มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน นิยาย บท 23

บัตรเครดิตใบนี้พระนายทำไว้แบบไม่จำกัดวงเงิน สามารถรูดซื้ออะไรก็ได้ ทีแรกพอเห็นว่าเป็นใครที่รูด ใบหน้าคมคายมีรอยยิ้มขึ้นมา..แต่ก็มีแค่ครู่เดียว

"คุณอ้อ"

"คะ" อ้อที่นั่งอยู่ข้างคนขับรถหันกลับมามองผู้เป็นนาย

"ช่วยเช็คให้หน่อยว่าพระรามรูดบัตรซื้ออะไร" ทำไมเขาจะไม่ดีใจที่ลูกชายคนเล็กยอมใช้เงิน นี่ ผ่านมาเป็นปีแล้วแต่พระรามไม่เคยแตะบัตรใบนี้ที่พ่อให้ไว้เลย

"เออ..ค่ะ" อ้อตอบรับไปแบบสงสัย เพราะรู้ดีว่าท่านประธานอยากให้ลูกชายใช้เงินของตัวเองบ้าง ไม่ใช่ว่าใช้แค่เงินที่ทำงานเป็นหัวหน้า

"ที่ผมอยากจะรู้เพราะวงเงินมันเยอะเกินไป" พระนายอธิบายให้เลขาได้รู้ เพราะเห็นสีหน้าที่อยากจะถาม

"ค่ะ"

[คฤหาสน์หลังใหญ่โตของพระนาย]

พอมาถึงอ้อก็เริ่มเช็คจากธนาคาร ถึงแม้ว่าจะนอกเวลางานแต่ถ้าพวกเขาอยากรู้อะไร ทางธนาคารต้องให้ข้อมูลมา และเพียงไม่นานข้อมูลนั้นก็ได้มาถึงมือของเลขาคนสนิท

"ได้เรื่องแล้วค่ะ" อ้อหันมารายงานเจ้านายที่ นั่งอยู่คนละมุมกัน

"ว่ามา"

"คือว่า.."

"มีอะไร"

"คุณพระรามรูดบัตรซื้อบ้านให้กับ..ให้กับ..เออ" ถ้าท่านประธานรู้คงไม่ชอบใจเอามากๆ

"ให้กับ?" ใบหน้าของผู้หญิงที่ทำงานบาร์คนนั้นผุดขึ้นมาในหัว ใช่แล้วพระนายสืบจนรู้ว่าจ๊ะเอ๋เคยทำงานที่บาร์ก่อนจะเข้ามาเป็นพนักงาน

[บ้านจัดสรร]

"จะค้างที่นี่เลยก็ได้นี่ ตกแต่งภายในเสร็จหมดแล้ว" พอนายหน้าขายบ้านออกไป เขาเห็นว่าเธอกำลังจะตามออกไปก็เลยเรียกไว้

"เมื่อคืนนี้ก็ไม่ได้กลับบ้าน ถ้าวันนี้ไม่ได้กลับอีก แม่ได้ตีตายแน่"

"กลัวแม่ตั้งแต่เมื่อไร" พระรามรู้ดีว่าตอนสมัยเรียนอยู่ จ๊ะเอ๋ไปค้างกับเพื่อนอยู่บ่อยๆ

ช่วงนั้นที่จอยไม่ได้ให้ความสนใจกับลูกสาวมากนัก เพราะตอนนั้นมัวยุ่งกับเรื่องของสามีอยู่ แต่พอไม่มีผู้ชายคนนั้นแล้ว ก็เลยหันมาให้ความอบอุ่นกับลูก

"ถ้างั้นก็ชวนแม่ย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้"

"แบบนั้นยิ่งไม่ได้ใหญ่เลย ถ้าแม่รู้แม่จะคิดยังไง" เธอยังหาคำตอบให้กับแม่ไม่ได้ เพราะแม่ต้องถามแน่ว่าบ้านหลังนี้ได้มายังไง

"แบบนั้นก็ไม่ได้แบบนี้ก็ไม่ได้ แล้วจะให้ทำยังไง"

"ทำอะไร?"

"ก็ทำเรื่องอย่างว่าไง"

ไอ้บ้ารามเอ้ย ในหัวคิดแต่เรื่องนี้เหรอ "นายอย่าลืมสิว่าข้อตกลงของเราไม่ได้มีแค่บ้าน" ว่าแล้วหญิงสาวก็รีบพาตัวเองออกมาจากบ้านหลังนั้น

"ขึ้นรถเดี๋ยวไปส่งที่บ้าน" เขาขับรถตามหลังเธอมา

"ไม่ต้อง เดี๋ยวจะนั่งแท็กซี่กลับเอง" หญิงสาวยังคงเดินโดยที่ไม่ได้หยุดพูดกับเขา

"แล้วแต่นะ" ว่าแล้วพระรามก็ขับรถผ่านหน้าเธอออกไป

"??" อะไรของเขาเนี่ย กว่าจะเดินออกไปถึงหน้าปากซอย คิดว่าเขาจะบังคับให้ขึ้นรถเหมือนก่อนที่จะพาเข้ามา..แต่นี่อะไร!!

20 : 35 น.

"ทำไมกลับค่ำมืด" จอยมองทางหลายครั้งแล้วเพราะ ช่วงนี้ลูกสาวมีเรื่องกับคนอื่นบ่อย

"เออ.." จะโกหกแม่ยังไงดี จ๊ะเอ๋ตัดสินใจไม่บอกเลยดีกว่า หญิงสาวเดินเข้าห้องไป แต่เข้าไปได้ไม่นานก็ออกมา เพราะต้องได้ซักชุดทำงานไว้ใส่ในวันพรุ่งนี้

"แม่ว่าเราซื้ออีกสักชุดสิ จะได้ไม่ต้องซักบ่อยๆ"

"ชุดพนักงานแพงนะแม่"

"ท่านประธานหมายความว่ายังไงคะ"

"ฉันก็ว่าแล้วทำไมยื่นเงินให้เธอถึงไม่รับ เพราะเธอหวังมากกว่านั้นใช่ไหม"

"ใช่ค่ะ ท่านประธานอยากจะได้ยินแค่นี้ใช่ไหมคะ ถ้างั้นฉันไปนะ" ว่าแล้วหญิงสาวก็เดินออกมาจากห้องของท่านประธานโดยที่ไม่สนใจ

พระนายมองตามไป แบบไม่สบอารมณ์ เพราะเธอทำเหมือนไม่เห็นหัวของเขาเลย

หน้าเรามีอะไรแปะอยู่หรือเปล่า ทำไมทุกคนถึงคิดว่าเราหน้าเงินขนาดนี้

"เธอมาทำไมที่นี่" กำลังจะลงลิฟต์แต่ก็เจอผู้จัดการเข้าเสียก่อน

มาอีกคนแล้วเหรอ "..มาหาท่านประธานค่ะ"

"มาหาพ่อฉันทำไม"

"ถ้าผู้จัดการอยากรู้ก็เข้าไปถามท่านประธานเองสิคะ ฉันขอตัวนะ" เรานี้ช่างกล้าหาญยิ่งนัก สงสัยไม่ต้องซื้อมันแล้วชุดใหม่ คงถูกไล่ออกก็วันนี้

..แผนกบัดกรีตะกั่ว..

"ทำไมถึงช้า" สายหยุดอีกนั่นแหละที่เป็นคนถาม เพราะเลยเวลาเข้างานมาแล้ว

"ท่านประธานเรียกไปพบค่ะ"

"ถ้างั้นก็ทำงานสะ"

ประโยคที่จ๊ะเอ๋ตอบสายหยุด ได้ยินกันหลายคนเลย และต่างก็มองสบตากันแบบคันปากอยากจะเม้าท์

หลายชั่วโมงผ่านไป.. ในห้องประชุมของบริษัท

ติ๊ก~ ขณะที่พระนายกำลังประชุมอยู่นั้น ก็ได้มีข้อความการรูดบัตรเครดิตดังขึ้น ดวงตาคมมองไปดูหน้าจอโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะ และผู้จัดการที่นั่งประชุมอยู่ข้างๆ ก็ได้มองดูเช่นกัน

"ประชุมต่อ" พระนายสั่งให้ที่ประชุมพูดต่อ แต่เขากลับหยิบโทรศัพท์มาพิมพ์ไลน์หาเลขา เพื่อให้เช็คดูว่าลูกชายคนเล็กรูดบัตรเครดิตซื้ออะไรอีกสิบล้านบาท

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน