มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 1047

ทันใดนั้น นางสังเกตเห็นว่าพลังของค่ายเทพวิชาห้ามสองแห่งนี้ ดูเหมือนจะมีแข็งแกร่งมากกว่าที่นางถูกกักขังมาก และเมื่อนางถูกขังอยู่ในค่ายเทพวิชาห้ามในขั้นต้น พลังก็แข็งแกร่งเช่นกัน แต่ต่อมาพลังนั้นเริ่มอ่อนแรงลงเรื่อย ๆ นางถึงสามารถหลบหนีออกมาได้

นางมองไปที่ค่ายเทพวิชาห้ามอีกครั้งซึ่งนางติดมาหลายปี นางขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ เพราะออร่าของค่ายเทพวิชาห้ามนี้กลับมาเป็นปกติอีกแล้ว

แม้ว่าในใจจะสงสัย แต่ช่าจื่อเยียนก็ไม่เข้าใจ และนางไม่เคยคิดว่าจะมีคนแอบทำอะไร

“ดูเหมือนว่าข้าจะเข้าไปในตำหนักแห่งนี้ไม่ได้แล้ว ข้าทำได้เพียงรายงานขึ้นไป แล้วให้ผู้คนจากโลกาชั้นฟ้ามาเป็นผู้ตัดสิน”

ช่าจื่อเยียนหันหลังกลับและจากไป ไม่นานนักก็เดินลงจากภูเขาอย่างรวดเร็ว โดยไม่เห็นผู้ใดทั้งตลอดทาง

นางไม่รู้สึกแปลกใจใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะถูกขังอยู่หลายปี เทพมารอื่นๆ ก็ไม่สามารถปีนขึ้นไปบนยอดเขาได้ และไม่มีสมบัติล้ำค่าอื่นใดในโอกาสนี้ เป็นเรื่องปกติที่จะจากไป

เมื่อนางเดินเข้าไปในช่องทางอนัตตา เสียงคำรามของอสูรสังหารเทพโบราณดังก้อง กรงเล็บขนาดใหญ่ของมันก็แหวกผ่านอนัตตาแล้วจะคว้าตัวนางไว้

“ไสหัวไปซะ!”

ช่าจื่อเยียนตะคอกด้วยความโกรธ ถูกขังอยู่เป็นเวลาหลายปี ทำให้ในใจของนางโมโหอยู่เป็นเวลานาน

ลมปราณของอสูรสังหารเทพโบราณสามารถกดดันผู้แข็งแกร่งเทพมารส่วนใหญ่ได้ แต่สำหรับนางที่เป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทพมารขั้นสูง ผลกระทบนั้นไม่ยิ่งใหญ่นัก

ยิ่งกว่านั้น นางไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งเทพมารขั้นสูงธรรมดา เพราะนางฝึกฝนหนึ่งในกฎระดับขั้นสูงสุดที่ทรงพลังที่สุด

ระฆังปีศาจปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของนาง ภายใต้การสั่นสะเทือนของระฆัง ภาพที่น่าสะพรึงกลัวแบบการทำลายล้างของสรรพสิ่งได้วิวัฒนาการขึ้น

“พรึบ!”

กรงเล็บของอสูรสังหารเทพโบราณแตกออกเป็นหมอกเลือด เสียงคำรามมาจากอนัตตาที่แปลกประหลาด

ระฆังปีศาจนี้เป็นเทพมารสมบัติขั้นสูง และวัสดุส่วนใหญ่ที่ใช้คือทองเล็กเซียน ที่สามารถนำมาสังเวยอาวุธเทพฟ้าได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ