มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน นิยาย บท 22

ในแผนกบัดกรีตะกั่ว..

แต่ก่อนว่าดูวังเวงแล้ว เพราะไม่ค่อยมีใครมาพูดด้วย ตอนนี้ดูเหมือนว่าสายหยุดก็จะไม่พูดด้วยเช่นกัน

"พี่คะ เรื่องของเสีย..เออ"

"ถ้าเราตั้งใจเรียนรู้ก็จะไม่มีของเสียออกมาแล้ว" เพราะจ๊ะเอ๋ก็ทำงานมาได้เป็นอาทิตย์แล้ว

"จ๊ะก็ตั้งใจทำอยู่นะ" ประโยคนี้เธอพูดออกมาแค่เบาๆ เพราะไม่มีใครมาเอาชิ้นงานที่เธอทำเสียไปแก้ให้

"เดี๋ยวพี่ช่วยแก้ให้แล้วกัน" สายหยุดกลั้นใจลุกขึ้นแล้วเดินมาเอาตะกร้าของเสียไปเช็คดูว่าชิ้นไหนพอจะแก้ได้ไหม

"ขอบคุณพี่มากนะคะ ฉันไม่รู้ว่าฉันไปทำอะไรให้คนอื่นไม่ชอบหน้า แต่ฉันก็อยู่ของฉันดีๆ"

"ทุกคนเขารู้หมดแล้ว เรื่องที่แจนถูกน้ำร้อนลวกเราจงใจทำใช่ไหม แถมยังใช้เส้นสายให้นัทถูกเอาออกอีก" ถ้าไม่ใช่สายหยุดคนอื่นก็ไม่กล้าพูด

"ที่พี่ไม่อยากพูดกับฉันก็เพราะเรื่องนี้เองเหรอ" ดวงตาที่เศร้าอยู่แล้วเริ่มมีน้ำตาคลอออกมา เธอพยายามกลั้นมันไว้เดี๋ยวเขาหาว่าเอาน้ำตามาเพื่อทำให้น่าสงสาร "ฉันไม่รู้ว่าถ้าเป็นคนอื่นหรือเป็นพี่พี่จะทนได้ไหม ถ้าเห็นคนตบตีแม่ตัวเองต่อหน้า"

"เรื่องนั้นพี่ก็พอจะรู้มาบ้าง แต่เราไม่น่าจะไปใช้ความรุนแรงกลับคืนแบบนั้น"

"ฉันไม่รู้ว่าคนอื่นจะแก้ปัญหานี้ยังไง แต่สำหรับฉันแล้ว จะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายแม่ได้" จ๊ะเอ๋พูดจบก็รีบวิ่งออกมาจากแผนก เพราะเริ่มจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้แล้ว

"มีอะไรกัน" วันชัยเดินเข้ามาถามสายหยุด และหลายคนต่างก็ให้ความสนใจว่าทั้งสองคุยอะไรกัน

"เปล่าค่ะหัวหน้า ฉันแค่จะมาเอาชิ้นงานไปแก้"

"ฉันเตือนแกไว้ก่อนนะสายหยุด" เพื่อนที่นั่งอยู่อีกฝั่งมองไปดูก่อนว่า จ๊ะเอ๋จะกลับเข้ามาหรือยัง ถึงได้กล้าพูดต่อ "แกอย่าไปเล่นกับแม่นางคนนี้เด็ดขาด ถ้าไม่อยากถูกไล่ออกกลางอากาศ"

สายหยุดทำแค่ถือตะกร้าชิ้นงานที่เสียไปเช็คดู ไม่ได้ตอบอะไรเพื่อนร่วมงาน

เย็นวันเดียวกัน..หลังเลิกงาน

"ขึ้นรถสิ" พระรามขับรถมาจอดรับเธอตรงป้ายรถเมล์ ซึ่งตอนนี้มีพนักงานทยอยมายืนรอรถกันเยอะมาก

"ฉันรอกลับบ้านพร้อมแม่ค่ะ"

"บอกให้ขึ้นมาไง"

จ๊ะเอ๋ยังคงยืนรอรถโดยไม่ฟังที่เขาสั่ง

"หรือจะให้ลงไปอุ้ม"

หญิงสาวมองซ้ายมองขวา เพราะกลัวว่าเพื่อนที่ยืนอยู่แถวนั้นจะได้ยินด้วย เธอก็เลยต้องเปิดประตูขึ้นไปนั่งข้างคนขับ

"ฉันบอกคุณแล้วไงว่าจะรอแม่..แล้วนี่คุณจะพาฉันไปไหน"

"ส่งข้อความบอกแม่ให้กลับไปก่อน"

"นี่คุณ!" ตกลงเขาเป็นคนยังไงกันแน่ ทำไมแต่ก่อนไม่ได้เป็นแบบนี้

นั่งรถมาถึงซอยที่สาม ไม่ไกลจากบริษัทเขาก็พาเลี้ยวเข้าไป

"คุณจะพาฉันไปไหน" หญิงสาวยังคงถามประโยคเดิม

แต่พระรามไม่ได้ตอบเขาขับไปอีกไม่ไกลก็เลี้ยวเข้าไปในหมู่บ้านจัดสรร

"คุณมาที่นี่ทำไม"

ชายหนุ่มยังคงไม่ตอบจนขับไปถึงบ้านหลังหนึ่ง ที่หน้าตาน่ารัก มีสวนหย่อมหน้าบ้าน ที่จอดรถ แบ่งเป็นสัดส่วนได้เหมาะสมมาก

"ลงมาสิ"

"บ้านใคร"

"อยากได้บ้านไม่ใช่เหรอ"

"คุณพระราม คุณกำลังทำอะไร" จ๊ะเอ๋ไม่ยอมลงจากรถ

"ส่วนรถคงจะได้พรุ่งนี้ วันนี้มาทำเอกสารเรื่องบ้านก่อน"

"อะไรนะ?" อย่าบอกนะที่เขาไม่เข้างานวันนี้เพราะมาดูบ้านให้เรา

เพี๊ยะ! "โอ๊ย" จ๊ะเอ๋ตบหน้าตัวเองเพื่อจะปลุกให้ตื่น เพราะวันนี้เธอสัปหงกทั้งวันจนมีชิ้นงานเสียหายนั่นแหละ

ที่ตบตัวเองเพราะกลัวว่าสิ่งที่เห็นอยู่ในเวลานี้จะเป็นความฝัน ..เราไม่ได้ฝันเหรอทำให้เราเจ็บ?

"ทำอะไรของเธอ" เขาที่กำลังจะลงจากรถต้องได้หันมามองเมื่อเห็นเธอตบหน้าตัวเอง

"ผู้หญิงคนนี้ใช่ไหมคะที่จะเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้" พนักงานที่มาทำเรื่องถามเพื่อความแน่ใจก่อนที่จะให้เธอเซ็นต์

"ใช่ครับ"

"เดี๋ยวก่อนนะคะ ฉันขอคุยกับเขาก่อน" จ๊ะเอ๋รีบลุกขึ้นแล้วลากพระรามออกมาคุยข้างนอก "คุณไปเอาเงินมาจากไหน ถ้าคุณไปกู้ธนาคารหรือไปยืมเงินนอกระบบฉันไม่ต้องการ"

"ยืมเงินนอกระบบ? กู้ธนาคาร?"

"ก็ใช่ไง คุณจะเอาเงินมาจากไหนตั้งมากมาย"

"อยากได้บ้านไม่ใช่เหรอ ก็แค่เซ็นต์ชื่อลงไป เรื่องเงินเป็นหน้าที่ของฉันเอง"

"ฉันไม่ต้องการ คุณรู้ไหมใช้หนี้เงินตั้ง 10 ล้านบาท ต้องใช้เวลานานเท่าไร คุณเป็นหัวหน้าอยู่แบบนี้เมื่อไรจะใช้หนี้หมด"

"ไม่ได้ใช้หนี้"

"แล้วคุณเอาเงินมาจากไหน"

"จะรู้ไปทำไม"

"คุณทำงานผิดกฎหมายด้วยหรือเปล่า?"

"ยัยบ๊องเอ้ย" ว่าแล้วพระรามก็จูงแขนเธอเข้ามาเพื่อที่จะเซ็นต์เอกสารสิทธิ์ครอบครองบ้านหลังนี้

จ๊ะเอ๋ยอมเซ็นต์ลงไป ในใจแอบคิดว่าถ้าเขาเดือดร้อนเธอก็จะคืนบ้านหลังนี้ให้แล้วกัน

"ไปเดินดูบ้านก่อน" พอเซ็นต์ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย พระรามสั่งให้เธอไปเดินดูรอบบ้าน จ๊ะเอ๋ก็ยอมทำตาม

"คุณจะรูดด้วยบัตรใบนี้ใช่ไหมคะ"

"ใช่ครับ" เขาไม่อยากให้เธอเห็นว่าจ่ายเงินค่าบ้านด้วยอะไร เดี๋ยวก็จะมีคำถามตามมาอีกมากมาย

ติ๊ด~

เสียงข้อความเข้าเครื่องของนายพระนาย เจ้าของบริษัท PN อิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่กำลังนั่งรถกลับบ้าน

มือที่กาลเวลาทำร้ายผิวหนังของเขาไม่ได้ ก็ได้ล้วงเอาโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูว่าเป็นใครที่ใช้บัตรเครดิตรูดซื้อของ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน