี่ยิ้มบางเพื่อไม่ให้ถ้อยคำดูรุนแรงเกินไป "ฉันไปเรียนก่อนนะ"

"เดี๋ยว!" คาเรนโพล่งขึ้นเสียงดังในตอนที่อิงดาวตั้งท่าจะอุ้มเฟรย่าเดินออกไป เขาตวัดขาเรียวยาวราวกับนายแบบก้าวลงจากเตียง แล้วเดินเข้ามายืนขวางหน้า

"เลี้ยงลูกเองมันหมายความว่ายังไงวะ"

"ฉันแค่อยากแบ่งเบาภาระของนาย ไม่อยากให้นายคิดว่าการเลี้ยงลูกมันเหนื่อยขนาดนั้น ฉันไม่ได้ประชดนะ แค่ไม่อยากให้นายเหนื่อยคนเดียว"

"โกรธฉันเพราะเรื่องแค่เนี่ยนะ?" มาเฟียหนุ่มแค่นหัวเราะในลำคอเบาๆ "ฉันไม่ได้ไล่เธอให้ไปเลี้ยงลูกคนเดียวนะ เมื่อวานฉันเหนื่อยมากที่โดนเฟรย่ากวนทั้งวัน เลยพูดออกไปแบบนั้นเพราะอยากให้เธอรับรู้ถึงความเหนื่อยของฉัน"

"ตอนฉันอุ้มท้องเก้าเดือนฉันก็เหนื่อยนะ" หญิงสาวยิ้มบางพลางลูบหลังลูกสาวเบาๆ "ตอนนายต้องไปทำงานฉันก็เคยหยุดเรียนหลายครั้งเพื่อเลี้ยงลูกเอง ฉันตื่นขึ้นมาปั๊มนมตอนเช้าเวลาที่ไม่ได้อยู่กับลูกทั้งวัน รวมถึงดูแลเอาใจนายด้วย"

"..."

"นายทำเหมือนเลี้ยงลูกคนเดียวเลยนะ ทั้งที่ฉันก็ไม่เคยละเลยหน้าที่แม่เลย แต่ก็เข้าใจนะว่านายคงเหนื่อย เพราะนายทำงานหนักกว่าฉัน"

"ถ้าเป็นเรื่องเมื่อวานฉันพูดไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบนะ ฉันขอโทษ ไม่คิดว่าเธอจะคิดมากกับคำพูดสิ้นคิดของฉันขนาดนี้" เขานี่มันแย่จริงๆ ชอบใช้คำพูดทำร้ายความรู้สึกของคนอื่นอยู่ร่ำไป

"ฉันเหนื่อยเลยพูดออกไปแบบนั้น ขอโทษนะ" มือหนาประคองใบหน้าหวานไว้มั่น แล้วเลื่อนใบหน้าเข้าไปจูบหนักๆบนริมฝีปากอวบอิ่มเป็นการขอโทษที่ใช้คำพูดทำร้ายจิตใจเธอ แต่อิงดาวกลับไม่ได้จูบตอบเหมือนเลยครั้งที่ผ่านมา มันทำให้เขาใจเสีย

"เป็นอะไรไปที่รัก โกรธฉันมากเลยเหรอ"

"ฉันต้องไปมหาลัยแล้ว ไม่อยากไปเรียนสาย"

"เดี๋ยวฉันเลี้ยงลูกเอง" เพราะไม่อยากห่างจากลูกสาวตัวน้อย คาเรนจึงพยายามจะอุ้มเฟรย่าออกจากอ้อมแขนของอิงดาว ทว่าเด็กน้อยกลับเบ้ปากงอแง พร้อมกอดคอแม่ไว้แน่น

"ไม่อยากอยู่กับพ่อแล้วเหรอครับตัวเล็ก" เขาเดินอ้อมไปข้างหลังเพื่อหยอกล้อกับลูกสาว ซึ่งเฟรย่าก็มองเขาตาแป๋ว แต่เพียงไม่กี่วินาทีต่อมาเธอก็เบือนหน้าหนีไปหาอิงดาว

"วันนี้ลูกคงอยากอยู่กับฉันล่ะมั้ง นายไปนอนต่อเถอะ ตอนเย็นค่อยเล่นกับลูกก็ได้"

"รอสักห้านาทีได้ไหม ฉันขอล้างหน้าแปรงฟันก่อน เดี๋ยวไปส่ง"

"ฉันขับรถไปเองเร็วกว่านะ"

"งั้นบอกรักฉันก่อน" คาเรนก้าวเข้ามายืนตรงหน้าอีกครั้ง เฟรย่าที่เห็นอย่างนั้นรีบเบือนหน้ากลับไปทางเดิม ราวกับเหม็นหน้าพ่อเสียเต็มประดา

"รักนายนะ"

"รักเธอเหมือนกัน" ใบหน้าคมคายเลื่อนเข้าไปหอมหน้าผากมนฟอดใหญ่ ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากไปหอมศีรษะทุยเล็กของลูกสาวเบาๆ

อิงดาวไม่ได้พูดอะไรมากกว่านั้น เธอเลือกที่จะเดินออกมาในทันที ทำเอาคาเรนถอนหายใจพรืดใหญ่กับท่าทางที่ไม่เหมือนเดิมของเธอ

"ปากหมาจนได้เรื่องอีกแล้วนะมึง" เขาคิดว่าคำพูดมันสามารถอธิบายความรู้สึกของคนเราได้ดีที่สุด ในขณะเดียวกันมันก็เป็นดาบสองคมที่ทำร้ายความรู้สึกของคนฟังได้เหมือนเดิม คงจะโทษอิงดาวไม่ได้ที่เธอตีความหมายไปไกล เพราะคนผิดมันคือเขาเองที่พูดไม่คิด

"อ๊ายยยยยย หลานฉันนนนน!" ทันทีที่อิงดาวเดินเข้ามาในลานกว้างของคณะฯ เพื่อนสาวอย่างทับทิมที่นั่งรออยู่ก็รีบปรี่เข้ามาหาเด็กน้อยในอ้อมแขนของเธอ

"กว่าจะเปิดตัวหลานได้นะแก" ทับทิมว่า พร้อมยื่นหน้าเข้าไปหาเฟรย่า "แก้มป่องจังเลยลูก ขอพี่คนสวยอุ้มหน่อยได้ไหมคะ"

เฟรย่ายิ้มหวานทักทาย ไม่ได้แสดงท่าทางหวาดกลัวหรือตกใจคนแปลกหน้าเลย มิหนำซ้ำยังยื่นแขนทั้งสองข้างให้ทับทิม ซึ่งเธอก็ไม่รอช้าที่จะอุ้มหลานตัวน้อยมากอดไว้

แน่นอนว่าตอนนี้หลายคนในมหาวิทยาลัยรับรู้ว่าเธอมีลูกแล้ว เพราะบ่อยครั้งที่คาเรนอุ้มเฟรย่ามาส่งเธอที่มหาลัย แต่ไม่เคยมีใครได้สัมผัสกับความน่ารักของเฟรย่าอย่างใกล้ชิดสักที นั่นเพราะคาเรนเป็นคนหวงลูกมาก เขาไม่ชอบให้คนอื่นถูกเนื้อต้องตัวเฟรย่าหากไม่จำเป็น

"แล้วคนอื่นๆหายไปไหนหมด"

"ยัยทีน่ากับยัยมัดหมี่ยังไม่มาเลย สงสัยไว้อาลัยให้กับคะแนนสอบเมื่อวานอยู่ล่ะมั้ง" อิงดาวอมยิ้มอย่างนึกขำกับคำพูดของทับทิม ก่อนจะเดินเข้าไปทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้หินอ่อน โดยมีทับทิมเดินอุ้มเฟรย่าตามหลังมา

"แม่ฝรั่งน้อยหน้าหวานของพี่ทับทิม ทำไมแก้มหนูป่องน่าฟัดแบบนี้ล่ะคะลูก"

"แอ๊ะ" เด็กน้อยยิ้มกว้างชอบใจเมื่อโดนทับทิมหอมแก้มฟอดใหญ่

"อย่ากินลูกฉันนะ" อิงดาวเย้าแหย่เพื่อนสาว แต่ทับทิมกลับไม่สนใจคำพูดของเธอเลย เพราะมัวแต่หยอกล้อกับหลานสาวตัวน้อย ซึ่งก็เหมือนว่าเฟรย่าจะเข้ากันได้ดีกับเพื่อนของเธอ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มาเฟียพ่อลูกอ่อน