อายุ 50 กว่าก็ฝึกตนจนบรรลุถึงแดนเทพมารแล้ว พรสวรรค์ด้านการฝึกตนเช่นนี้ เป็นสิ่งที่เขาเทียบเคียงไม่ได้อย่างแน่นอน
ในโลกามนุษย์ การบรรลุเป็นเทพมารในช่วงอายุร้อยกว่านั้น ก็ถือเป็นอัจฉริยะผู้ไร้เทียมทานขั้นสุดยอดแล้ว เมื่ออยู่บนโลกาชั้นฟ้ากลับถูกเรียกว่าอัจฉริยะทั่วไป
ยกตัวอย่างเช่นหวางยู่ซวน เขามีโอกาสบรรลุเป็นเทพมารเมื่ออายุประมาณ 70 กว่า พรสวรรค์ของเขาสามารถจัดอยู่ในหมวดอัจฉริยะระดับสูง
ส่วนหยุนจื่อซูผู้นี้นั้น บรรลุเป็นเทพมารเมื่อวัยเพียง 50 กว่า พรสวรรค์ระดับนี้สามารถจัดอยู่ในหมวดอัจฉริยะขั้นสุดยอด!
เป็นอัจฉริยะขั้นสุดยอดเหมือนกัน แต่ทว่าช่วงระยะความต่างของอัจฉริยะขั้นสุดยอดในโลกาชั้นฟ้าและโลกามนุษย์ กลับต่างกันดุจแสงหิ่งห้อยและแสงจันทร์ที่สุขสกาว
อัจฉริยะผู้ไร้เทียมทานในโลกามนุษย์ที่พบเจอยากในระยะเวลาหมื่นปี หรือพบเจอยากในระยะเวลาแสนปี แม้กระทั่งอัจฉริยะผู้ไร้เทียมทานที่พบเจอยากในระยะเวลาล้านปี เมื่ออยู่บนโลกาอสูรฟ้าแล้ว อัจฉริยะผู้ไร้เทียมทานที่กล่าวมานั้นก็น้อยนิดจนไม่มีค่าพอที่จะให้พูดถึงเลย!
สิ่งที่แตกต่างกันไม่ได้มีเพียงเงื่อนไขและทรัพยากรในการฝึกตนเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมฟ้าดินด้วย พิภพที่กฎฟ้าดินยิ่งลึกซึ้งและสมบูรณ์แบบ โอกาสที่จะบังเกิดอัจฉริยะก็ยิ่งมากขึ้นโดยปริยาย
“ผู้นี้คือศิษย์น้องหลัวสินะ? ได้ยินมาว่าเจ้าทำลายค่ายกระบี่ของผู้อาวุโสหวูด้วยมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 7 หากมีเวลาข้าหวังว่าจะสามารถขอคำชี้แนะจากศิษย์น้องได้บ้างนะ”
หยุนจื่อซูหันมองมาทางหลัวซิว พลางพูดด้วยความสนใจ
หลัวซิวขมวดคิ้วเล็กน้อย ถึงแม้ลักษณะภายนอกที่หยุนจื่อซูผู้นี้แสดงออกมาจะดูอ่อนโยนเข้ากับบุคคลได้ทุกขั้น แต่บนตัวเขากลับมีความรู้สึกหยิ่งในศักดิ์ศรีติดตัวมาแต่กำเนิด
สิ่งที่แตกต่างจากหวางยู่ซวนคือ หยุนจื่อซูผู้นี้เก็บซ่อนศักยภาพของตนได้ดีมาก ลักษณะท่าทางไม่เหมือนผู้ที่ชอบใช้อำนาจบาตรใหญ่
“ข้าน้อยไม่มีสิ่งใดที่สามารถชี้แนะท่านได้หรอกขอรับ”หลัวซิวก็ตอบกลับอย่างเรียบนิ่งคำหนึ่งเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...