เย็นวันเดียวกัน..ที่หน้าบริษัท
จ๊ะเอ๋ยืนรอกลับบ้านพร้อมแม่ แต่คนที่เจอก็คือ..
"สวัสดีจ้า ท่านประธานอยากจะคุยกับเราหน่อย" จริงๆ แล้วพระนายไม่ได้ตั้งใจอยากจะคุยกับจ๊ะเอ๋หรอก แต่พอขึ้นรถแล้วมองไปก็เห็นว่าเธอยืนอยู่ ก็เลยให้อ้อมาตามขึ้นไปคุยบนรถ
"ฉันหรือคะ" หญิงสาวถามเพื่อความแน่ใจ
"ใช่จ้ะ"
แล้วใครจะกล้าขัดคำสั่งท่านประธาน แถมเป็นพ่อสามีด้วย จ๊ะเอ๋ก็เลยเดินตามอ้อไปที่รถ
พอประตูรถคันหรูเปิดออก เธอก็เข้าไปนั่งข้างท่านประธาน แล้วรถก็เคลื่อนตัวออกไปโดยไม่บอกไม่กล่าว
"ฉันนึกว่าท่านประธานจะคุยกันอยู่ตรงนี้" ใบหน้าเรียวหันกลับไปมองดูอ้อที่ยังยืนอยู่ "แล้วคุณเลขาล่ะคะไม่ไปด้วยเหรอ"
พอไม่มีคำตอบ เธอก็เลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะโทรหาพระราม แต่แบตโทรศัพท์ดันหมด
รถคันหรูวิ่งมาจอดในซอยที่ไม่ไกลจากบริษัทมากนัก ..พอรถจอดสนิทคนขับก็ลงจากรถปล่อยให้ทั้งสองได้คุยกัน
"เธอก็รู้แล้วว่าพระรามเป็นลูกชายของฉัน" ประโยคแรกที่พระนายพูดออกมา และก็พูดโดยที่ไม่มองหน้าคู่สนทนาเลย
"ค่ะ"
"และเธอคงไม่คิดว่าฉันจะให้เธอเข้ามาเป็นลูกสะใภ้หรอกนะ" พระนายคิดว่าต้องพูดให้รู้เรื่องแล้วล่ะ เพราะเขาคงไม่เอาผู้หญิงที่เคยทำงานอย่างว่ามาเป็นสะใภ้ ..ในเมื่อคุยกับลูกชายไม่ได้ก็ต้องมาคุยกับฝ่ายหญิง
"ท่านประธานหมายความว่ายังไงคะ"
"ผู้หญิงที่เคยมีเสี่ยเลี้ยงแบบเธอ ไม่เหมาะสมมากที่จะมาเป็นลูกสะใภ้ฉัน"
"คุณตัดสินคนด้วยคำพูดของคนอื่นแบบนี้เสมอเหรอคะ"
"แต่ฉันก็ให้คนตามสืบมาแล้ว เธอเคยทำงานที่นั่นจริง"
"ที่นั่นมีงานทำแค่ตำแหน่งเดียวหรือคะ?" ในเมื่อเธอเจอเขาแล้ว ก็ไม่อยากจะปล่อยมือไปง่ายๆ จ๊ะเอ๋ก็เลยพยายามพูด เผื่อว่าพ่อเขาจะมองเธอในทางที่ดีบ้าง
ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ของพระนายก็ได้ดังขึ้น แต่พอเห็นว่าเป็นเบอร์ใคร ก็กดปิดเครื่อง เพราะร้อยวันพันปีลูกชายคนเล็กไม่เคยโทรมา วันนี้โทรมาคงรู้แล้วล่ะว่าท่านพาผู้หญิงของเขาขึ้นรถมาด้วย
"ลิกาว่าแล้วระหว่างรามกับท่านประธาน เธอคนนั้นต้องเลือกท่านประธานแน่" มัลลิกาที่ยืนพูดอยู่ข้างหูค่อยๆ เป่าไปเรื่อยๆ
จริงๆ แล้ว พระรามและมัลนิกาไม่ได้เห็นกับตาหรอกว่าจ๊ะเอ๋นั่งรถออกไปกับใคร แต่มีพนักงานเห็นแล้วคุยกัน ก็เลยมาถึงหูของมัลลิกา
"คุณอ้อ" พระรามไม่ได้สนใจคำพูดของมัลลิกาเลย เขามองไปเห็นอ้อเลขาของท่านประธานกำลังยืนรอแท็กซี่อยู่ ก็เลยรีบตามออกมา "ท่านประธานพาเธอไปที่ไหน"
"อ้อก็ไม่ทราบค่ะ"
"คุณจะไม่ทราบได้ยังไง"
"รามคะใจเย็นหน่อยสิ" มัลลิกาเห็นเขากล้าฉุนเฉียวใส่เลขาท่านประธานก็กลัวว่าจะมีเรื่อง
"คุณโทรไปหาเจ้านายของคุณเดี๋ยวนี้" ที่จริงเขาโทรหาจ๊ะเอ๋แล้วแต่โทรยังไงก็ไม่ติด พอโทรเข้าเครื่องของพ่อทางนั้นก็ตัดสาย
"ฉันไม่กล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้หรอกค่ะ"
"อย่าให้ผมรู้นะว่าเจ้านายของคุณทำอะไรเธอ ผมไม่ปล่อยไปแน่!"
มัลลิกาถึงกับยืนตัวแข็งทำตาปริบๆ มองหน้าพระรามเมื่อเห็นว่าเขากล้าที่จะเล่นงานท่านประธานเลยเหรอ
"คุยรู้เรื่องหมายความว่ายังไง?"
"เธอจะไม่มายุ่งกับชีวิตของลูกอีก"
"ผมไม่เชื่อ คุณคุยอะไรกับเธอ!"
"พ่อหาผู้หญิงที่จะมาแต่งงานกับเรา"
"คุณคุยเรื่องนี้กับเธอเหรอ!?"
"เราอย่าลืมสิก่อนแม่ตาย แม่บอกอะไรไว้"
พระรามถึงกับพูดไม่ออก เมื่อพ่อเอาคำพูดของแม่ก่อนตายมา
..... "ผู้ชายคนนี้เป็นพ่อของลูก ถ้าไม่มีแม่แล้ว ลูกต้องเชื่อฟังพ่อนะ" เพียงไม่กี่วันที่ถูกจ๊ะเอ๋บอกเลิก แม่เขาก็จากโลกนี้ไปเพราะป่วยเป็นโรคร้าย ก่อนที่แม่จะจากไป แม่ได้บอกความจริงกับพระรามทั้งหมด ว่าพ่อเป็นใคร และนางก็ติดต่อให้พระนายมารับตัวลูกชายไปอยู่ด้วย ถ้านางยังมีอายุยืนยาวกว่านี้ ไม่มีวันที่จะส่งลูกชายกลับไปแน่
คนที่พระนายรักจริงๆ ก็คือแม่ของพระราม ส่วนแม่ของพระลักษณ์คือคนที่ผู้ใหญ่หาให้ ผู้หญิงสองคนท้องไล่เลี่ยกัน โดยที่ไม่รู้ว่าฝ่ายชายมีผู้หญิงอีกคนข้างกาย เพราะพระนายสร้างโลกขึ้นมาสองใบ
แต่พอแม่ของพระลักษณ์รู้เรื่องว่าสามีมีบ้านอีกหลังก็มาอาละวาด เพราะคนที่มีใบทะเบียนสมรสก็คือแม่ของพระลักษณ์ แม่พระรามก็เลยยอมพาลูกน้อยออกมาจากชีวิตพระนาย
เขายอมสัญญากับแม่ก่อนตาย ว่าจะมาอยู่กับพ่อ และจะเชื่อฟัง เพราะไม่อยากให้แม่จากไปแบบมีห่วง แต่เขาก็อยู่แบบโลกส่วนตัว เหมือนอยู่ไปวันๆ เพื่อรอวันที่จะตามแม่ไป
ตั้งแต่ได้มาเจอกับเธออีกครั้ง เขาก็รู้แล้วว่าจะอยู่ต่อไปเพื่ออะไร
"หยุดเดี๋ยวนี้นะพระราม" พระนายตะโกนตามหลังลูกชายที่กำลังจะออกจากบ้าน "ลูกจำคำสั่งเสียของแม่ไม่ได้เลยหรือไง"
ที่พระนายต้องทำแบบนี้เพราะใกล้วันครบรอบบริษัท และวันนั้นก็เป็นวันเปิดตัวลูกชายคนเล็ก ถ้ามีใครรู้ว่าลูกชายคนเล็กของท่านกำลังติดพันผู้หญิงแบบไหนอยู่ อาจจะไม่เป็นผลดีต่อหุ้นของบริษัท
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน
แอดค่ะ บอกบุญหน่อย อ่านต่อได้ที่ไหนค่ะ...