Martial God Asura เทพสายฟ้าราชาสงคราม นิยาย บท 25

สรุปบท บทที่ 25: Martial God Asura เทพสายฟ้าราชาสงคราม

บทที่ 25 – ตอนที่ต้องอ่านของ Martial God Asura เทพสายฟ้าราชาสงคราม

ตอนนี้ของ Martial God Asura เทพสายฟ้าราชาสงคราม โดย ShanLiangdeMiFeng ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายMartialทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 25 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

  ฉู่เฟิงคิดไม่ถึงว่าสาวน้อยที่ภายนอกดูไร้เดียงสาจะแก่แดดเพียงนี้ เป็นโฉมงามที่ยังเยาว์วัยแท้ ๆ ทว่ากลับพูดจาเช่นนี้ได้หรือ?

  "แต่งงานกับเจ้า? ทำไมข้าถึงจะไม่กล้า!"

  ฉู่เฟิงไม่ยอมถูกท้าทายง่าย ๆ อยู่แล้ว มันก้าวประชิดตัวสาวน้อย ใช้มือเชยคางนาง เริ่มสำรวจนางตั้งแต่หัวจรดเท้า

  มันเพิ่งค้นพบว่าแม้อายุยังน้อย แต่ทรวดทรงของนาง ก็มีส่วนเว้าส่วนโค้งอิ่มเอิบเย้ายวนไม่ต่างกับสาววัยรุ่น

  "เจ้า... ถึงเจ้ากล้าแต่งข้าก็ไม่เอาเจ้าหรอก เจ้าคนหยาบคาย!"

  เมื่อโดนฉู่เฟิงล่วงเกินด้วยสายตาอยู่นาน ซูเหม่ยเริ่มรู้สึกได้ว่าตนยังอ่อนเดียงสาเกินกว่าจะหาเรื่องฉู่เฟิง แต่ประโยคต่อไปนี่สิ ทำเอานางถึงกับเก็บอาการไม่อยู่

  "อ้อ ไม่แต่งก็ดีสิ ความจริงเจ้าไม่ใช่แบบที่ต้องตาต้อง ใจข้าเลยแม้แต่น้อย" ฉู่เฟิงยิ้มกริ่มราวกับได้ขว้างงูพ้นคอ มัน ถอยจากไปทันที

  "เจ้าาาา... ไอ้บ้า!" ซูเหม่ยตะคอกตามหลังมาติด ๆ เพื่อเอาคืนฉู่เฟิง นางตามติดไม่ห่างและไม่ยอมเลิกราง่าย ๆ การกระทำของซูเหม่ยทำให้ฉู่เฟิงถึงกับไปไม่เป็น เพราะอย่างไรเสียมันก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง ทว่าต่อให้ฝีมือของมันเหนือกว่าซูเหม่ย การลงไม้ลงมือกับเด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มแบบนี้ ย่อมไม่ดีแน่ ทำอย่างไรได้ ทางออกที่ดีที่สุดคือทำตัวเป็นหมาหยอกไก่ เพราะแบบนั้นอย่างน้อยก็ยังได้เชยชมความงามของนางสลับกับกลั่นแกล้งนางคืนได้บ้าง ฝ่ายซูเหม่ยโกรธจนควันออกหู ระบายอารมณ์ด้วยการกัดทึ้ง ทุบตีไหล่แขนและแผ่นหลังของฉู่เฟิง จนทั้งตัวเต็มไปด้วยรอยกัด ข่วน ฟกช้ำดำเขียว

  แม้ไม่ค่อยมีใครรู้ว่าซูเหม่ยเป็นใคร แต่การเห็นฉู่เฟิง กลั่นแกล้งสาวน้อยแสนสวยเช่นนี้ บรรดาชายหนุ่มจำนวนไม่น้อยล้วนรู้สึกหมั่นไส้ฉู่เฟิงเป็นธรรมดา บางคนถึงกับสวมบท เจ้าชายขี่ม้าขาวเข้าไปช่วยหญิงงาม แต่ที่ไหนได้ กลับถูกซูเหม่ยตะคอกจนหัวหด บางคนโดนซูเหม่ยลงมือทำร้ายบาดเจ็บถึงขั้นกระดูกหัก กว่าพวกมันจะสังเกตเห็นตราพันธมิตร แห่งปีกของซูเหม่ย ก็ได้แต่สบถกับตัวเองว่าแกว่งเท้าหาเสี้ยนแท้ ๆ ทั้งสองกลายเป็นเป้าสายตาของผู้คนตลอดสองข้างทางโดยไม่รู้ตัว เมื่อเดินมาได้ระยะหนึ่ง ในที่สุดก็เริ่มมีคนจำพวกมันได้

  "นั่นฉู่เฟิงไม่ใช่รึ?" “แล้วเด็กผู้หญิงที่เดินตามมาคือ ซูเหม่ยนี่นา" เท่านั้นเอง มีชายหนุ่มสองคนรีบเดินหนีทันที ที่แท้คือพี่น้องเสือมังกร ไป๋หลงและไป๋หู่นั่นเอง มันทั้งสอง กลัวซูเหม่ยยิ่งกว่าอะไรดี "ไป๋หลง ไป๋หู่ ขวางเจ้านั่นไว้สิ!"

  เมื่อเสียงตะโกนของซู่เหม่ยแว่วตามหลังมา สองพี่น้องสุดซวยรู้ตัวทันทีว่าเลี่ยงไม่ได้เสียแล้ว "พี่ใหญ่ ทำไงดี?"

  "ทำไงได้ ก็ต้องช่วยนางสิวะ สั่งสอนไอ้ฉู่เฟิงซะหน่อย ให้นางสบายใจ" ทั้งสองยังจำได้ดีว่าหลายวันก่อนซูเหม่ยสั่งอะไรไว้ จำใจทำใจดีสู้เสือ เดินปรี่เข้าไปหาฉู่เฟิงทันที

  ฉู่เฟิงเห็นสองพี่น้องที่ตราหน้าเข้ามาแต่ไกล และไม่รู้สึกแปลกใจเลยแม้แต่น้อย เป็นไปตามคาด สองพี่น้องไม่พูดพล่ามทำเพลง จู่โจมด้วยการออกหมัดและประเคนเพลงเตะทันที วรยุทธ์ของพวกมันทั้งสองอยู่ในระดับทิพย์ยุทธ์ห้วงที่หก แม้ว่าพวกมันไม่ใช้พลังเคล็ดวิชาใด ๆ ทว่าพลังและความเร็วก็อยู่ในระดับยอดฝีมืออยู่แล้ว หากเป็นเมื่อก่อนฉู่เฟิงคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ แต่วันนี้ฉู่เฟิงไม่ใช่คนเก่าอีกต่อไป "ฟุบ"

  ฉู่เฟิงไม่ถอยหนีแต่กลับใช้ปลายเท้าข้างเดียวเป็นจุดหมุน ดีดกายแทรกผ่านทั้งสองไปราวกับสายลม "ลมปราณ... แค่ห้วงที่ห้างั้นรึ?"

  พี่น้องเสือมังกรยิ่งรู้สึกมึนงงกว่าเก่า เพราะฝีมือระดับห้วงที่ห้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมันทั้งสองอย่างแน่นอน ทุกอย่างช่างไม่สมเหตุผลเอาเสียเลย

  สองพี่น้องกลายเป็นตัวตลกในสายตาผู้คนทันทีเพราะ ยอดฝีมือทิพย์ยุทธ์ขั้นที่หกอย่างพวกมันกลับไม่อาจทำอะไร

  คนที่มีพลังแค่ห้วงที่ห้า ต่อให้ฉู่เฟิงเป็นอัจฉริยะ มันทั้งสองก็ใช่ว่าจะเป็นพวกปลายแถว ความอับอายกลายเป็น

  วันที่เข้าสู่สำนัก ซูเหม่ยถูกพบว่ามีพรสวรรค์พิเศษกว่าใคร เพียงอายุสิบสี่ก็บรรลุทิพย์ยุทธ์ห้วงที่เจ็ดแล้ว จึงถูกรับเป็นศิษย์ฝ่ายในทันที และกลายเป็นสมาชิกของพันธมิตรแห่งปีก

  ในวันเดียวกัน ใบหน้าที่สวยหยาดเยิ้มและเข็มกลัดพันธมิตรแห่งปีกคือสิ่งยืนยันฐานะของซูเหม่ยเป็นอย่างดี ฝูงชนรอบด้านเริ่มฮือฮาอื้ออึงขึ้นมาทันที

  "ไอ้หนุ่มนั่นคือใครกัน ตายแน่ ๆ กล้าดียังไงล่วงเกินศิษย์น้องซูเหม่ย" “

  เมื่อครูได้ยินพี่น้องเสือมังกรเรียกชื่อมันว่า ฉู่เฟิง อะไรจะซวยปานนั้น คงต้องทิ้งชีวิตไว้ตรงนี้แล้ว

  ผู้คนต่างมั่นอกมั่นใจว่า ฉู่เฟิงถึงคราวเคราะห์ขั้นชะตา ขาดอย่างแน่นอน เพราะประการหนึ่ง นางคือน้องสาวของซูโหรว อีกประการหนึ่ง นางสวยสะคราญเพียงนี้ ช้าเร็วต้องกลายเป็นคู่หมั้นคู่หมายของผู้ยิ่งใหญ่คนใดคนหนึ่งอย่างแน่นอน ล่วงเกินนางวันนี้ ต่อให้ไม่ตายวันนี้ ก็คงอยู่ได้ไม่ถึงแก่แน่นอน ซูเหม่ยเดินมาถึงตรงหน้าฉู่เฟิงและมองฉู่เฟิงที่ค่อย ๆ ลุกขึ้นจากพื้น และเลือดกองโตบนพื้นดิน สีหน้าของนาง เปลี่ยน ไปทันที

  นางหันขวับมายังพี่น้องเสือมังกร ทว่าพวกมันทั้งสองคนยังมิทันได้พูดอะไรก็โดนนางตบหน้าหงายจนเลือดกบปาก

  "ใครบอกให้พวกเจ้าทำร้ายมัน อยากตายใช่ไหม?"

  ซูเหม่ยตะหวาดเสียงดัง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Martial God Asura เทพสายฟ้าราชาสงคราม