มาเฟียพ่อลูกอ่อน นิยาย บท 63

"กลับบ้านกับพี่ทับทิมไหมคะ ที่บ้านพี่มีขนมกับของเล่นเยอะแยะเลยนะ มีเตียงนอนนุ่มๆไว้ให้ฝรั่งน้อยหน้าหวานของพี่นอนเล่นด้วย" อิงดาวกลอกตาไปมากับถ้อยคำหว่านล้อมของเพื่อนสาวที่พยายามจะโน้มน้าวใจให้เฟรย่ากลับบ้านไปกับหล่อนด้วย ตลอดทั้งวันที่อยู่ในมหาวิทยาลัย ทับทิมแทบจะไม่ยอมห่างจากเฟรย่าเลย ประหนึ่งว่าเฟรย่าเป็นลูกของตัวเองก็ไม่ปาน

"แอ๊ะ~" เด็กน้อยยิ้มหวานไร้เดียงสาขณะที่โดนทับทิมอุ้มออกมาจากอาคารเรียน ใบหน้าจิ้มลิ้มเปื้อนรอยยิ้มของเธอมองดูแล้วน่ารักน่าเอ็นดูจนทับทิมอดใจไม่ไหวที่จะกดสันจมูกลงไปหอมแก้มนวลฟอดใหญ่ เรียกเสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างชอบใจจากคนโดนขโมยหอมแก้ม

"ไหนหอมพี่ทับทิมคืนบ้างสิ" ทับทิมชะลอฝีเท้าพร้อมทำแก้มป่อง แล้วเอียงหน้าให้เด็กน้อย ซึ่งเฟรย่าก็ไม่รอช้าที่จะใช้ริมฝีปากน้อยๆเปื้อนน้ำลายแตะสัมผัสลงบนแก้มนวลเนียน

"ชื่นใจจังเลย เด็กอะไรน่ารักน่าเอ็นดู หนูกินอะไรเป็นอาหารลูกถึงได้ฉลาดเกินเด็กขนาดนี้"

"กินนมฉัน" อิงดาวที่เดินอยู่ข้างๆโพล่งขึ้น ทำเอาทับทิมเบ้ปาก

"แต่ฉันเคยได้ยินคนแก่หลายคนพูดกันว่าเด็กผู้หญิงส่วนใหญ่จะเหมือนพ่อนะ ถ้าหน้าตาไม่เหมือน บุคลิกก็ต้องเหมือน มันต้องมีสักอย่างที่เหมือนพ่อ ฉันว่าหลานฉันเหมือนพ่อเขานะ"

"คงงั้นมั้ง เพราะเฟรย่าหน้าตาเหมือนพ่อเขา"

"ฉันหมายถึงนิสัย ลองสังเกตดูสิ เฟรย่าเป็นเด็กฉลาดมากเลยนะ เหมือนกับพ่อที่เป็นมาเฟียเลย แถมยังชอบโปรยเสน่ห์ใส่คนแปลกหน้าอีก เหมือนพ่อที่เคยเป็นคาสโนว่ามาก่อน"

"ถ้าจะเหมือนก็ขอให้เหมือนแค่หน้าตาพอเถอะ นิสัยไม่ต้องคัดลอกพ่อมาหมดก็ได้ ฉันไม่อยากปวดหัวเพราะเห็นลูกควงผู้ชายไม่ซ้ำหน้า" ทับทิมหัวเราะในลำคออย่างขบขันกับคำพูดของเพื่อนสาว ก่อนจะส่งเฟรย่าคืนให้

"ฉันกลับบ้านก่อนนะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้ พี่ทับทิมกลับก่อนนะคะ เอาไว้ถ้าพ่อของฝรั่งน้อยหน้าหวานลดความโหดลงสักนิดพี่ทับทิมจะไปเล่นกับหนูที่บ้านบ่อยๆนะ" ประโยคแรกบอกลาเพื่อนสาว แต่ประโยคสุดท้ายหันมาพูดกับหลานสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนลง เฟรย่าที่เห็นอย่างนั้นยกมือน้อยๆขึ้นมาโบกลา ซึ่งทับทิมก็เลื่อนใบหน้าเข้าไปจูบมือน้อยนั้นเบาๆ ก่อนจะเดินเลี่ยงออกไป

เมื่อเพื่อนสาวเดินห่างออกไปไกลแล้ว อิงดาวจึงเลือกที่จะเดินตรงไปยังลานจอดรถหน้าคณะฯเหมือนกัน ทว่าในจังหวะที่กำลังจะเดินไปที่รถของตัวเอง เสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นจากทางด้านหลัง

"พาลูกมาเรียนด้วยเหรอวันนี้"

"อ้าว พี่แทนไทเดินมาจากไหนคะเนี่ย อิงมองไม่เห็นเลย" เธอหมุนตัวกลับไปทักทายแทนไท ซึ่งเขาเองก็อมยิ้มทักทายกลับมา

"ก็เดินออกมาจากอาคารเนี่ยแหละ"

"อ๋อค่ะ จะกลับบ้านแล้วเหรอคะ"

"ใช่ เห็นเด็กแถวนี้โบกมือให้เลยเดินเข้ามาทักซะหน่อย" เขายิ้มมุมปาก พร้อมกับชะโงกหน้าเข้าไปหาเด็กน้อยที่นอนซบหน้าอยู่กับบ่าของผู้เป็นแม่ เฟรย่าที่เห็นแทนไทยื่นหน้าเข้ามาหยอกเย้าหัวเราะอย่างชอบใจพร้อมส่งยิ้มหวาน

"โบกมือให้พี่ทำไมครับ อยากเล่นด้วยเหรอ หืม?"

"แอ๊ะ~" มือน้อยรีบจับนิ้วชี้เรียวยาวของแทนไทไว้มั่นเมื่อเขายกมันขึ้นมาแตะปลายจมูกเบาๆ พร้อมกับยื่นมืออีกข้างหนึ่งเข้าไปจับปลายจมูกโด่งคมของแทนไทเหมือนที่เขาทำกับเธอ

"อุ้มได้ไหม ขออุ้มคนสวยหน่อยได้ไหมครับ" เฟรย่ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่เมื่อแทนไทยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้ ทำราวกับจะหอมแก้ม เธอถีบขาไปมาพร้อมยื่นแขนทั้งสองข้างให้ ทำให้อิงดาวต้องยอมปล่อยลูกสาวออกจากอ้อมแขน

"ชื่ออะไรครับเนี่ย"

"เฟรย่าค่ะ" อิงดาวตอบ

"เฟรย่าที่เป็นเทพีแห่งความรักกับความงามใช่ไหม" แทนไทเย้าหยอก

"ประมาณนั้นมั้งคะ"

"ไหนเทพีแห่งความรักหน้าตาเป็นยังไง ขอดูใกล้ๆหน่อยได้ไหมครับ" เฟรย่าฉีกยิ้มจนตาหยีเมื่อโดนแทนไทขโมยหอมแก้มเบาๆ เธอใช้ท่อนแขนน้อยๆกอดรัดลำคอหนาไว้แน่น

"แล้ววันนี้พ่อของเทพีแห่งความรักไม่มาด้วยเหรอ" แน่นอนว่าเขารับรู้เรื่องราวของอิงดาวไม่ต่างจากหลายคนในมหาลัย และความรู้สึกที่เขามีต่อเธอมันก็ไม่เหมือนเดิมมานานแล้ว เขาไม่ได้ชอบเธอเหมือนเมื่อก่อน ไม่ได้รู้สึกผิดหวังเวลาเห็นเธอกับผู้ชายของเธออยู่ด้วยกัน

"คงมีงานต้องทำมั้งคะ อิงก็ไม่รู้เหมือนกัน"

"ผู้หญิงพูดแบบนี้แสดงว่ากำลังน้อยใจ"

"หัดอ่านใจผู้หญิงได้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ" แทนไทยักไหล่ ก่อนจะหันความสนใจกลับมาที่ใบหน้าจิ้มลิ้มของเด็กน้อยในอ้อมแขน

"ขอหอมแก้มเทพีหน่อยได้ไหมครับ"

"แอ๊ะ~" นอกจากเฟรย่าจะไม่หวาดกลัวแทนไทแล้ว เธอยังส่งยิ้มไร้เดียงสาให้ ทำให้แทนไทอดใจไม่ไหวที่จะหอมแก้มเธอฟอดใหญ่

ฟอดดดดดด~

"ใครทาแป้งให้เทพีเนี่ย ห๊อมหอม" อิงดาวที่ยืนมองอยู่พลอยอมยิ้มไปด้วยกับท่าทางชอบใจของลูกสาว

"เอ่อ อิงว่าอิงขอตัวพาลูกกลับบ้านก่อนดีกว่าค่ะ ป่านนี้คาเรนคงรอเล่นกับลูกแล้ว"

"โอเค เดี๋ยวพี่อุ้มเทพีเข้าไปในรถให้" แทนไทพยักหน้ารับ พร้อมกับเดินตรงไปเปิดประตูรถฝั่งที่นั่งข้างคนขับเมื่ออิงดาวเดินนำไปก่อน พร้อมกับวางเฟรย่าลงบนที่นั่งสำหรับเด็กเสร็จสรรพ

"รถเสียเหรอ" เขาชะโงกหน้าถามเมื่อเห็นอิงดาวพยายามสตาร์ตเครื่องยนต์หลายครั้งแต่ก็ไม่ติดสักที

"ใช่ค่ะ สงสัยมันเกเรอีกแล้ว"

"พี่อยากทำตัวเป็นพระเอกช่วยนางเอกซ้อมรถนะ แต่พอดีพี่ไม่รู้เรื่องพวกนี้จริงๆ"

"ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวโทรหาคาเรนให้มารับก็ได้" เธอว่า พร้อมหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าใบหรู ต่อสายหาคาเรนทันที รอสายไม่นานเขาก็รับสาย แต่ทว่า...

(ฉันทำงานอยู่ ไว้เจอกันที่บ้านนะ) ยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดอะไรคาเรนก็วางสายไปแล้ว

อิงดาวถอนหายใจพรืดใหญ่ ก่อนจะตัดสินใจโทรหาลูกน้องของคาเรนที่เธอคิดว่าคงจะอยู่ที่บ้าน แต่กลับไม่มีใครรับสายเธอเลย

"หายไปไหนกันหมดเนี่ย"

"ไม่มีใครรับสายเหรอ ให้พี่ไปส่งไหม" แทนไทที่กำลังหยอกล้อกับเฟรย่าขันอาสา

"ไม่รบกวนดีกว่าค่ะ ไม่อยากทะเลาะกับคาเรนอีก เขายิ่งขี้หึงอยู่ด้วย เดี๋ยวอิงนั่งแท็กซี่กลับเองก็ได้ค่ะ"

"จะดีเหรอ พี่ว่ามันไม่ปลอดภัยเลยนะ ให้พี่ไปส่งเถอะ"

"แอ๊ะ~" เด็กน้อยปรบมือชอบใจราวกับเห็นด้วย

"เห็นไหมว่าเทพีอยากให้พี่ไปส่ง"

"อิงไม่อยากทะเลาะกับคาเรนค่ะ"

"แต่พี่ว่าคุณคาเรนเขาคงไม่อยากให้อิงกับลูกนั่งแท็กซี่กลับบ้านเองเหมือนกันนะ แล้วพี่ว่ามันก็อันตรายมากด้วย อย่าเสี่ยงเลย" อิงดาวทำหน้าลำบากใจ เธอไม่อยากทะเลาะกับคาเรนถ้าเขากลับมาเห็นพอดีว่าแทนไทไปส่งเธอกับเฟรย่าที่บ้าน แต่การนั่งแท็กซี่กลับบ้านมันก็เสี่ยงเกินไปสำหรับแม่ลูกอ่อนอย่างเธอ

"ก็ได้ค่ะ" แทนไทอมยิ้มเมื่ออิงดาวตอบตกลง เขารีบอุ้มเด็กน้อยขึ้นแนบอก แล้วเดินตรงไปยังรถของตัวเองที่จอดอยู่ไม่ไกลนัก โดยมีอิงดาวเดินตามหลังไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มาเฟียพ่อลูกอ่อน