เขตการปกครองโตว้ไห่กลับมาคึกคักอีกครั้ง นั่นเป็รเพราะชายหนุ่มชื่อ‘ซิวหลัว’ กลับมาสร้างความวุ่นวายอีกครั้ง
ซิวหลัวปรากฏตัวครั้งแรกที่บริเวณใกล้วัดกวนเหลย ตอนนั้นผลการฝึกตนยังเป็นแดนพรสวรรค์ขั้น6
เมื่อตอนที่เขาปรากฏตัวในเขตการปกครองโตว้ไห่ครั้งที่สอง ผลการฝึกตนของเขานั้นกลายเป็นแดนพรสวรรค์ขั้น9แล้ว
และครวนี้ซิวหลัวปรากฏตัวเป็นครั้งที่สาม เขาสามารถรอดพ้นจากมือของปรมาจารย์โลกยุทธ์ระดับแดนฝึกจิตขั้น9 โดยไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ!
ซึ่งได้ยืนยันแล้วว่าคราวนี้ร่างกายของซิวหลัวนั้นมีคลื่นพลังจิตแท้ และมันก็ผนึกรวมสมบูรณ์แล้ว ก้าวเข้าสู่แดนฝึกจิตครึ่งแล้ว
เขาปรากฏตัวสามครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งห่างกันไม่นาน ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน ความก้าวหน้านั้นรวดเร็วมาก สามารถเรียกได้ว่าเป็นปีศาจ
ลู่เมิ่งเหยาประสบความสำเร็จบรรลุไปถึงแดนพรสวรรค์ขั้น3 และหลังจากที่ออกจากห้องแล้วนางก็ได้ยินเรื่องนี้ นางจึงไปเยี่ยมหลัวซิวทันที
เพียงแต่หลังจากหลัวซิวกลับมาในองค์กรนักล่ายุทธ์แล้วเขาก็ฝึกตนปิดขัง และฝึกฝน‘พลังก่อรวมวิญญาณ’อยู่ในห้องลับ โดยหวังว่าตนเองจะสามารถผนึกรวมการสำนึกได้โดยเร็ว และสามารถเหาะเหินเดินฟ้าได้
เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ หลัวซิวและลู่เมิ่งเหยาต่างอยู่ในองค์กรนักล่ายุทธ์ตลอด ทำให้สำนักเหลยหวู่ไม่มีโอกาสลงมือใด ๆ
ไม่ทันได้รู้ตัว เหลือเวลาอีกหนึ่งปีก่อนที่แดนปริศนาจะเปิด และศึกแย่งชิงสิทธิ์กำลังจะจัดขึ้นเร็ว ๆ นี้
หัวหน้าแก๊งเสิ่นหยวนหนานกล่าวว่า เหวินเซวียนหงนั้นได้ฝึกตนปิดขังแล้ว เพื่อพยายามหาทางบรรลุราชายุทธ์ขั้น5 ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นโอกาสที่หายากสำหรับนักฝึกยุทธ์ที่ถูกพันธนาการอยู่ในราชายุทธ์ขั้น4 มาเป็นเวลานานนับร้อยปี
ดังนั้น เหวินเซวียนหงจึงไม่สามารถพาหลัวซิวไปเข้าร่วมศึกแย่งชิงสิทธิ์ในครั้งนี้ได้ ก่อนที่จะเขาจะฝึกตนปิดขัง เขามอบหมายให้เสิ่นหยวนหนานพาหลัวซิวไปที่นั่น
สำนักต่าง ๆ ในสิบสามเขตการปกครองของประเทศเทียนหวู จำเป็นต้องประลองเพื่อแย่งชิงสิบสิทธิ์นั้น และกระทั่งอาจไม่สามารถกระจายไปหนึ่งเขตการปกครองล่ะหนึ่งสิทธิ์
จากสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าสิทธิ์ของแดนปริศนานั้นมีค่าเพียงใด
สถานที่จัดการประลองสำหรับศึกแย่งชิงสิทธิ์นั้น อยู่ในเขตการปกครองชิงฮัว และสำหรับสิบสามเขตการปกครองของประเทศเทียนหวู เขตการปกครองชิงฮัวถูกจัดเป็นอันดับที่หนึ่ง
ขณะที่ศึกแย่งชิงสิทธิ์ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ทำให้เขตการปกครองชิงฮัวคึกคักขึ้นมาด้วย เพราะสำนักจากทั่วสารทิศมารวมตัวกันที่นี่
แม้ว่าสุดท้ายจะมีเพียงสิบคนเท่านั้นที่จะได้รับสิทธิ์ไปแดนปริศนา แต่สำนักต่าง ๆ ยังคงส่งศิษย์หัวกะทิมาเข้าร่วม และหลายคนนั้นไม่ได้มาเพื่อแย่งชิงสิทธิ์ แต่เพื่อให้เหล่าลูกศิษย์ที่มีความอัจฉริยะในสำนักได้มาหาประสบการณ์กับการประลองที่ทุกคนต่างคาดหวังนี้
สำนักเหลยหวู่ หอหย่งชาง และตระกูลกงซุน ต่างมายืมค่ายวาร์ปกับองค์กรนักล่ายุทธ์ในเขตการปกครองโตว้ไห่
ถึงแม้ค่ายวาร์ปนี้จะสร้างโดยปรมาจารย์ระดับสูงของแก๊งนักค่ายกล แต่สำหรับเมืองใหญ่ในประเทศเทียนหวูนั้น มีเพียงองค์กรนักล่ายุทธ์เท่านั้นที่มีค่ายวาร์ป
หลัวซิวและคนอื่น ๆ กำลังเตรียมออกเดินทาง นำโดยหัวหน้าแก๊งเสิ่นหยวนหนาน โดยพาหลัวซิว หลินเจียเอ๋อร์ และลู่เมิ่งเหยานั่งค่ายวาร์ปเดินทางไป
เหตุผลที่พาลู่เมิ่งเหยาไปด้วย เป็นเพราะหลัวซิวไม่วางใจที่จะให้นางอยู่ในเขตการปกครองโตว้ไห่คนเดียว และการอยู่แต่ในองค์กรนักล่ายุทธ์ และไม่สามารถออกไปข้างนอกเป็นเวลานาน จะทำให้นางรู้สึกหดหู่
ค่าใช้จ่ายในการเดินทางข้ามเขตการปกครองนั้นไม่สูงนัก แต่คราวนี้เนื่องจากเป็นการเข้าร่วมศึกแย่งชิงสิทธิ์ในแดนปริศนา ทำให้หลัวซิวและคนอื่น ๆ ไม่ต้องจ่ายค่าเดินทาง
เขตการปกครองโตว้ไห่และเขตการปกครองชิงฮัวนั้นห่างไกลกันมาก และบางสถานที่นั้นไม่สามารถเดินทางด้วยค่ายวาร์ปได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...