มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 1157

สรุปบท บทที่ 1157: มหายุทธ์ สะท้านภพ

ตอน บทที่ 1157 จาก มหายุทธ์ สะท้านภพ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1157 คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายประวัติศาสตร์ มหายุทธ์ สะท้านภพ ที่เขียนโดย หลงเซียว-มังกรคำราม เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เมื่ออยู่ที่นี่ หลัวซิวสามารถสัมผัสได้ถึงออร่าที่ยิ่งใหญ่จนมิอาจคาดเดาได้ ตลบไปทั่วทุกสารทิศบนท้องฟ้าอันว่างเปล่า ทำให้ตัวสำนึกระดับเทพมารขั้น 2 ของเขาถูกกดอัดรุนแรงมาก แค่สามารถแสดงตัวสำนึกระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 9 ออกมาได้ 

ซึ่งนี่คือกฎในโลกเซียนเสวียนเทียน ไม่ว่าผลการฝึกตนของเจ้าจะอยู่ระดับใด ล้วนถูกกดอัดลงมาที่ระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ ไม่ว่าจะเป็นตัวสำนึกวิญญาณหรือร่างยุทธ์ร่างเนื้อ รวมไปถึงบำเพ็ญบู๊

มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่ไม่ถูกกดอัด นั่นก็คือการตระหนักรู้และแดนของตัวนักยุทธ์เอง และนี่ก็เป็นมาตรฐานในการวัดความแข็งแกร่งและความอ่อนแอเมื่ออยู่ภายใต้แดนเดียวกันนั่นเอง

หลังจากที่ทุกคนเข้าไปในโลกเซียนเสวียนเทียนแล้วจะแยกออกจากกัน มีเพียงนักยุทธ์บางส่วนที่มาจากสำนักเดียวกันเท่านั้นที่รวมตัวกัน จนประกอบเป็นกลุ่ม ๆ แล้วออกไปฝึกฝนสั่งสมประสบการณ์เป็นหมู่เล็ก ๆ

โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ที่รวมตัวกันฝึกฝนและตามหาสมบัตินั้น ล้วนเป็นผู้ที่มีผลการฝึกตนและศักยภาพไม่ต่างกันมากนัก ในส่วนของเหล่ายอดฝีมือที่มีผลการฝึกตนและศักยภาพสูงนั้น ต้องไม่มีทางอยากร่วมมือกับคนอ่อนเป็นธรรมดาอยู่แล้ว

ภายในสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมิน หลัวซิวไม่ได้รู้จักและสนิทกับผู้คนเยอะมากนัก และซุ๋นหวู่หยาที่เป็นอาจารย์ในนามของเขานั้นคือผู้แข็งแกร่งระดับเทพมาร หลังจากที่เข้ามาในโลกเซียนเสวียนเทียน เขาก็หายตัวไปเลย ไม่รู้ว่าไปที่ใดแล้ว

ด้วยเหตุนี้หลังจากที่หลัวซิวเข้ามาในโลกเซียนเสวียนเทียน สิ่งแรกที่เขาทำคือสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัว ก่อนจะรีบกลายร่างเป็นแสงกลหายไปจากขอบฟ้า

“ถึงกับกล้าปฏิบัติการคนเดียวอย่างนั้นหรือ?”

สายตาอันเยือกเย็นคู่หนึ่งได้จ้องเขม็งไปในทิศทางที่หลัวซิวบินจากไป และเจ้าของสายตาคู่นี้ก็คือศิษย์พี่ใหญ่แห่งเขาสุดหล้า หลิงเฟิง!

เพื่อรักษาตำแหน่งศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองเอาไว้ ตั้งแต่เมื่อหลายเดือนก่อน เขาก็เริ่มวางแผนหาโอกาสกำจัดหลัวซิวหลังจากที่เข้ามาในโลกเซียนเสวียนเทียนแล้ว

หากหลัวซิวฝึกฝนเก็บเกี่ยวประสบการณ์พร้อมกับคนอื่น ๆ ในสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินละก็ จะทำให้เขาลงมือได้ยาก แต่หลัวซิวกลับปฏิบัติการคนเดียว เมื่อเป็นเช่นนี้มันกลับทำให้หลิงเฟิงลงมือได้สะดวกมากยิ่งขึ้น!

“แม้สู้โดยอยู่ในแดนเดียวกันแล้วเจ้าจะเก่งกว่าข้า แต่ท้ายที่สุดเจ้าก็เป็นแค่มหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 2 เท่านั้น ส่วนผลการฝึกตนของข้านั้นอยู่ที่มหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 8 เมื่ออยู่ในโลกเซียนเสวียนเทียน ข้าจะไม่ได้รับผลกระทบจากการกดอัดใด ๆ มีกำลังรบเทียบทัดกับเทพมาร!”

และสิ่งที่ทำให้หลัวซิวรู้สึกช็อกมากที่สุดคือ ร่างกายทุกส่วนของยักษ์ตัวนี้ล้วนหลอมมาจากแก้วเทว เหมือนดั่งแก้วเทวร่างมนุษย์ตนหนึ่งยังไงอย่างนั้น

“พระเจ้า หรือว่าแก้วเทวฝึกตนจนกลายเป็นปีศาจแล้ว?”หลัวซิวอ้าปากค้างอย่างตะลึงงัน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบเจอปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาดเช่นนี้

ยักษ์แก้วเทวตัวนี้มีความสูงอย่างน้อยสามพันเมตร แก้วเทวที่ใหญ่โตมโหฬารเช่นนี้ หากสามารถกลั่นแปรมันได้ละก็ หลัวซิวเชื่อมั่นว่าสามารถทำให้ผลการฝึกตนของตัวเองเพิ่มขึ้นหนึ่งถึงสองแดนเล็ก ๆ เลย

“โครมม!”  

ทันใดนั้นเอง แสงกระบี่หนึ่งก็ลอยออกมาจากป่าไม้ โจมตีเข้ากับส่วนศีรษะของยักษ์แก้วเทวอย่างรวดเร็วและดุดัน ทำให้มีประกายไฟที่นับไม่ถ้วนแตกกระจายออกมา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ