บนซากสนามรบโบราณมีการถกเถียงกันทั่วทุกพื้นที่ หลายคนต่างตกตะลึงกับตัวตนที่แท้จริงของซิวหลัวหน้ากากดำ
ดวงตาของหลัวซิวค่อย ๆ เปิดขึ้น กฎการเวียนว่ายตายเกิดก้าวเข้าสู่แดนดั้งเดิมขั้นที่สี่ วงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพปรากฏขึ้นมาเอง ก็เป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำสิ่งใดได้
ในขณะนี้ เขารู้สึกว่ามีเจตนาฆ่ามากมายตรึงตัวเขาเอาไว้ เจตนาฆ่าเหล่านี้มาจากราชาเทพทุกท่านของห้าสำนักใหญ่
“ต่อให้รู้ตัวตนที่แท้จริงของข้าแล้วอย่างไร? พวกเจ้ามีใครกล้าลงมือกับข้างั้นหรือ?”
หลัวซิวยืนขึ้น ดวงตาของเขากวาดไปรอบ ๆ เพื่อมองดูโลก
“ไอ้หนุ่มอวดดี ข้าจะบดขยี้เจ้าเอง!”
เสียงตะโกนโกรธก้องในท้องฟ้า มหาเทวะดาราอุดรพุ่งออกมา ภาพมายาสนามรบมากมายตลอดทั้งทางถูกเขาชนจนสลายกลายเป็นสายรุ้ง พุ่งมาทางหลัวซิวด้วยความรวดเร็ว
“เจ้าหน่ะหรือ?”
หลัวซิวยิ้มเยอะอย่างดูหมิ่น เขายกมือขึ้นและชี้ไปในอากาศ พลังอำนาจของค่ายใหญ่ระดับแปดมาตรฐานนับสิบค่ายระเบิดออกมาในเวลาเดียวกัน กลายเป็นแสงดาบเจ็ดสี
กระบี่แสงฟันออกไป กลายเป็นลำแสงยาวปลิวไสว รัศมีเทวอันตระการตาผ่านไปในชั่วพริบต ปริภูมิบิดเบี้ยว แม้แต่ฟ้าดินก็ดูเหมือนจะถูกแยกออกด้วยกระบี่เล่มนี้
เสียงปังดังสนั่นหวั่นไหว มหาเทวะดาราอุดรครอบครองผลการฝึกตนราชาเทพช่วงกลางมีสีหน้าหวาดผวา ริมฝีปากมีเลือดซิบ เลือดกลบในปาก ซวนเซถอยหลังไปอย่างต่อเนื่อง
ภาพตรงหน้า ทำให้คนอื่น ๆ พากันสูดลมหายใจด้วยปาก ในใจกู่ร้องกึกก้อง
แค่กระบี่เดียวก็ทำให้มหาเทวะดาราอุดรบาดเจ็บสาหัสจนล่าถอยไป พลังอมตะเช่นนี้ น่าตกใจเกินไปแล้ว
“ในตอนแรกเจ้าใช้พลังอันแข็งแกร่งของเจ้าเพื่อพยายามฆ่าและช่วงชิงโชคของข้าไป ตอนนี้ข้าแข็งแกร่งกว่าเจ้า ฆ่าเจ้าก็คือผลกรรม ไม่ได้มีสิ่งใดผิดขาดเกิน”
หลัวซิวก้าวขึ้นไปในอากาศ เสียงของเขาสงบนิ่งแต่มีเจตนาฆ่าที่น่าหวาดเกรง
เขายกมือขึ้นและชี้ขึ้นอีกครั้ง กระบี่แสงเจ็ดสียาวเกือบสิบลี้ ถูกฟันออกไปอีกครั้ง ทั่วทั้งฟ้าดินเงียบสงัด ราวกับว่ากลายเป็นสิ่งเดียวของปริภูมิ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...