มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 1608

สรุปบท บทที่ 1608: มหายุทธ์ สะท้านภพ

ตอน บทที่ 1608 จาก มหายุทธ์ สะท้านภพ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1608 คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายประวัติศาสตร์ มหายุทธ์ สะท้านภพ ที่เขียนโดย หลงเซียว-มังกรคำราม เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ยิ่งกว่านั้นความแข็งแกร่งของเขา ในวันนี้ก็คือระดับราชาเทพ ไม่ด้อยไปกว่าเหล่าอัจฉริยะที่น่าอัศจรรย์ของโลกะอัมพรเทวเลย

ผู้คนที่รวมตัวกันอยู่รอบ ๆ สำนักทองเหลืองโบราณ ส่วนใหญ่มาจากกองกำลังใหญ่ต่าง ๆ ของโลกะอัมพรเทว โดยเฉพาะตำแหน่งที่ค่อนข้างเข้าใกล้แนวหน้า ต่างก็ถูกกองกำลังใหญ่ต่าง ๆ ยึดครองเอาไว้แล้ว จอมยุทธ์อย่างผู้บำเพ็ญตนอิสระทำได้เพียงอยู่หลัง ๆ อีกทั้งเมื่อใดที่เข้าไปใกล้ ก็จะถูกกองกำลังใหญ่ขับไล่ออกมา

“ผู้เพื่อนยุทธ์หลี่ยู่!”

ในขณะนี้เอง หลี่ชางก็มองเห็นหลัวซิวแล้ว เขารีบกลายเป็นสายรุ้งบินเข้ามาทันที กระตือรือร้นที่จะทักทายหลัวซิวเป็นอย่างมาก

“ที่แท้ก็คือผู้เพื่อนยุทธ์หลี่ชางนี่เอง” หลัวซิวประสานมือคารวะ

“เหอเหอ จากกันไปเพียงไม่กี่วัน โลกะอัมพรเทวกว้างใหญ่ถึงเพียงนี้ คาดไม่ถึงจริง ๆ ว่าจะได้พบกันอีกในเร็ววันเช่นนี้ ดูท่าข้ากับผู้เพื่อนยุทธ์คงจะมีพรหมลิขิตต่อกันเป็นแน่” หลี่ชางพูดพร้อมรอยยิ้ม

“ผู้เพื่อนยุทธ์เดินทางมาที่นี่ก็เพราะสำนักทองเหลืองโบราณ แต่กองกำลังต่าง ๆ ยึดครองพื้นที่เอาไว้แล้ว ด้วยสถานะของผู้บำเพ็ญตนอิสระเป็นการยากที่จะเข้าไปด้านใน”

หลี่ชางรี่ตาลง พูดกับหลัวซิว “หากผู้เพื่อนยุทธ์ไม่รังเกียจ ข้าสามารถแนะนำให้กับเจ้าได้ ใช้สถานะเค่อชิงของพวกเราสำนักเซียนปราณม่วงเป็นการชั่วคราว เข้าไปยังฐานทัพของสำนักเซียนปราณม่วงของข้า”

หลัวซิวจะไม่เข้าใจได้อย่างไร ที่หลี่ชางพูดเช่นนี้ความจริงแล้วก็เพื่อที่จะชักชวนตน แต่เขาก็จำเป็นที่จะต้องมีสถานะและภูมิหลังจริง ๆ ไม่เช่นนั้นกองกำลังต่าง ๆ ที่ขวางอยู่ด้านหน้า คงจะไม่ปล่อยในเขาเข้าใกล้สำนักทองเหลืองโบราณโดยง่ายเป็นแน่

“เช่นนั้นก็ต้องรบกวนผู้เพื่อนยุทธ์ด้วย” หลัวซิวกำมือคารวะพร้อมพยักหน้า

ภายใต้การนำของหลี่ชาง หลัวซิวและเขากลายเป็นสายรุ้งบินตรงไปยังฐานทัพของสำนักเซียนปราณม่วง เมื่อผ่านกองกำลังอื่น ๆ พวกเขาไม่ถูกขัดขวางแต่อย่างใด

สำนักเซียนปราณม่วงถึงแม้ว่าจะไม่ใช่หนึ่งในกองกำลังมกุฎเทพของโลกะอัมพรเทว แต่ก็เป็นกองกำลังราชาเทพชั้นยอด สำนักตระกูลมากมายก็ยังต้องไว้หน้าพวกเขา

แต่หลัวซิวดูเหมือนยังเยาว์วัย เป็นเด็กหนุ่มที่มีอายุราว ๆ 15-16 ปีคนหนึ่ง อายุช่วงนี้ก็หมายถึงยังมีศักยภาพสูงมากที่สามารถดึงออกมาได้อีก

นี่จึงเป็นเหตุผลว่า เพราะเหตุใดหลี่ชางจึงได้ทุ่มเทสุดกำลังเพื่อชักชวนเขาเข้ามา

หลัวซิวประสานมือคารวะ ยืนเคียงข้างกับหลี่ชาง นอกจากติงกู่ชิวแล้ว สำนักเซียนปราณม่วงยังมีราชาเทพอีกสามคนอยู่ที่นี่ด้วย ท่านหนึ่งคือราชาเทพช่วงต้น อีกสองท่านคือราชาเทพช่วงต้น

ไม่นับผู้แข็งแกร่งที่กุมบังเหียนของสำนักเขาสำนักเซียนปราณม่วง ที่แห่งนี้คือห้าราชาเทพที่รวมตัวกัน ช่วงปลายหนึ่งท่าน ช่วงกลางสองท่าน ช่วงต้นสองท่าน ทำให้หลัวซิวอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ มรดกของกองกำลังมกุฎเทพแห่งโลกะอัมพรเทวเหล่านั้นจะมีมากมายถึงระดับใดกันแน่?

เขาเหลือบตาขึ้นมอง กองกำลังต่าง ๆ ยึดครองพื้นที่แต่ละแห่ง ทุกสายตาต่างจับจ้องไปยังสำนักทองเหลืองโบราณที่อยู่ห่างออกไปหลายพันลี้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ