มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 1189

สรุปบท บทที่ 1189: มหายุทธ์ สะท้านภพ

ตอน บทที่ 1189 จาก มหายุทธ์ สะท้านภพ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1189 คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายประวัติศาสตร์ มหายุทธ์ สะท้านภพ ที่เขียนโดย หลงเซียว-มังกรคำราม เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

หลังจากที่ผ่านไปพักหนึ่ง เขาอดกลั้นความเจ็บปวดจากบาดแผล มาถึงสถานที่ที่ค่อนข้างซ่อนเร้นที่หนึ่ง จากนั้นเขาก็เริ่มสลักวาดค่ายกลและสัญลักษณ์ไว้บริเวณรอบ ๆ ก่อนจะเริ่มปิดขังรักษาบาดแผล

ก่อนที่จะปิดขังรักษาบาดแผล เขาปลดผนึกเตาเทพ ปล่อยตัวจินเฟยเทียน เสี่ยวเจียงหมิงและช่าจื่อเยียนออกมา 

“ค่ายกลระดับเทพ?”

ในขณะที่หลัวซิวปิดขังรักษาบาดแผล ช่าจื่อเยียนก็สังเกตเห็นค่ายกลที่เขาจัดวางไว้บริเวณรอบ ๆ 

การค้นพบนี้ทำให้นางค่อนข้างตะลึงงัน นึกไม่ถึงเลยว่าผลการฝึกตนของหลัวซิวอยู่แค่แดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ แต่กลับเป็นนักค่ายกลระดับเทพคนหนึ่งแล้วอย่างนั้นหรือ?

“ระยะเวลาที่เขาฝึกตน เหมือนจะฝึกมาแค่ 50 กว่าปีหรือเปล่า?”ช่าจื่อเยียนรู้สึกว่าก่อนหน้านี้ตัวเองก็ประเมินค่าหลัวซิวไว้สูงมาก ๆ แล้ว ตอนนี้นางถึงจะค้นพบว่าชายหนุ่มที่มาจากพิภพต่ำคนนี้ อยู่เหนือกว่าที่นางจินตนาการเอาไว้มาก ๆ

“ซินเหลียนก็เป็นอัจฉริยะผู้ประทานจากสวรรค์เช่นกัน พรสวรรค์บนเส้นทางแห่งค่ายกลสูงที่สุด แต่ก็ใช้เวลาสองร้อยกว่าปีถึงจะกลายเป็นนักค่ายเทพระดับ 1 และตั้งใจตระหนักรู้อยู่สามหมื่นกว่าปี ถึงบรรลุถึงนักค่ายเทพระดับ 3”

ช่าจื่อเยียนมองไปทางตำแหน่งที่หลัวซิวปิดขังรอบหนึ่ง และรู้สึกสงสัยอย่างอดไม่ได้ เมื่อก่อนนางก็เคยคาดเดาแล้วว่ามีความเป็นไปได้สูงมากว่าหลัวซิวอาจจะได้รับการถ่ายทอดสืบสานจากผู้แข็งแกร่งสักคนแล้ว แต่ในพิภพต่ำ ผู้แข็งแกร่งที่ว่ามากสุดก็เป็นแค่เทพมาร

“ดูท่าการถ่ายทอดสืบสานที่เขาได้รับน่าจะไม่ธรรมดามาก อีกทั้งพรสวรรค์ของตัวเขาเองก็ร้ายกาจมาก ๆ ด้วย มิเช่นนั้นถึงแม้จะได้รับการถ่ายทอดสืบสานที่ยิ่งใหญ่มากเพียงใด หากมีสติปัญญาและพรสวรรค์ไม่มากพอ ก็ไม่มีทางมีผลสำเร็จอย่างตอนนี้แน่นอน”

และในตอนนี้เอง ช่าจื่อเยียนก็สังเกตเห็นเสี่ยวเจียงหมิงที่กำลังฝึกตนอยู่ข้าง ๆ วรยุทธ์ที่เขาฝึกมิใช่วรยุทธ์ของสำนักเทียนช่าแต่อย่างใด เนื่องจากอายุเขายังน้อย จ้าวเซียนเทียนช่าจึงไม่ได้ถ่ายทอดวรยุทธ์ใดให้แก่เขา

แต่สิ่งที่ทำให้ช่าจื่อเยียนรู้สึกช็อกคือ เห็นได้ชัดเจนเลยว่าวรยุทธ์ที่เสี่ยวเจียงหมิงฝึกคือพลังแห่งความตาย แต่ทว่าระดับของวรยุทธ์นี้ดูเหมือนจะอยู่สูงกว่าวิชาสูงสุดของสำนักเทียนช่าซะอีก!

นี่มันหมายความว่ายังไง? ต้องท้าวความก่อนว่าวิชาสูงสุดของสำนักเทียนช่าเป็นวิชาที่ผู้แข็งแกร่งระดับเจ้านภาเป็นผู้บุกเบิกคิดค้น เป็นวรยุทธ์ที่ติดอันดับต้น ๆ ในโลกเสวียนเทียน เมื่อพูดถึงด้านการฝึกพลังแห่งความตาย เรียกได้ว่าเป็นวรยุทธ์อันดับหนึ่งเลยก็ว่าได้!

แต่ทว่าช่าจื่อเยียนกลับเคยได้ยินมาก่อนว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมาอย่างไม่รู้จบ เคยมีจักรพรรดิเทพท่านหนึ่งในสรรพโลกาจักรวาล ซึ่งมีนามว่ามหาจักรพรรดิ์ยุทธ์แห่งนรกภูมิ!

นางสังเกตและเรียนรู้วิธีการฝึกวรยุทธ์ของเสี่ยวเจียงหมิง ก่อนจะพบว่าวรยุทธ์นี้ลึกลับและมหัศจรรย์มากถึงมากที่สุด เมื่อนำวิชาสูงสุดของสำนักเทียนช่ามาเปรียบเทียบกับบำเพ็ญพลิกทมิฬแล้ว ก็ไม่ต่างอะไรจากการเอาหิ่งห้อยไปเทียบกับพระจันทร์ที่สุกสกาวเลย

“บนตัวเขามีความลับซ่อนอยู่มากเพียงใดกันแน่?”

ช่าจื่อเยียนมองไปทางตำแหน่งที่ปิดขังของหลัวซิวอีกครั้งอย่างอดไม่ได้ นางพบว่าชายหนุ่มคนนี้ยิ่งอยู่ยิ่งลึกลับ ทำให้นางมองไม่ทะลุปรุโปร่งคาดเดาไม่ได้

“หรือว่าเขาเป็นคนเอาใจแห่งศุภรไป?”

ช่าจื่อเยียนถึงกับนึกความเป็นไปได้นี้ขึ้นมา เนื่องจากตอนนั้นเทพมารทุกคนล้วนออกจากแดนเทพสงครามแล้ว หลัวซิวเป็นผู้ที่ออกมาหลังเหล่าเทพมารอีกที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ