มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 1204

สรุปบท บทที่ 1204: มหายุทธ์ สะท้านภพ

อ่านสรุป บทที่ 1204 จาก มหายุทธ์ สะท้านภพ โดย หลงเซียว-มังกรคำราม

บทที่ บทที่ 1204 คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายประวัติศาสตร์ มหายุทธ์ สะท้านภพ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย หลงเซียว-มังกรคำราม อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ในกลุ่มคนที่กำลังรับชมการต่อสู้ มีคนจำตัวตนของผู้อาวุโสคนนี้ได้แล้ว พบว่าเขาคือผู้อาวุโสไท่ซ่างคนหนึ่งในสำนักไร้เจตสิก ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตระดับเทพฟ้า

หลัวซิวกลับไม่เก็บมาใส่ใจเลยแม้แต่น้อย ยิ้มพลางพูด: “ผู้อาวุโสพูดถูก มีคนบางคนนึกว่าตนเองกระทำถูกต้องอย่างแน่แท้ แต่ไม่รู้ว่าเหนือฟ้ามีฟ้า เหนือเมฆยังมีเมฆ เพราะฉะนั้นจึงถูกลิขิตไว้แล้วว่าต้องตาย”

ในขณะที่พูดอยู่นั้น เขาก็จงใจแกว่งเตาเทพที่อยู่ในมือไปมา ความหมายที่เขาจะสื่อไม่ต้องพูดก็เข้าใจได้แล้ว

“เจ้าหนุ่ม เจ้าทำเกินไปแล้วนะ ถึงแม้เฟิ่งหวูซินจะอยู่ที่นี่ด้วย มันก็ไม่กล้าทำตัวสาวหาวเช่นนี้!”

ในที่สุดผู้อาวุโสก็ระงับอารมณ์ต่อไปไม่ไหว เนื่องจากหากเสียเวลาอยู่แบบนี้ต่อไปนาน ๆ เทียนหวูเชวอาจจะถูกกลั่นแปรอยู่ในเตาเทพนั้นได้จริง ๆ

ผู้อาวุโสคนนี้ไม่ได้กระทำอะไรเลยแม้แต่น้อย แต่กลับมีมือใหญ่สีทองปรากฏการณ์อากาศ ก่อนที่มันจะพุ่งลงมาจับตัวหลัวซิวที่ยืนอยู่บนแท่นประลอง

ค่ายเทพต้องห้ามที่วางอยู่บริเวณรอบ ๆ แท่นประลองถูกมือใหญ่สีทองนี้ฉีกออก มือใหญ่นี้มีพลังออร่าที่เฉียบคมถึงขั้นสุดแฝงซ่อนอยู่ เห็นได้เลยว่าผู้อาวุโสคนนี้ก็เป็นเทพฟ้าคนหนึ่งที่ฝึกกฎธาตุทองดั้งเดิมเช่นกัน

“ฉึก!”

แต่เวลานี้เอง กลับมีแสงเทวห้าสีปรากฏ แสงเทวกลายเป็นกระบี่ที่เฉียบคมเล่มหนึ่ง เฉือนลงกลางอากาศ ทำให้มือใหญ่สีทองนั่นแตกขาด ดับสูญหายไปในกลางอากาศ 

“ผู้ใดบังอาจขัดขืนกฎสถานประลองยุทธ์ของข้า?”

จู่ ๆ ก็มีเสียงอันน่าเกรงขามดังก้องไปทั่วทั้งสถานประลองยุทธ์ เสี้ยววินาทีที่คนจำนวนมากบนสนามได้ยินเสียงดังกล่าว ต่างก็ตกใจกลัวความน่าเกรงขามที่แฝงซ่อนอยู่ภายในน้ำเสียงนี้ อดไม่ได้ที่จะคุกเข่าหมอบคลานลงไปกับพื้นด้วยความศรัทธาที่แรงกล้า 

“ค่ายเทพต้องห้ามบนแท่นประลองความเป็นความตายของสถานประลองยุทธ์ มีเพียงเทพฟ้าเท่านั้นถึงจะทำลายมันได้ ไม่ทราบว่าผู้เพื่อนใดเป็นผู้ทำลายกฎเกณฑ์ในเมืองแก้วเทวของข้า?”

แสงเทวทั้งห้าที่กลายมาจากกระบี่เทวปรวนแปรอย่างรวดเร็ว ก่อนที่มันจะกลายเป็นชายที่อยู่ในเสื้อคลุมยาวห้าสี หน้าผากค่อนข้างกว้างคนหนึ่ง เขากวาดตามองดูผู้คนที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ก่อนจะหยุดสายตาอยู่ที่ตัวผู้อาวุโสไท่ซ่างคนนั้นในสำนักไร้เจตสิก

“ในเมื่อมึงยอมรับแล้วว่ามึงเป็นคนทำลายกฎของสถานประลองยุทธ์ เช่นนั้นก็ต้องรับบทลงโทษจากเจ้าเมืองอย่างข้า”

เจ้าเมืองตงฟางคนนี้เจ้าเผด็จการมาก อีกทั้งยังเป็นคนที่ทำตามทางของตนไม่สนว่าผู้อื่นจะว่าอย่างไร ง้างมือขึ้นมาแล้วฟาดลงไปที่ผู้อาวุโสไท่ซ่างในสำนักไร้เจตสิกคนนั้น

หลัวซิวไม่มีทางปล่อยให้โอกาสดี ๆ เช่นนี้หลุดมือไปอยู่แล้ว กระตุ้นผลการฝึกตนอย่างสุดความสามารถ จะกลั่นแปรเทียนหวูเชวที่อยู่ในเตาเทพให้ตาย 

“ข้านั้นคือผู้อาวุโสไท่ซ่างในสำนักไร้เจตสิก!”

ชายชรานั่นก็คาดไม่ถึงเช่นกันว่าเจ้าเมืองตงฟางจะลงมือโดยตรง เขาจึงรีบโคจรผลการฝึกตนคิดจะโต้กลับ มีแสงสีทองแวววาวอยู่ทั่วทั้งร่าง ราวกับพระอาทิตย์สีทองดวงหนึ่งยังไงอย่างนั้น

แต่ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้แข็งแกร่งระดับเจ้านภาอย่างเจ้าเมืองตงฟางแล้ว อุบายทั้งหมดของเขาก็ยับเยินไปในสัมผัสเดียวของเจ้าเมืองตงฟาง ร่างกายถูกพลังฝ่ามือโจมตีจนกระเด็นออกไป กระแทกเข้ากับประตูใหญ่ของสถานประลองยุทธ์จนพังเสียหาย มิอาจทราบได้เช่นกันว่าร่างเขากระเด็นออกไปไกลเท่าไหร่

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ