มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 1813

“เจ้าหมอนั่นคือผู้ใดน่ะ? บังอาจหาตีนกับศิษย์ใจกลางของหอยอดอัมพรอย่างนั้นหรือ?”

“ช่างเป็นชายหนุ่มที่กล้าหาญมาก ๆ ท่าทีนี้เหมือนกำลังจะต่อสู้กันยังไงอย่างนั้น”

“แหะ ๆ ทีนี้เซียวเฟยอับอายแล้วล่ะ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนดึงดันนั่นโผล่หัวมาจากที่ใด”

ความคิดในใจของผู้คนแตกต่างกันออกไป ทว่ากลับคิดไปในทางเดียวกัน สภาพจิตใจของทุกคนล้วนตั้งตารอดูอะไรสนุก ๆ

เซียวเฟยที่อยู่ภายในห้องที่นั่งพิเศษโกรธมากจนใกล้จะอกแตกตายแล้ว มดตัวจ้อยที่ถูกเขามองว่าเป็นขยะตัวหนึ่งบังอาจยั่วยุตนเองอย่างนั้นหรือ?

“มึง! กล้าหาญมาก!”หลังจากนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง เซียวเฟยจึงกัดฟันแน่นพลางพูด

“ไม่พอใจก็มาสู้กันสักตั้งสิวะ!”

หลัวซิวก็ทุ่มสุดตัวโดยสิ้นเชิงเช่นกัน ถลกแขนเสื้อขึ้น หาเรื่องอย่างเคร่งขรึมโดยไม่เกรงกลัว

สภาพจิตใจและความคิด ณ วินาทีนี้ทำให้หลัวซิวรู้สึกเหมือนเคยผ่านความรู้สึกนี้มาก่อน เหมือนดั่งปีนั้นเดือนนั้น ครั้นเมื่อเขายังเป็นนักยุทธ์พรสวรรค์เล็ก ๆ คนหนึ่ง เขาโกรธเกรี้ยวถึงขีดสุดเพื่อโฉมงาม ใช้ชื่อซิวหลัว ใช้ผลการฝึกตนพรสวรรค์กระจอก ๆ ประกาศศักดาว่าจะกวาดล้างสำนักเหลยหวู่ที่มีผู้แข็งแกร่งราชายุทธ์คอยปกปักรักษา

ปัจจุบันเขาเป็นเพียงเทพฟ้าเล็ก ๆ คนหนึ่งเท่านั้น ทว่ายังคงสามารถโกรธเกรี้ยวถึงขีดสุด ท้าทายสำนักยิ่งใหญ่แข็งแกร่งที่มีผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเทพปกปักรักษาอย่างหอยอดอัมพร! 

ราวกับว่ากำลังจะมีไฟพ้นออกมาจากดวงตาของหลัวซิวยังไงอย่างนั้น เห็นได้ชัดเจนเลยว่านี่ไม่ใช่การแข่งประมูลแล้ว แต่เป็นการยั่วยุโดยการหักหน้าโดยตรง!

“เจ้ามดตัวจ้อยต่ำต้อยที่หยาบคายน่ารังเกียจ มึงรนหาที่ตาย!”เซียวเฟยตะคอกอย่างเยือกเย็น จากนั้นเขาก็พูดกับผู้ติดตามคนหนึ่งที่อยู่ข้างกาย: “เจ้าไปฆ่ามันซะ!”

ในฐานะที่เป็นสำนักจักรพรรดิเพียงหนึ่งเดียวในมหาโลกายอดอัมพร เมื่อศิษย์ใจกลางทุกคนที่มาจากหอยอดอัมพรเคลื่อนไหวข้างนอก ล้วนเป็นผู้โดดเด่นในสายตาผู้อื่น

เพราะฉะนั้นขณะที่แข่งประมูลในเมื่อครู่นี้ เมื่อเซียวเฟยบอกตัวตนของตนเองออกมา นักยุทธ์ส่วนมากที่อยู่ในห้องโถงใหญ่งานประมูลจึงเลือกที่จะนิ่งเงียบ ไม่ได้แข่งขันกับเขา

วินาทีนี้ สายตาของทุกคนล้วนรวมกันที่ตัวหลัวซิว เห็นเพียงเขาถลกแขนเสื้อขึ้น เท้าข้างหนึ่งเหยียบอยู่บนที่นั่ง ลักษณะท่าทางเหมือนบอกว่าถ้ามึงไม่พอใจก็เข้ามาสู้กันสักตั้งสิวะ

เจ้าหมอนี่คือผู้ใดกันแน่?

ไม่เพียงนักยุทธ์จำนวนมากที่เข้าร่วมการประมูลในห้องโถงใหญ่ แม้กระทั่งคนในงานประมูลดาราจันทราก็ผงะไปเช่นกัน 

“เจ้าคนจองหอง ไปตายซะ!”

ทันใดนั้นเอง ก็มีเงาร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากห้องที่นั่งพิเศษที่ลอยอยู่บนนภา เงาร่างดุจแสงสายฟ้า เสี้ยววินาทีที่เสียงตะคอกอันโกรธเกรี้ยวดังขึ้น เงาร่างเขาก็ไปถึงตรงหน้าหลัวซิวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

ซึ่งผู้ที่ลงมือก็คือผู้ติดตามของเซียวเฟยนั่นเอง

ภายในสำนักใหญ่ชั้นยอดอย่างหอยอดอัมพร จำนวนศิษย์ภายในสำนักนั้นมีเยอะมาก ๆ ศิษย์จำนวนมากที่มีพรสวรรค์ปัญญาไม่ถือว่าพิเศษ ส่วนมากจะพึ่งพาศิษย์ใจกลางอาศัย ทันทีที่ศิษย์ใจกลางอาศัยที่ตนติดตามกลายเป็นผู้แข็งแกร่งในอนาคต เช่นนั้นแม้แต่ตัวเองก็จะได้รับผลประโยชน์อย่างหาที่สุดไม่ได้เช่นกัน

ถึงแม้จะเป็นเพียงผู้ติดตามคนหนึ่ง ทว่าผลการฝึกตนของคนดังกล่าวก็เป็นราชาเทพขั้น 9 เมื่อมองในมุมคนรุ่นใหม่ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว

จะดูถูกกองกำลังที่อยู่เบื้องหลังงานประมูลดาราจันทราไม่ได้ หากคนธรรมดาทั่วไปบังอาจลงไม้ลงมือในงานประมูล ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุผลอันใด โดยส่วนใหญ่แล้วจะถูกสังหารคาที่

อย่างไรก็ตามตัวตนของเซียวเฟยพิเศษ ยอดฝีมือที่ซ่อนตัวอยู่ภายในงานประมูลขมวดคิ้ว สุดท้ายก็ไม่ได้ลงมือห้ามปราม

ใบหน้าของผู้ติดตามคนนั้นมีความดูหมิ่นปนอยู่เล็กน้อย ปรากฏอยู่ตรงหน้าหลัวซิวภายในเสี้ยววินาทีเดัยว กระบี่ยุทธ์เล่มหนึ่งปรากฏบนมือ ก่อนจะทิ่มแทงไปกลางหว่างคิ้วหลัวซิว เนื่องจากเมื่อครู่คุณชายบอกแล้วว่าต้องสังหารคนดังกล่าว!

โลกของนักยุทธ์ ชีวิตของคนเราก็เหมือนขี้หมูราขี้หมาแห้ง 

ณ วินาทีนี้จิตสังหารที่อัดอั้นอยู่ในใจมาเป็นเวลานานแย้มบานและระบายออกมาอย่างไร้ความปราณี ในขณะที่ปลายกระบี่ยุทธ์อันแหลมคมใกล้จะทิ่มแทงลงกลางหว่างคิ้วของตัวเองอยู่นั้น หลัวซิวก็ลงมือแล้ว!

“หื้ม?”

ผู้ติดตามคนนั้นสัมผัสได้ว่ามีแรงต้านทานอันยิ่งใหญ่ส่งตรงมาจากกระบี่ยุทธ์ในมือ เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าปลายกระบี่ยุทธ์อันแหลมคมห่างจากหว่างคิ้วของฝ่ายตรงข้ามไม่ถึงหนึ่งนิ้ว แต่ไม่ว่าเขาจะกรอกผลการฝึกตนลงไปมากเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถทิ่มแทงไปข้างหน้าได้แม้แต่น้อย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ