"แต่จะว่าไปฉันก็ไม่ควรคาดหวังอะไรจากนายเลยนะ" อิงดาวยิ้มเยาะในความโง่เขลาของตัวเอง เธอเชื่อมาตลอดว่าคาเรนจะสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเธอได้ แต่เปล่าเลย เขายังเป็นคาเรนคนเดิมที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงอะไรเลย จริงอยู่ว่าคาเรนยอมหยุดที่เธอคนเดียว แต่นั่นมันคือสิ่งที่เขาควรจะทำอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ และนั่นเขาก็ทำเพื่อตัวเองไม่ได้ทำเพื่อเธอ เพราะหากเขายังกลับไปใช้ชีวิตเสเพลเหมือนเดิม เขาก็ต้องสูญเสียเธอกับเฟรย่าไป ทั้งหมดนั้นก็เพื่อตัวเขาเองทั้งนั้น
"ถ้าการอยู่ด้วยกันมันทำให้ความรู้สึกของเราติดลบด้วยกันทั้งคู่ ฉันว่าต่างฝ่ายต่างถอยออกมาดีไหม อย่าให้ความรู้สึกดีๆมันพังไปมากกว่านี้เลย" มันเป็นอีกครั้งที่เธอเลือกจะรักษาความรู้สึกของตัวเองมากกว่าประคับประคองความสัมพันธ์ที่มันแย่ลงเรื่อยๆ แน่นอนเธอรักเขาเหมือนที่เขาเองก็พร่ำบอกว่ารักเธอนักหนา แต่เมื่อไหร่ที่ความรักมันแตกหักกับความเชื่อใจก็ยากที่จะเดินต่อไปด้วยกัน
"..." ความรู้สึกดำดิ่งสู่จุดที่แย่ที่สุดเมื่อหัวใจมันรับรู้ว่ากำลังจะสูญเสียอีกครึ่งหนึ่งของมันไป กลับกลายเป็นเขาที่กำลังมองเธอด้วยแววตาสั่นระริก เหมือนกำแพงความรักที่เขาและเธอช่วยกันสร้างมาพังทลายลงต่อหน้าต่อตา
"อิง...ฉัน" สายเกินไปรึเปล่าถ้าจะกล่าวคำขอโทษ ความรู้สึกที่พังทลายของเธอมันจะกลับมาสวยงามเหมือนเดิมรึเปล่า คาเรนก้มหน้าเก็บซ่อนน้ำตาลูกผู้ชาย มันน่าขำเหมือนกันที่คนผิดอย่างเขาไม่กล้ากล่าวคำขอโทษต่อหน้าเธอ
"ฉันถือว่านายตกลงที่จะถอยกันคนละก้าวแล้วนะ ขอบคุณที่ไม่พูดคำว่าขอโทษ เพราะฉันไม่อยากได้ยินมัน" คำขอโทษเพียงคำเดียวมันไม่สามารถทำให้ความรู้สึกที่เสียไปเพราะการกระทำและคำพูดของเขากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้
เมื่อเห็นคาเรนยังก้มหน้าเงียบ อิงดาวจึงเลือกที่จะเป็นฝ่ายเดินออกมาจากตรงนั้นในทันทีทันใด เธอคิดว่าคาเรนคงต้องการเวลาในการทบทวนตัวเอง เธอเองก็เหมือนกัน มันเป็นอีกครั้งที่เธอและเขาให้เวลาเป็นตัวช่วยในการหาคำตอบให้ตัวเอง
"อ๊ะ!" สองเท้าที่กำลังจะก้าวเดินขึ้นบันไดขั้นแรกหยุดชะงักงันเมื่อโดนมือเย็นเฉียบของใครบางคนจับรั้งข้อมือไว้ เธอไม่ได้หมุนตัวกลับไป เพราะรู้ว่าคนที่ยืนอยู่ข้างหลังคือคาเรน
"เธอจะโกรธจะเกลียดฉันยังไงก็ได้ แต่อย่าไปจากฉันนะ ขอร้อง ฉันขอร้อง" เขาขอร้องอ้อนวอน พร้อมสวมกอดเธอจากทางด้านหลัง น้ำเสียงของคาเรนสั่นเครือขึ้นทุกขณะจนจับสังเกตได้ ตอนนี้เขาไม่สามารถเก็บซ่อนความอ่อนแอ
"ฉันรู้ว่าเธอไม่อยากฟังคำขอโทษจากผู้ชายเฮงซวยอย่างฉัน แต่ฉันอยากขอโทษที่ทำให้เธอกับลูกผิดหวัง ขอโทษที่ความไม่มีสติของฉันมันทำให้เราสองคนไม่เหมือนเดิม"
"..." ขอโทษแต่ไม่เคยปรับปรุงมันคงไม่ต่างจากการพร่ำบอกว่าสำนึกผิดแต่ไม่ได้รู้สึกแบบนั้นจริงๆ
"ขะ..ขอโทษที่รัก" น้ำตาลูกผู้ชายไหลกลิ้งลงมาช้าๆ หัวใจมันชาวาบราวกับถูกแช่แข็งเมื่อรู้ว่าหลังจากวันนี้ไปความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขามันจะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
เขามันโง่เขลา ทำร้ายชีวิตอีกครึ่งหนึ่งของตัวเองที่ฝากไว้กับเธอ ทั้งที่ให้คำมั่นสัญญากับไอศูรย์ไว้ว่าจะไม่มีวันทำให้เธอผิดหวังเสียใจเป็นอันขาด มันเป็นเพราะความหึงหวงจนขาดสติของเขาเองที่ทำให้ทุกอย่างเลวร้ายแบบนี้
"ขอโทษที่ทำให้ผิดหวัง ฉันขอโทษที่รัก" คาเรนพูดประโยคเดิมซ้ำๆหวังให้มันเยียวยาความรู้สึกของอิงดาวที่เสียไปเพราะคำพูดที่ไม่ทันยั้งคิดของเขา
"ต่อไปฉันจะฟังเธอก่อน ฉันจะไม่ใจร้อนแบบนี้อีก เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมนะที่รัก"
"เหมือนเดิมสำหรับฉันคือต่างคนต่างอยู่" หัวใจแกร่งกระตุกวูบกับคำพูดเด็ดขาดของคนรัก "เอาเวลาที่นายมาร้องไห้ฟูมฟายเพราะการกระทำของตัวเองไปปลอบเฟรย่าเถอะ"
อิงดาวสะบัดตัวออกจากอ้อมกอด เธอทำราวกับคนหมดเยื่อใยทั้งที่แววตาก็แดงก่ำไม่ต่างจากคาเรน
"นายทำให้เฟรย่าตกใจจนร้องไห้ ป่านนี้ลูกคงกลัวนายไปแล้วเพราะไม่เคยเห็นนายเป็นแบบนั้น"
"..."
"ฉันรักษาความรู้สึกของตัวเองได้ แต่ลูกทำไม่ได้ ทีหลังก่อนจะทำอะไรหัดนึกถึงความรู้สึกของลูกบ้าง ไม่ใช่เอาแต่อารมณ์ตัวเอง"
"แล้วเธอทำแบบนี้ไม่นึกถึงความรู้สึกของลูกบ้างเหรอ ไม่สงสารลูกเหรอถ้ารู้ว่าพ่อกับแม่เลิกกันแล้ว" คาเรนถามกลับเสียงเครือ
"ตอนแรกฉันเข้ามาอยู่ที่นี่ในฐานะผู้หญิงที่อุ้มท้องลูกของนาย แค่กลับไปใช้สถานะเดิมมันไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอก ก็แค่มีทะเบียนสมรสติดตัวมาด้วย"
"อิงฉันขอร้อง เรามาคุยกันด้วยเหตุผลนะ"
"เหตุผลข้อเดียวของฉันคือไม่อยากเป็นเมียของผู้ชายไร้เหตุผลอย่างนาย" เธอกล่าวทิ้งท้ายเพียงแค่นั้น แล้วเดินหนีขึ้นไปบนชั้นสองในทันที ขณะที่คาเรนยังยืนนิ่งอึ้งกับประโยคเมื่อสักครู่ของคนรัก
มันชัดเจนว่าทุกอย่างไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
เขาเปิดประตูเข้ามาในห้องนอนที่คุ้นเคยด้วยสภาพจิตใจย่ำแย่ พยายามกวาดตามองหาอิงดาวที่เดินขึ้นมาก่อนแต่ก็ไร้วี่แวว มีเพียงลูกสาวตัวน้อยที่นอนหลับปุ๋ยอยู่ในเปล
"อึก" เพียงแค่เห็นหน้าของเฟรย่า น้ำตาก็ไหลพรากลงมาอย่างสุดจะกลั้น สิ่งที่เขากระทำมันไม่ได้ส่งผลถึงตัวเองเพียงคนเดียว แต่มันยังส่งผลถึงลูกสาวตัวน้อยด้วย
"อึก..พ่อจะทำยังไงดีตัวเล็ก" คาเรนทรุดตัวนั่งลงบนพื้นข้างเปลเด็กของลูกสาวอย่างหมดแรง เขาพยายามกลั้นเสียงสะอื้นไห้เพราะไม่อยากให้เฟรย่าตื่นขึ้นมาตอนนี้
"อึก..พ่อทำทุกอย่างพังหมดเลยเฟรย่า..อึก..มันพังหมดแล้ว" มันพอจะมีทางไหนบ้างที่ทำให้ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม เขาพร้อมจะทำมันทุกทาง
ตอนนี้เขาอ่อนแอเกินกว่าจะยอมรับว่าตัวเองเป็นต้นเหตุของความเลวร้ายทั้งหมดนี้ หากย้อนเวลากลับไปได้เขาจะรอฟังคำอธิบายจากอิงดาวก่อน เรื่องราวมันจะได้ไม่ลงเอยแบบนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มาเฟียพ่อลูกอ่อน