มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 1062

เทพมารอสูรสิงห์ทองถึงแม้จะถูกโจมตีจนกระเด็นไป แต่กลับไม่ได้รับบาดเจ็บมากเท่าใดนัก หัวเราะเย้นหยัน “ร่างเนื้อของเทพมารอสูรอย่างข้า ได้ชุบร่างจนถึงแดนเทพมารขั้นสามตั้งนานแล้ว อย่างไรเจ้าก็ทำร้ายข้าไม่ได้!”

“ทำร้ายเจ้าไม่ได้หรือ?”

หลัวซิวรี่ตาลง มุมปากเผยรอยยิ้มเยาะเย้ย พลังของกฎชีวิตหมุนเวียนอยู่ภายในร่างกาย บาดแผลบริเวณทรวงอกนั้นเริ่มฟื้นฟูอย่างรวดเร็วจนสามารถสังเกตุเห็นได้ด้วยตาเปล่า

เขาก้าวไปข้างหน้าก้าวใหญ่ โซนกฎหมุนเวียน พริบตาเดียวก็ปรากฏตัวตรงหน้าเทพมารอสูรสิงห์ทอง ในมือถือหอกยุทธ์มังกรดำ เหนือศีรษะมีวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพลอยอยู่ การโจมตีที่ดุร้ายราวกับลมพายุมรสุมกดเทพมารอสูรสิงห์ทองให้จมลง

เทพมารอสูรสิงห์ทองหัวเราะเสียงเย็น รับการโจมตีไร้ที่สิ้นสุดของเขาทั้งหมดเอาไว้ “ไอ้หนุ่มเผ่าพันธุ์มนุษย์ ผลการฝึกตนของเจ้าด้อยกว่าข้านัก ร่างเนื้อก็ด้อยกว่าข้า ต่อให้พลังรบของการฝึกตนร่วมสองระดับความเป็นตายจะแข็งแกร่งเพียงใด แต่ก็ถูกกำหนดเอาไว้ให้ตายด้วยน้ำมือเทพมารอสูรอย่างข้าอยู่ดี”

ในการบรรดาแดนเทพมารระดับเดียวกันนั้น เทพมารอสูรสิงห์ทองก็ถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีพลังแข็งแกร่งมาก ไม่ว่าจะเป็นร่างเนื้อ ผลการฝึกตน ตัวสำนึก ต่างก็บรรลุถึงแดนเทพมารขั้นสาม

แต่หลัวซิว ทั้งสามด้านนี้ ต่างก็ห่างชั้นกับเทพมารอสูรสิงห์ทองไม่รู้กี่เท่า ต่อให้ใช้สองระดับความเป็นตายผสานเป็นพลังเทพดั้งเดิม อย่างมากก็ทำได้แค่เพียงป้องกันตนเองเท่านั้น ไม่สามารถเอาชนะผู้แข็งแกร่งระดับเทพมารขั้นสามได้เลย

สิ่งนี้ทำให้หลัวซิวได้สติและชัดเจนเกี่ยวกับพลังของตนในปัจจุบันมากขึ้น

“ในตอนนั้นข้าสามารถกดเทพมารอสูรเหยี่ยวทองลงได้ พลังของข้าย่อมแข็งแกร่งกว่าเทพมารขั้นหนึ่งแน่นอน น่าจะอยู่ประมาณเทพมารขั้นสอง”

หลัวซิวไม่ได้มีแผนที่จะเรียกใช้เกราะเทพเวหากาล อย่างน้อยนอกจากจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ช่วยไม่ได้จริง ๆ จะไม่มีทางใช้มันในตอนที่อยู่ต่อหน้าคนหมู่มากอย่างแน่นอน

หลังจากที่ได้รับรู้ถึงพลังของตนอย่างชัดเจนแล้ว หลัวซิวก็ไม่ได้วางแผนจะเข้าไปพัวพันกับเทพมารอสูรสิงห์ทองตนนี้ต่อไปอีก ทันใดนั้นก็หมุนเวียนโซนกฎ ร่างนั้นหนีหายออกไปอย่างรวดเร็ว

“มหาพระแสงทอง!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ