สรุปตอน บทที่ 45 – จากเรื่อง มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน โดย ชะนีติดมันส์
ตอน บทที่ 45 ของนิยายนิยายสำหรับผู้ใหญ่เรื่องดัง มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน โดยนักเขียน ชะนีติดมันส์ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
[ห้องเช่าของขวัญ]
ตอนที่โทรคุยกันจ๊ะเอ๋บอกให้เพื่อนกลับห้องไปก่อนเดี๋ยวตามไปหา
"เข้ามาข้างในก่อน" ของขวัญเปิดประตูห้องให้กับจ๊ะเอ๋ สายตาไม่ได้มองเพื่อนหรอกแต่มองคนที่เดินตามหลังเข้ามา
"ฉันรู้ว่าแกอยากจะถามอะไร" เพราะคิดว่าของขวัญต้องอยากรู้แน่ว่าทั้งสองกลับมาคบกันแล้วเหรอ ทำไมถึงตามติดเหมือนเงาเลย
"แกพร้อมที่จะเล่าให้ฉันฟังไหมล่ะ" ของขวัญแอบน้อยใจอยู่ไม่ใช่น้อย ที่ได้ยินเรื่องราวของเพื่อนจากปากคนอื่น แต่ถ้าเพื่อนพร้อมที่จะเล่าให้ฟังป่านนี้คงเล่าแล้ว
วันต่อมาที่บริษัท
"จริงเหรอ?" ตอนนี้ข่าวที่ผู้จัดการชวนมัลลิกาไปออกงานรู้กันไปทั่วทั้งบริษัทแล้ว
"จริงสิ..ได้ยินมาจากเจ้าตัวเองเลยแหละ"
"ทำไมเราไม่ถูกเชิญแบบนี้บ้าง"
"เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน เรามาเม้าท์เรื่องที่ทำไมผู้จัดการถึงเชิญมัลลิกา" คนที่กำลังพูดคุยกันอยู่ต่างก็จ้องตา เพราะผู้จัดการก็ยังโสด ส่วนมัลลิกาตอนนี้ใครๆ ก็รู้ว่าคงไม่สมหวังจากพระรามแล้วล่ะ
"นางหาที่เกาะใหม่ได้เร็วมาก"
"มาโน่นแล้ว" อีกคนรีบสะกิดเพื่อนไว้เมื่อเห็นมัลลิกาเดินยิ้มแป้นเข้ามาในบริษัท
"คุณมัลลิกา"
"คะ"
"วันนี้ดูอารมณ์ดีจังเลยนะคะ"
"จริงเหรอคะ..ไม่รู้เลยนะเนี่ย"
"คืนนี้อย่าลืมเก็บภาพสวยๆ มาให้พวกเราได้เห็นเป็นบุญตาหน่อยนะคะ"
"แหมมมม" มัลลิกาแกล้งทำเป็นเขินอาย
"พวกเราว่าผู้จัดการสนใจคุณลิกาแน่เลยค่ะ ถ้าไม่อย่างนั้นคงไม่เชิญไปออกงานด้วย"
"ก็พูดไป"
"คุณมัลลิกาต้องแต่งตัวจัดเต็มนะคะ อย่ายอมแพ้ใคร"
หน้าห้องทำงานของพระราม..
"โต๊ะทำงานของใคร" มัลลิกามาถึงก็เห็นว่า คนงานผู้ชายกำลังยกโต๊ะทำงานมาวางใกล้โต๊ะของตัวเอง
"หัวหน้ารามเป็นคนสั่งให้จัดหาโต๊ะมาวางครับ"
"อย่าบอกนะ!?" แค่นี้มัลลิกาก็พอจะเดาออกแล้ว "ตรงนี้มันมีตำแหน่งงานอะไรให้ทำ" ..เหมือนกับตัวเองใหญ่นัก คอยดูนะถ้าสนิทกับผู้จัดการเมื่อไร ฉันจะเป่าหูให้ออกทั้งผู้ชายผู้หญิงเลย ประโยคหลังทำได้แค่คิดอยู่ในใจ
"จัดโต๊ะเสร็จหรือยังครับ" พระรามเปิดประตูออกมาถามคนที่กำลังจัดโต๊ะอยู่
"เสร็จพอดีเลยครับหัวหน้า"
เขาไม่อยากให้เธอไปทำงานที่แผนกอื่น อยู่ตรงนี้ยังพอใกล้หูใกล้ตา แต่ครั้นจะไม่ให้ทำงานเลยก็ไม่ได้ เพราะถูกแม่เจ้าประคุณบ่น
"ไม่ต้องเดี๋ยวผมยกเอง" พอกลับเข้ามาในห้องก็เห็นว่าเธอกำลังหอบเอกสารที่เขาให้ทำ
"ฉันเอาไปเองได้"
"ก็บอกว่าไม่ต้องไง" พระรามเดินเข้าไปแย่งของในมือเธอ แล้วก็พาออกมานั่งข้างนอก
มัลลิกาทำเป็นไม่สนใจ ไม่มองด้วยซ้ำว่าเขาจะทำอะไร
"ทำเท่าที่บอก" ก่อนที่พระรามจะกลับเข้าไปในห้อง ได้สั่งเธอไว้ ไม่ใช่แค่มัลลิกาไม่มองมา..เขาก็ไม่มองไปเช่นกัน
งานที่พระรามให้จ๊ะเอ๋ทำ เช็ครายละเอียดงานของพนักงานใหม่ และก็ตรวจสอบอะไรอีกเล็กน้อย แต่ไม่ให้เดินไปตรวจตามแผนก
นั่งทำงานไปครู่หนึ่ง มัลลิกาก็คิดอะไรสนุกๆ ขึ้นมา
ก๊อก ก๊อก
"เข้ามาครับ" ทีแรกคิดว่าเป็นจ๊ะเอ๋มาเคาะประตู อนุญาตซะเสียงหวานเชียว
"ได้เวลาไปเช็คพนักงานใหม่แล้วค่ะ..อย่าบอกนะว่าจะให้ลิกาไปคนเดียวอีกแล้ว" ก่อนที่เขาจะพูดอะไรมามัลลิการีบเบรกไว้ก่อน
"คุณไปก่อนเลย เดี๋ยวผมตามไป"
"ไปพร้อมกันนี่แหละค่ะ ทำไมคะ ลิกาเหมือนตัวเชื้อโรคมากเลยเหรอ"
พระรามก็เลยจำใจถือเอกสารเดินออกมา
"เดี๋ยวผมกลับมานะ ห้ามไปไหน" ก่อนที่จะไปเขาไม่ลืมเดินไปบอกเธอที่โต๊ะก่อน
เพราะไม่ใช่แค่งานเลี้ยงผู้ถือหุ้นบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างเดียว แต่เป็นงานเปิดตัวลูกชายอีกคนของท่านประธานใหญ่
เรื่องนี้ไม่มีใครรู้มาก่อน เพราะมันผ่านมา 20 กว่าปีที่ถูกปิดไว้ เพราะแม่พระลักษณ์ใช้เงินปิดปากทุกคนที่รู้เรื่องนี้ พอแม่พระลักษณ์จากไป พระนายก็ตามหาภรรยาและลูกอีกคน พอเจอพวกเขาก็ได้รับข่าวร้ายว่าภรรยาเก่าป่วยเป็นโรคร้าย แต่เรื่องเจ้าชู้..พระนายมีมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ตอนที่แม่พาพระรามออกจากบ้านไปแล้ว
"เชิญตามสบายเลยนะครับ" มีแขกบางคนที่พระนายต้อนรับด้วยตัวเอง นอกนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ลูกชายคนโต
"สวัสดีค่ะผู้จัดการ"
"สวัสดีครับ เชิญข้างในเลยครับ"
"เอ่อ..ผู้จัดการจำลิกาไม่ได้หรือคะ"
"ลิกา?" พระลักษณ์พยายามใช้ความคิดว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร
"ลิกาที่ทำงานอยู่กับคุณพระรามไงคะ"
"อ๋อผมจำได้แล้ว คุณลิกาสวยจนผมจำไม่ได้เลยนะเนี่ย" จริงๆ แล้วไม่ได้อยู่ในหัวของพระลักษณ์เลยต่างหาก
"ขอบคุณมากค่ะ ให้ลิกาช่วยนะคะ" มัลลิการีบยืนข้างพระลักษณ์เพื่อรอรับแขก
จนแขกทยอยกันเข้าไปในงาน เกินครึ่งที่เชิญมาแล้ว ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมา
"เธอทำไมมาร่วมงานนี้ด้วย" มัลลิกาถามออกไปแบบไม่พอใจเมื่อเห็นว่าพนักงานฝึกงานที่อยู่หน้าห้องของผู้จัดการก็มาด้วย
"ถ้าคุณรู้แล้วก็บอกฉันด้วยนะว่าทำไมฉันต้องมางานนี้"
"เธอจำไม่ได้เหรอว่าฉันเป็นใคร" มัลลิกาชักจะโมโหที่อีกฝ่ายกวนประสาท
แต่ของขวัญไม่ได้กวนประสาทเลย เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผู้จัดการให้มางานนี้ทำไม
"คุณมาคนเดียวหรือครับ" พระลักษณ์ก็มองอยู่ว่าเมื่อไรเพื่อนรักของจ๊ะเอ๋จะมา
"ค่ะ" ..เขาเชิญเรามาคนเดียวไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมต้องถามแบบนี้
"ไปคุยกับผมทางโน้นหน่อยนะ"
"..." มัลลิกามีสีหน้าไม่พอใจขึ้นมา เมื่อพระลักษณ์เลือกที่จะ คุยกับของขวัญ โดยทิ้งตัวเองยืนอยู่หน้างาน
แต่ทันใดนั้นขณะที่มัลลิกาหันหน้ากลับมาก็ยิ่งสร้างความไม่พอใจให้ เมื่อเห็นว่าเป็นใครที่กำลังควงกันเดินเข้ามาในงาน "จะมาทำไม"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน
แอดค่ะ บอกบุญหน่อย อ่านต่อได้ที่ไหนค่ะ...