สรุปตอน บทที่ 1159 – จากเรื่อง มหายุทธ์ สะท้านภพ โดย หลงเซียว-มังกรคำราม
ตอน บทที่ 1159 ของนิยายประวัติศาสตร์เรื่องดัง มหายุทธ์ สะท้านภพ โดยนักเขียน หลงเซียว-มังกรคำราม เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
“ไปตายซะ!”
หลัวซิวแทงหอกออกไป กฎความตายและกฎปริภูมิปะทุออกมาพร้อมกัน ทำให้ตราจักรวาลที่หลิงเฟิงปล่อยออกมาถูกโจมตีจนแตกกระจายสลายเป็นฝุ่นผง
ถัดจากนั้น ท่าทีที่ทรงพลังและเฉียบคมของแสงหอกยังไม่ลดหายไป เสียงพึบดังขึ้น กะโหลกของหลิงเฟิงก็ถูกทะลวงจนทะลุ หัวระเบิดแตกออกเป็นหมอกเลือด
ขอเพียงผลการฝึกตนยังไม่บรรลุถึงแดนเทพมาร ศีรษะก็ยังคงเป็นจุดสำคัญของนักยุทธ์อยู่เช่นเคย ทันทีที่ศีรษะถูกโจมตีจนแตกสลาย ห้วงจักรหยั่งรู้ก็จะแตกสลายไปเช่นกัน วิญญาณตั้งเดิมดับสูญ ชีวิตก็จะถูกตัดขาด
รังสีของระฆังอลวนที่พุ่งตรงเข้ามาอย่างรวดเร็วหม่นหมองลงไปในพริบตา แต่ทว่าเนื่องจากการสูญสิ้นของเจ้าของ ทำให้ไม่มีผู้ใดควบคุม มันจึงลอยอยู่กลางอากาศ ชี่อลวนลอยวนเป็นเกลียวอยู่รอบระฆัง
“บังอาจมีความคิดที่จะฆ่าข้า ถึงตายก็ยังไม่สาสมแก่บาปกรรม!”
หอกรบที่อยู่ในมือหลัวซิวสั่นทีเดียว ก็ทำให้ซากศพของหลิงเฟิงสะเทือนจนกลายเป็นฝุ่นผง ยกมือขึ้นมาโบกทีหนึ่ง เก็บแหวนเก็บของรวมไปถึงระฆังอลวนของหลิงเฟิงเข้ามาในกระเป๋า
มาตรแม้นว่าหลิงเฟิงจะเป็นฝ่ายที่จู่โจมเขาก่อน แต่ถึงอย่างไรทุกอย่างที่เขากระทำล้วนเป็นการฆ่าศิษย์สำนักเดียวกัน ระฆังอลวนลูกนี้เป็นสมบัติที่มีลับลมคมในอย่างแน่นอน
เขานำระฆังอลวนออกมา ก่อนจะพบว่าระฆังเซียนลูกนี้หลอมมาจากหินตรีภพทั้งหมดเลย
หลัวซิวเคยพบเห็นหินตรีภพตอนที่อยู่ในโลกแสงดาว แดนและผลการฝึกตนในตอนนั้นของเขาค่อนข้างต่ำ เมื่อดูดซับชี่อลวนที่แฝงซ่อนอยู่ในหินตรีภพแล้ว ทำให้ผลการฝึกตนของเขาเพิ่มขึ้นไม่น้อยเลย
แม้จะตามหาหินตรีภพในพิภพต่ำได้เช่นกัน แต่มันกลับเป็นสมบัติที่ล้ำค่ามาก ๆ มีเพียงครอบครองสมบัติที่เป็นจุดกำเนิดชี่อลวน ถึงจะสามารถตามหาหินตรีภพพบ
เห็นเพียงมีอัคคีเทพชิงเทียนลุกโชนออกมาตรงกลางฝ่ามือหลัวซิว ก่อนที่เขาจะทำลายตราทั้งหมดที่อยู่ในระฆังอลวนลูกนี้ออกไปอย่างรวดเร็ว คืนสภาพสู่วัตถุดิบดั้งเดิมของหินตรีภพ
เขาไม่ได้หยุดอยู่ที่เดิม เสี้ยววินาทีที่เงาร่างกระพริบระยิบระยับ ร่างเขาก็หายวับไปจากที่เดิมแล้ว มุ่งหน้าไล่ตามไปยังทิศทางที่ยักษ์แก้วเทวหายไป
“คนจากสำนักเซียนไร้เจตสิก?”
สายตาของหลัวซิวสังเกตเห็นป้ายบัญชาการที่แขวนอยู่บริเวณเอวของผู้แข็งแกร่งทั้งห้าคนนั้น รูปแบบของป้ายบัญชาการเหมือนของสำนักเซียนไร้เจตสิกทุกประการ
สำหรับสำนักเซียนไร้เจตสิกนั้น หลัวซิวมองพวกเขาเป็นศัตรูจากใจเลย เนื่องจากการล่มสลายของสำนักเทียนช่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับสำนักเซียนไร้เจตสิก อีกทั้งครั้นนั้นเทพมารสามคนในสำนักเซียนไร้เจตสิกก็เคยมุ่งหน้าไปยังเขามังกรเพื่อจะสังหารเสี่ยวเจียงหมิงด้วย
หากไม่ใช่เพราะเขาไปได้ทันท่วงที คาดว่าชีวิตของเสี่ยวเจียงหมิงคงได้จบอยู่ในกำมือของเทพมารสำนักเซียนไร้เจตสิกแล้ว
เทพมารก็มีการแบ่งระดับสูงต่ำเช่นกัน หลัวซิวพบว่าในบรรดาผู้แข็งแกร่งทั้งห้าคนนี้ ศักยภาพของชายชราผู้หนึ่งแข็งแกร่งมากที่สุด เขาเริ่มหยิบผังค่ายออกมาหนึ่งม้วน เสกอัคคีเทพที่ไม่มีวันมอดไหม้ขึ้นมากักขังยักษ์แก้วเทวไว้
“ทุกท่านเร่งมือหน่อย ขอเพียงฆ่ายักษ์แก้วเทวตัวนี้ให้ตาย แก้วเทวที่อยู่บนตัวมันก็เพียงพอที่จะทำให้เราร่ำรวยแล้ว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
Good...
ทำไมอ่านต่อไม่ได้...
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...