สรุปตอน บทที่ 1825 – จากเรื่อง มหายุทธ์ สะท้านภพ โดย หลงเซียว-มังกรคำราม
ตอน บทที่ 1825 ของนิยายประวัติศาสตร์เรื่องดัง มหายุทธ์ สะท้านภพ โดยนักเขียน หลงเซียว-มังกรคำราม เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
แววตาของเขาเรียบนิ่งมาก ๆ มุมปากมีรอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏ
“เจ้าทำดีมาก มานั่งสิ”จีเสวียนคงเอ่ยปากพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา ฝั่งตรงข้ามของเขามีเบาะนั่งทรงกลมใบหนึ่งปรากฏโดยไม่ให้ซุ่มให้เสียง
“กราบขอบคุณผู้อาวุโสขอรับ”หลัวซิวทำท่าคารวะกราบขอบคุณ จากนั้นเขาก็ไม่เกรงใจเช่นกัน ย่างเท้าเดินตรงไปแล้วนั่งลงฝั่งตรงข้ามจีเสวียนคง
ในห้วงดาราที่มหาโลกาใบนี้ตั้งอยู่ ผู้ที่มีคุณสมบัตินั่งประจันหน้ากับจีเสวียนคงนั้น มีเพียงผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเทพเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ถึงแม้จะเป็นจ้าวมหาเทพผู้มากอิทธิพลในกองกำลังทั้งหลายที่มีตำแหน่งอำนาจสูง เมื่ออยู่ต่อหน้าอาจารย์เสวียนคงท่านนี้ ก็ต้องปฏิบัติตามมารยาทของผู้น้อย
“เหตุใดเจ้าถึงต้องกราบไหว้ข้าเป็นอาจารย์?”หลังจากหลัวซิวนั่งลงแล้ว จีเสวียนคงจึงถามคำถามหนึ่ง
เมื่อหลัวซิวได้ยินคำพูดดังกล่าว ปฏิกิริยาแรกคือเขาอยากตอบกลับว่าฝึกกลั่นยา ทว่าในขณะที่เขากำลังจะอ้าปากอยู่นั้น จู่ ๆ กลับมีความรู้สึกอย่างหนึ่ง หากตนเองพูดเช่นนี้จริง ๆ จีเสวียนคงกลับจะไม่รับตัวเองเป็นลูกศิษย์
ซึ่งนี่คือสัญชาตญาณอย่างหนึ่ง คำถามที่ดูเรียบง่าย แต่ในความเป็นจริงมันก็เป็นบททดสอบอย่างหนึ่งเช่นกัน สิ่งที่ทดสอบคือเขาจะพูดความจริงหรือไม่
ในส่วนของสาเหตุแท้จริงที่หลัวซิวจะกราบไหว้ครูนั้น ต้องไม่ใช่อยากเรียนรู้เรื่องการกลั่นยาอยู่แล้ว แต่เป็นเพราะโควต้าในการมุ่งไปยังแดนเทวนิรันกาล
เมื่อเปรียบเทียบกับเรื่องนี้แล้ว เรื่องการกลั่นยากลับเป็นเพียงเรื่องรอง
“แดนเทวนิรันกาลกำลังจะเปิดออก ผู้น้อยอยากได้รับสิทธิ์ในการเข้าไปภายในขอรับ”
หลังจากไต่ตรองอยู่พักหนึ่ง หลัวซิวก็เลือกที่จะตอบตามความจริง ความรู้สึกที่จีเสวียนคงผู้นี้มอบให้เขานั้นมันไม่ธรรมดามาก ๆ ความคิดของผู้แข็งแกร่งไร้เทียมทานอย่างเขาเป็นอย่างไรนั้น มันไม่ใช่สิ่งที่เด็กหนุ่มอย่างเขาจะสามารถคาดคะเนได้
เมื่อได้ยินคำตอบของหลัวซิว จีเสวียนคงจึงอมยิ้ม “เจ้ากลั่นยาเป็นหรือไม่?”
“พอเข้าใจอยู่บ้างขอรับ”หลัวซิวตอบกลับโดยไม่ต้องคิด
คัมภีร์โอสถ?
รูม่านตาของหลัวซิวหดลงไปกะทันหัน เนื่องจากเสี้ยววินาทีที่เห็นหนังสือโบราณเล่มนี้ สมองเขาก็นึกถึงคัมภีร์อมฤตขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้
ในความเป็นจริงวิถียุทธ์และค่ายกล กลั่นยา ภัณฑ์กลั่นทั้งสามวิถีนี้ ต่างเชื่อมโยงถึงกันและต่างพึ่งพาช่วยเสริมซึ่งกันเช่นกัน
หลัวซิวได้รับเศษคัมภีร์อมฤต และเคยตั้งใจตระหนักรู้มาหลายครั้งแล้ว ใช้คัมภีร์อมฤตเสริมวิถียุทธ์ สร้างเส้นลมปราณขึ้นมาใหม่ ทำให้ผลการฝึกตนภายในร่างกายโคจรจนประกอบเป็นโคจรมหาจักรวาลที่บริบูรณ์สมบูรณ์แบบ
นอกเหนือจากนี้ วิถีแห่งค่ายกลที่บันทึกอยู่ในคัมภีร์อมฤตก็สามารถสลักค่ายกลไว้บนร่างเนื้อได้เช่นกัน เพื่อเพิ่มพลานุภาพของร่างยุทธ์ร่างเนื้อ ทำให้ผลการฝึกตนของนักยุทธ์แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น พลังเวทย์ยิ่งทรงพลัง ในตำนานยิ่งเล่ากันว่าสามารถนำค่ายกลสลักไว้ในตัวหยั่งรู้ ทำให้วิญญาณดั้งเดิมยิ่งใหญ่และแข็งแรงขึ้น เพิ่มเสริมพลังแห่งตัวสำนึก
น่าเสียดายที่คัมภีร์อมฤตที่หลัวซิวได้รับมานั้นเป็นเพียงฉบับที่ไม่สมบูรณ์ มีการบันทึกเพียงวิธีการสร้างเส้นลมปราณขึ้นมาใหม่ การสลักค่ายกลไว้ในร่างยุทธ์ร่างเนื้อนั้น ยังเป็นสิ่งที่เขาตระหนักรู้ได้ด้วยความบังเอิญ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
ทำไมอ่านต่อไม่ได้...
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...