"ขอบคุณนะคะที่มาส่ง" อิงดาวกล่าวขอบคุณพร้อมอุ้มลูกสาวตัวน้อยที่กำลังนั่งเล่นอยู่บนหน้าตักขึ้นแนบอก เมื่อรถยนต์คันหรูของแทนไทขับเคลื่อนเข้าไปจอดเทียบหน้าบ้านใหญ่
"พี่ส่งแค่นี้นะ เผื่อคุณคาเรนอยู่ในบ้านแล้วเดินออกมาเห็นจะเป็นเรื่อง ไม่อยากเป็นตัวต้นเหตุทำให้อิงกับแฟนผิดใจกัน"
"แค่นี้อิงก็เกรงใจจะแย่แล้วค่ะ ขอบคุณมากเลยนะคะที่มาส่งอิงกับเฟรย่าถึงบ้านเลย" เธอกล่าวคำขอบคุณอีกครั้งอย่างนึกเกรงใจ ซึ่งแทนไทก็ยิ้มรับคำขอบคุณ พร้อมกับยื่นมือเข้าไปบีบพวงแก้มป่องของเฟรย่าเบาๆ ขณะที่เด็กน้อยกำลังมองเขาตาแป๋ว เมื่อโดนหยอกล้อก็ยิ้มหวาน
"ขอหอมแก้มเทพีก่อนกลับบ้านได้ไหมครับ ให้หอมไหม" เฟรย่าหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างชอบใจเมื่อแทนไทยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้ ก่อนที่เขาจะจรดริมฝีปากลงบนพวงแก้มนวลเนียน
"แก้มเทพีห๊อมหอม" สันจมูกคมคลอเคลียพวงแก้มนวลเบาๆ เขาหยอกเย้าเด็กน้อยสักพักจึงผละใบหน้าออกห่าง ทว่าในจังหวะนั้นกลับมีรถลีมูซีนคันหรูขับเข้ามาจอดเทียบข้างหลังพอดี
"ขับรถกลับบ้านดีๆนะคะ" อิงดาวกล่าวทิ้งท้าย แล้วรีบเปิดประตูก้าวลงจากรถ เพราะจำได้ว่ารถที่จอดเทียบอยู่ข้างหลังคือรถของคาเรนที่เขาชอบใช้เวลาออกไปคุยงานกับลูกค้า แทนไทที่หันกลับไปเห็นคาเรนเดินขึงขังลงมาจากรถลีมูซีนคันหรูรีบกระชากรถขับออกมาจากตรงนั้นด้วยความเร็วเพราะกลัวว่าจะทำให้อิงดาวเดือดร้อน โดยไม่ทันได้ฉุกคิดว่ารถของเขาไม่ได้ติดฟิล์มกันแดดดำทึบขนาดนั้น
"ทำแบบนี้มันหมายความว่ายังไงวะ! เธอกล้าพาผู้ชายมาพลอดรักหน้าบ้านฉันได้ยังไงวะ!" คาเรนตะเบ็งเสียงถามราวกับคนสติแตกเมื่อเห็นอิงดาวเดินอุ้มลูกสาวลงมาจากรถของผู้ชายคนอื่น ภาพที่ผู้ชายคนนั้นกำลังหยอกล้อกับเฟรย่าอย่างสนิทสนมมันกระตุ้นอารมณ์เดือดดาลของเขา
"มันไม่ใช่แบบนั้นนะ คาเรนฟังฉันก่อนสิ"
"พยายามตีตัวออกห่างจากฉันเพราะอยากหาพ่อใหม่ให้เฟรย่าเหรอวะ! ทำไมเธอร่านแบบนี้วะ! มีฉันเป็นผัวคนเดียวมันไม่พอรึไง!"
"..." ไม่อยากเชื่อว่านั่นจะเป็นคำพูดที่หลุดออกจากปากของผู้ชายที่พร่ำบอกว่ารักเธอนักหนา อิงดาวมองชายคนรักด้วยแววตาสั่นระริก ผิดหวังกับสิ่งที่คาเรนเอื้อนเอ่ยออกมา
"แม่งเอ้ย! ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วยวะ!"
"แงงงงงงงงงง!" การแสดงอารมณ์เกรี้ยวกราดของคาเรนสร้างความหวาดกลัวให้เฟรย่า เธอตะเบ็งเสียงร้องไห้ดังลั่นพลางกอดรัดลำคอของผู้เป็นแม่ไว้แน่นราวกับขวัญเสีย
เสียงร้องไห้ของลูกสาวฉุดรั้งสติของคาเรนกลับมา เขาลูบหน้าเบาๆ พยายามระงับอารมณ์เดือดดาลไม่ให้มันระเบิดออกมาอีกรอบ
"ที่นายเคยพูดไว้มันถูกจริงๆ"
"..."
"นายก็ยังเป็นนายคนเดิมที่ไม่เคยเปลี่ยนอะไรเลย ฉันมันโง่เองแหละที่คิดว่านายเปลี่ยนไปแล้ว"
"..." แม้อารมณ์จะคุกรุ่น แต่คาเรนก็ไม่เถียงกลับ
"ถ้าฉันร่านขนาดนั้นก็เลิกกันเลยไหม ช่วยกันทำหน้าที่พ่อกับแม่อย่างเดียวก็พอ ไม่ต้องเป็นผัวเมียกันหรอก นายจะได้ไม่ต้องหึงฉันจนเป็นบ้าแบบนี้ไง"
"..." หัวใจแกร่งกระตุกวูบเมื่อได้ยินคำว่าเลิกกันจากปากของคนรัก
"น่าขำนะที่นายไม่ได้รู้จักนิสัยของฉันเลย" อิงดาวแค่นหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยัน ปล่อยให้น้ำตาแห่งความผิดหวังไหลรินลงมาช้าๆ
"ต้องขอบคุณคำพูดเมื่อกี้ของนายนะที่ทำให้ฉันรู้ว่านายไม่เคยเปลี่ยนแปลงอะไรเลย" เธอยิ้มเยาะคำพูดและการกระทำของคาเรน ก่อนจะเดินอุ้มเฟรย่าเข้าไปในคฤหาสน์ทันที ในขณะที่เด็กน้อยยังสะอึกสะอื้นเพราะหวาดกลัวการแสดงอารมณ์ที่รุนแรงของผู้เป็นพ่อ
"จะไปไหนวะ มาคุยกันให้รู้เรื่องดิ๊" คาเรนรีบเดินตามไปขวางหน้า แต่อิงดาวกลับไม่มองหน้าเขาเลย
"ฉันไม่อยากทะเลาะกันต่อหน้าลูก"
"ไม่อยากทะเลาะกันต่อหน้าลูกหรือไม่อยากคุยกับฉันกันแน่วะ"
"ถ้าบอกว่าไม่อยากคุยกับนาย นายจะเลิกเซ้าซี้ฉันไหม" อิงดาวเบนสายตากลับมาจ้องมองคนตรงหน้า ทว่าแววตาของเธอกลับสะท้อนเพียงความว่างเปล่า มันทำให้หัวใจแกร่งของคนโดนมองกระตุกวูบ
"แค่อธิบายมันยากนักเหรอวะ"
"อธิบายเหรอ?" น่าขำที่เขาอยากฟังคำอธิบายจากเธอ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาไม่เปิดโอกาสให้เธอได้พูดอะไรเลย "บางครั้งการอธิบายอะไรให้คนที่ไม่พยายามเข้าใจฟัง มันก็เหมือนกับสีซอให้ควายฟังนะ เพราะมันเปล่าประโยชน์"
"..."
"นายเข้าใจไปแล้วนิว่าฉันร่าน ฉันอยากหาพ่อใหม่ให้เฟรย่า งั้นก็เข้าใจอย่างนั้นต่อไปเถอะ ฉันไม่อยากอธิบายอะไรแล้ว"
"..."
"แต่จะว่าไปมันก็ดีเหมือนกันนะถ้าฉันจะหาพ่อใหม่ให้เฟรย่า เพราะคนปัจจุบันมันโคตรห่วยแตกเลย" มุมปากบางเหยียดยิ้มหยัน เธอปรายตามองคาเรนเพียงนิด ก่อนจะเดินเลี่ยงเข้าบ้านไปทันทีทันใด โดยที่คาเรนยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
"..." มันไม่ใช่เพราะการกระทำของเธอรึไงที่ทำให้เขาหัวฟัดหัวเหวี่ยงแบบนี้ สิ่งเดียวที่เขายอมให้เธอไม่ได้นั่นคือการเห็นเธอสนิทสนมกับผู้ชายคนอื่น คงไม่มีใครอยากให้คนรักของตัวเองหยอกล้อแบบถึงเนื้อถึงตัวกับผู้ชายคนอื่นหรอก
คาเรนพ่นลมหายใจหนักๆ พยายามระงับอารมณ์เดือดดาลที่กำลังพลุ่งพล่าน แล้วเดินตามอิงดาวเข้าบ้านไป
"กลัวเหรอคะ ไม่ต้องกลัวนะ แม่อยู่นี่แล้ว" อิงดาวปลอบประโลมลูกสาวเสียงเครือทันทีที่วางเฟรย่าลงบนเตียง เด็กน้อยที่เห็นผู้เป็นแม่ร้องไห้ค่อยๆยกมือน้อยๆขึ้นไปเช็ดน้ำตาให้ ทั้งที่ตัวเองก็ยังคงสะอึกสะอื้นเบาๆ
"อึก" หญิงสาวพยายามกลั้นหยาดน้ำตา เธอซบหน้าลงบนเตียงอย่างหมดแรงพร้อมตระกองกอดลูกสาวไว้ในอ้อมแขน คำพูดรุนแรงของคาเรนทำร้ายความรู้สึกของเธอมากเกินไป มันทำให้เธอฉุกคิดว่าที่ผ่านมาเขาไม่ได้รู้สึกนิสัยจริงๆของเธอเลย
"แอ๊ะ~" เด็กน้อยพยายามกอดรัดศีรษะของแม่ราวกับให้กำลังใจ เธอเอียงคอไปมาเมื่อเห็นผู้เป็นแม่ฟุบหน้าลงกับเตียง
"แม่ไม่เป็นไรค่ะ" อิงดาวผงกศีรษะขึ้นมาส่งยิ้มให้ลูกสาว หากแต่ใบหน้ากลับอาบนองไปด้วยหยาดน้ำตา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มาเฟียพ่อลูกอ่อน