"แม่เป็นอะไรไหม" พอพวกนั้นไปแล้ว มือเรียวก็ได้เอื้อมไปลูบคลำใบหน้าของแม่เบาๆ
"ไม่เป็นอะไรหรอกลูก แม่อึดจะตายลูกก็รู้"
ยิ่งได้ยินแม่พูดแบบนั้นมันก็ยิ่งทำให้แน่นในอก ..ขณะที่เดินออกมาจ๊ะเอ๋สาบานกับตัวเองว่าจะจัดการกับคนที่ทำร้ายแม่เธอให้ได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม
"เรานั่งแท็กซี่กลับกันดีกว่าค่ะแม่" หญิงสาวพูดพร้อมกับกวักมือเรียกแท็กซี่ให้จอด ถึงแม้แม่จะบอกว่าไม่เป็นอะไร แต่จ๊ะเอ๋รู้ดีว่าแม่คงเจ็บพอสมควร
"ขึ้นรถเมล์ก็ได้นะลูก" จอยต้องเซฟค่าใช้จ่ายไว้ เพราะกว่าจะถึงสิ้นเดือน แต่รู้ดีว่าลูกคงเป็นห่วง
"ยังไงรถก็จอดแล้วขึ้นเถอะแม่" ชีวิตเธอเจอแต่ความลำบากมาโดยตลอด แค่นี้มันไม่ทำให้น้ำตาตกได้หรอก แต่ที่โมโหก็เพราะแม่ถูกทำร้ายร่างกายมากกว่า
ทั้งสองนั่งแท็กซี่มาจนถึงหน้าปากซอย จอยก็เลยให้แท็กซี่หยุดตรงนั้น เพราะถ้าเดินเข้ามาอีกไม่ไกลก็ถึงบ้านแล้ว
"น่าจะให้รถมาส่งถึงบ้านเลยนะแม่"
"กว่ารถจะเลี้ยวเข้ามา เห็นไหมเนี่ยในซอยรถจอดขวางทาง เดี๋ยวมิเตอร์ก็จะวิ่งขึ้นไม่หยุด เดินเอาดีที่สุดแล้วลูก"
เดินเข้ามาไม่ถึงสิบนาทีก็ถึงบ้าน พอมาถึง จ๊ะเอ๋ต้องได้ถอดชุดทำงานออกมาซัก เพราะเธอซื้อมาแค่ชุดเดียว
เช้าวันต่อมา..
"ยาอะไรแม่" แต่งตัวออกมาจากห้องก็เห็นแม่กำลังกินยา
"ยาแก้ปวดนั่นแหละลูก"
"ทำไมแม่ต้องได้กินยาแก้ปวดด้วย"
"เวลาทำงานจะได้ไม่เมื่อยเท่าไร"
ทั้งสองเดินออกมารอรถเมล์ที่หน้าปากซอย
[บริษัท PN อิเล็กทรอนิกส์]
จ๊ะเอ๋ก็ได้แยกกับแม่ที่หน้าบริษัท
"ได้ยินข่าวไหมว่าเมื่อวานมีการตบตีกันในห้องน้ำหญิง"
"เธอ!" เพื่อนอีกคนเห็นจ๊ะเอ๋เดินผ่าน ก็ต้องได้รีบสะกิดคนที่กำลังพูดอยู่
"มีอะไรเรียกซะตกใจเลย"
"ก็คนเมื่อกี้ไงที่มีเรื่องกับหัวหน้านัท" บริษัทนี้ใหญ่โตและก็มีหลายแผนกมาก นัทก็เป็นหนึ่งในหัวหน้าของแผนก
"คนนี้เหรอที่เพิ่งจะเข้ามา"
จ๊ะเอ๋หยุดเดินแล้วหันกลับมามอง ถึงแม้ทั้งสองจะพูดกันไม่เสียงดัง แต่ก็รู้ดีว่ากำลังนินทาเธออยู่
..ในแผนก..
เข้ามาถึงยังไม่วายถูกมอง
"เมื่อวานนี้มีเรื่องอะไรกันเหรอ" ถึงแม้ว่าบริษัทนี้จะใหญ่โต แต่ถ้ามีเรื่องตบตีกันเกิดขึ้น ก็จะรู้กันทั่วในเวลาไม่นาน และสายหยุดเป็นคนเดียวที่กล้ามาคุยกับจ๊ะเอ๋
"ไม่มีอะไรหรอกพี่ ทำงานกันดีกว่า" จ๊ะเอ๋เลี่ยงที่จะตอบ เพราะไม่รู้จะบอกยังไง
..ห้องฝ่ายบุคคล..
เมื่อเรื่องนี้แดงขึ้นทางฝ่ายบุคคลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงต้องเรียกทั้งสองฝ่ายมาคุยกัน
"เรื่องมันเป็นยังไง"
"ก็เป็นแบบที่นัทพูดนั่นแหละค่ะพี่" นัทรีบชิงพูดขึ้นมาก่อน
"แล้วคุณแม่บ้านล่ะ จะแก้ตัวว่ายังไงคะ" พรพิศที่เป็นหัวหน้าฝ่ายบุคคล ยังให้โอกาสจอยได้อธิบาย
"ฉันผิดคนเดียวค่ะ" จอยยอมรับผิดคนเดียวเพื่อไม่ให้เรื่องไปถึงตัวลูกสาว
"ทุกคนออกไปก่อน เดี๋ยวเรื่องนี้จะให้ผู้ใหญ่ตัดสินแล้วกัน" ทุกคำพูดพรพิศได้อัดเสียงเก็บไว้แล้ว
"หึ" นัทยกยิ้มขึ้นเพื่อเย้ยหยันคู่กรณีก่อนที่จะเดินออกไป
"หนูกลับไปทำงานเถอะ แล้วจำไว้ว่าเรื่องนี้แม่ผิดคนเดียว"
"แม่ไม่ผิด" หญิงสาวพูดแค่นี้แล้วก็รีบเดินออกมา เพราะเธอต้องหาคนช่วยเรื่องนี้ให้ได้ก่อน
แล้วเราจะไปหาใครดี ผู้จัดการ? ..เราคิดบ้าอะไรอยู่เนี่ย คิดได้ไงว่าเขาจะช่วย ทันใดนั้นใบหน้าผู้ชายอีกคนก็ผุดขึ้นมา..ไม่ลองไม่รู้
จ๊ะเอ๋รีบเดินไปถามคนแถวนั้น ว่าห้องทำงานของเขาอยู่ที่ไหน
ก๊อก..ก๊อก..
"ใครคะ" คนที่เดินมาเปิดประตูก็คือมัลลิกา "น้องมีอะไรเหรอ"
"เออ..คือ.." จ๊ะเอ๋เสียมารยาทมองเข้าไปในห้องนั้น เพราะอยากแน่ใจว่าตกลงเป็นห้องของใครกันแน่ "ดิฉันมาขอพบคุณพระรามค่ะ"
"พบราม?" มัลลิกาพูดออกมาแบบสงสัยว่ามีเรื่องอะไร แต่ก็ยอมเปิดประตูให้เข้ามา "ถ้างั้นตอนเที่ยง ค่อยไปทานข้าวพร้อมกันนะคะราม"
"ครับ"
แล้วมัลลิกาก็ออกจากห้องทำงานของพระรามไป
เรามาที่นี่ทำไมเนี่ย ทำไมเราถึงคิดว่าเขาจะช่วยเราได้ เธอคิดอะไรอยู่จ๊ะเอ๋ ..อยากจะหายตัวออกจากห้องนี้ไป หรือไม่ก็ย้อนเวลากลับไป จะได้ไม่ต้องเข้ามายืนอยู่ตรงนี้
"ว่ามา" ขณะที่พูดสายตาคมก็ได้มองเธอที่ยืนอยู่ตั้งแต่หัวจรดเท้า
เที่ยงวันเดียวกัน..
"อะไรนะ?!!" หลายคนได้ยินข่าวนี้ต่างก็ตกใจไปตามๆ กัน เมื่อรู้ว่าหัวหน้านัทถูกให้ออกจากงาน..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน
แอดค่ะ บอกบุญหน่อย อ่านต่อได้ที่ไหนค่ะ...