มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 1709

“คนผู้นี้คือใครกัน? ตัวต้องห้ามของตำหนักปีศาจเพลิงระดับเกินกว่าระดับเก้าด้วยซ้ำ เขากำลังจะเข้าไปตายหรือยังไง?”

“เฮอะ ๆ มักจะมีคนที่คิดว่าตัวเองทำได้เสมอ ไม่รู้จักชะโงกดูเงาตัวเอง ตายไปก็สมน้ำหน้า!”

ไม่มีใครคิดว่าหลัวซิวสามารถแก้ตัวต้องห้ามของตำหนักปีศาจเพลิงได้ เพราะว่านักค่ายเทพระดับเก้าสองท่านก็เคยพูดไว้แล้ว ตัวต้องห้ามของที่นี่เกินกว่าระดับเก้า พวกเขาเองก็ยังยากที่จะค้นหาทางทำลายมันได้

เพราะว่าดาราแห่งกาลเวลาสามารถมีเพียงคนที่ระดับต่ำกว่ามกุฎเทพเท่านั้นที่เข้ามาได้ แต่ท่ามกลางผลการฝึกตนระดับนี้ ไม่มีทางที่จะมีปรมาจารย์ค่ายเทพระดับมกุฎอยู่ได้ ระดับเก้าก็เป็นจุดสูงสุดแล้ว

ในระยะเวลาเพียงชั่วพริบตา การกระทำของหลัวซิวดูเหมือนจะดำเนินไปอย่างเนิบ ๆ ไม่ช้าไม่เร็ว แต่ทุก ๆ ก้าวกลับสอดคล้องกับกฎปริภูมิ ทำให้เขาก้าวเข้ามาในบริเวณใกล้เคียงของตำหนักปีศาจเพลิงด้วยความรวดเร็ว

และในเวลานี้เอง วิชาห้ามค่ายกลของตำหนักปีศาจเพลิงถูกกระตุ้นขึ้นมา ม่านแสงสีแดงเลือดปรากฏขึ้น จิตสังหารที่ไร้ขอบเขตและน่าสะพรึงกลัวแผ่กระจายออกไป ทำให้นักยุทธ์ที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยเมตรตัวสั่นด้วยความกลัว นักค่ายเทพสิบกว่าคนที่กำลังมีสมาธิกับการทำความเข้าใจก็ลืมตาขึ้นทีละคนด้วยความตกใจ

เขาตายแน่แล้ว!

ในสายตาของทุกคน ตัวต้องห้ามของตำหนักปีศาจเพลิงในเมื่อมันถูกกระตุ้นขึ้นมาแล้ว เช่นนั้นเจ้าหนุ่มคนนี้ที่บุ่มบ่ามเข้าไปนั้นหากไม่ตายก็ต้องถูกถลกหนังเป็นแน่

ในสถานการณ์เช่นนี้ เมื่อใดที่บาดเจ็บสาหัส โดยพื้นฐานแล้วมันเป็นจุดจบที่ต้องตายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในพื้นที่นี้มีคนไม่น้อยที่เชี่ยวชาญในด้านการสังหารเพื่อแย่งชิงทรัพย์

“ผู้เพื่อนยุทธ์เย่ รีบกลับมา!”

เมื่อเห็นวิชาห้ามค่ายกลของตำหนักปีศาจเพลิงถูกกระตุ้นแล้ว สีหน้าของอิงบูเฉิงก็เปลี่ยนไปอย่างมาก รีบร้อนตระโกนเรียกเสียงดังทันที

เขาเองก็รู้สึกว่าเย่ห้าวหรานบุ่มบ่ามเกินไปจริง ๆ ต่อให้ระดับค่ายกลของเขาจะไม่ด้อย แต่นักค่ายเทพจำนวนมากมายเช่นนี้ต่างก็ยังไม่สามารถจับต้นชนปลายได้ถูก แล้วจะเป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะสามารถทำลายมันได้ภายในระยะเวลาเจ็ดแปดวัน?

หากว่าวิชาห้ามค่ายกลของตำหนักปีศาจเพลิงสามารถถูกทำลายได้ง่ายดายเช่นนั้น มันจะดำรงอยู่มาโดยไม่ถูกสำรวจมาตลอดหลายปีได้อย่างไร?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ