พอจัดของเข้าที่เสร็จ จอยก็ได้ถืออะไรบางอย่างเข้ามาให้ลูกในห้องนอน
"อะไรคะแม่"
"ยาของลูกไง" มันคือยาที่จ๊ะเอ๋ซื้อมาวันนั้น
"คะ?" มือเรียวยื่นไปรับยามา และอดไม่ได้ที่จะเป็นห่วงความรู้สึกของแม่
บททดสอบในชีวิตของแต่ละคนไม่เท่ากัน นี่มันอาจจะเป็นบททดสอบหนึ่งของลูกสาว แต่ก็เป็นบททดสอบของแม่ด้วย ในเมื่อไม่สามารถที่จะกลับไปแก้ได้แล้ว นางต้องทำใจยอมรับมันให้ได้
นี่ก็เข้าวันที่ 4 แล้วคงกินไม่ทัน ตอนนี้คงทำได้แค่ภาวนาว่าอย่าให้ตรงกับวันตกไข่ของเธอเลย
"ท่านประธานจะมาค้างที่นี่ด้วยไหมลูก"
"ไม่มาค้างหรอกค่ะแม่"
"ถ้าวันไหนที่ท่านจะมา บอกแม่นะเดี๋ยวแม่จะออกไปจากบ้าน"
"แม่คะ เออ.."
"แม่ว่าหนูไปนอนเถอะ" นางคิดว่าลูกคงจะเป็นห่วงความรู้สึกของนาง ถึงได้อ้ำๆ อึ้งๆ แบบนี้
เช้าวันต่อมา..
"จ๊ะว่าแม่ไปลาออกดีกว่า"
"ไม่ได้หรอกลูก คนเขาจะมองเรายังไง"
"ช่างคนอื่นเขาปะไรแม่" จ๊ะเอ๋คุยกับแม่ในขณะที่เดินมาบริษัท ตอนนี้ไม่ต้องไปยืนรอรถเมล์แต่เช้ามืดอีกแล้ว เดินแค่สิบกว่านาทีก็ถึงบริษัท
"วันนี้บริษัทเปิดรับสมัครพนักงานเหรอ" พอมาถึงบริษัทก็เห็นคนที่จะมาสมัครงานยืนออกันอยู่
"คงใช่มั้งแม่" ขณะที่พูดสายตาเธอแอบมองหาเขา คนที่รับผิดชอบเรื่องพนักงานเข้าใหม่ แต่ก็เห็นแค่มัลลิกา "จ๊ะไปทำงานก่อนนะแม่" ว่าแล้วจ๊ะเอ๋ก็เดินปลีกตัวออกจากแม่
"เธอคนนั้นเดียวก่อนสิ" มัลลิกามองไปเห็นจ๊ะเอ๋กำลังจะเดินผ่านก็เลยเรียกไว้
จะไม่ให้เข้ามาหาก็ไม่ได้ เพราะเธอยังอยู่ในช่วงฝึกงาน แถมคนที่เรียกก็เป็นคนที่ดูแลโดยตรงด้วย
"มีอะไรคะ"
"เช็คเอกสารพวกนี้ช่วยฉันหน่อย" มัลลิกาพูดในขนาดที่จับโน่นทำนี่เหมือนว่าตัวเองยุ่งมาก
จ๊ะเอ๋ก็เลยต้องได้ทำเอกสารช่วยไปก่อน
ตายแล้วเลยเวลางานมาครึ่งชั่วโมงแล้วเหรอเนี่ย หญิงสาวมองนาฬิกาข้อมือ และก็มองหาคนที่ใช้งานเธอ
"ไปไหนแล้ว" เห็นว่าตอนนี้มัลลิกาไม่ได้อยู่กับคนที่มาสมัครงาน ที่เธอมองหาเพราะอยากจะบอกว่าจะไปเข้างานก่อน
แต่พอมัลลิกาไม่อยู่จ๊ะเอ๋ก็เลยเอาเอกสารที่เพิ่งจะทำช่วยวางไว้ตรงนั้น
แผนกบัดกรีตะกั่ว..
"คงคิดว่าตัวเองเป็นเด็กเส้นใหญ่ จะเข้างานตอนไหนก็ได้"
"?" มาถึงก็เห็นมัลลิกายืนคุยอยู่กับหัวหน้าแผนก แถมยังพูดแบบกระแนะกระแหนเมื่อเห็นเธอเดินเข้ามา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน
แอดค่ะ บอกบุญหน่อย อ่านต่อได้ที่ไหนค่ะ...