มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 1837

สรุปบท บทที่ 1837: มหายุทธ์ สะท้านภพ

บทที่ 1837 – ตอนที่ต้องอ่านของ มหายุทธ์ สะท้านภพ

ตอนนี้ของ มหายุทธ์ สะท้านภพ โดย หลงเซียว-มังกรคำราม ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายประวัติศาสตร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1837 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เขาบอกว่าเซียวเฟยอยากแย่งภรรยาของเขา ดังนั้นจึงสมควรตาย หรือว่าภรรยาที่เขาหมายถึงนั้น คือข้าหรือ?

ไม่รู้ว่าดาราโบราณมกุฎเทพกระแทกลงมากี่ครั้งแล้ว ทว่าผลการฝึกตนของหลัวซิวกลับเหมือนไม่มีท่าทีที่จะแห้งเหือดเลยแม้แต่น้อย ในทางตรงกันข้ามกลับยิ่งสู้ยิ่งองอาจ พลังการโจมตีไม่เพียงไม่ลดน้อยลง ยิ่งมีแนวโน้มที่จะทรงพลังมากขึ้น 

ยิ่งสู้ยิ่งองอาจ?

สภาพจิตใจของท่านฉีหวาดผวาไม่เป็นสุข ผู้น้อยที่อยู่ตรงหน้านี้มันเป็นปีศาจตัวหนึ่งชัด ๆ จะมีทางมีคนที่กระตุ้นของขลังที่แข็งแกร่งติดต่อกันโดยที่ผลการฝึกตนของตัวเองไม่สูญเสียเลยแม้แต่น้อยได้อย่างไร? 

ถอย!

หากพูดให้แม่นยำหน่อยก็คือหนี!

การที่ท่านฉีที่อยู่ในชุดคลุมยาวดำสามารถฝึกตนจนถึงแดนมกุฎเทพช่วงกลางได้นั้น เขาต้องไม่ใช่คนโง่อยู่แล้ว วินาทีนี้หากยังไม่ถอยอีกละก็ เขามีโอกาสตายอยู่ที่นี่สูงมาก

จิตใจมีการตัดสินใจที่เด็ดขาด ใต้เท้าของท่านฉีจึงมีเส้นทางแห่งผลึกน้ำแข็งปรากฏหนึ่งเส้น เห็นเพียงเขาเดินย่ำอยู่บนน้ำแข็ง ความเร็วเหมือนดั่งแสงที่กระพริบเคลื่อนผ่านไป เร็วมากจนเหลือเชื่อ

ชีวีหอคอยเทวถูกเขาเก็บเข้าไปในจุดตันเถียน บนหอคอยเทว ณ บัดนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยร้าว หากต้องการซ่อมแซมมัน ยังต้องใช้เวลาและวัตถุดิบที่ไม่น้อยเลย

ปริภูมิพันธนาการ ลดเวลา!

หลัวซิวสั่นกระพือปีกเทพทะลุฟ้าไร้มลทิน ในขณะที่ไล่ตามฝ่ายตรงข้ามอยู่นั้น เขาก็ปลดปล่อยพลังอมตะของทั้งสองกฎออกมาเช่นกัน ผนึกท่านฉีในชุดคลุมยาวดำที่จะหลบหนีนั่นเอาไว้

อย่างไรก็ตามท่านฉีกลับเตรียมป้องกันพลังอมตะของทั้งสองกฎใหญ่นี้ตั้งนานแล้ว ภายใต้การโคจรกฎธาตุน้ำแข็งขั้น 6 ก็สามารถขวางกั้นกฎห้วงเวลาเอาไว้ข้างนอกได้ ตนไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ เลยแม้แต่น้อย 

ซึ่งนี่ก็คือช่วงระยะความต่างระหว่างกฎขั้น 6 และขั้น 5 แม้กฎที่หลัวซิวยึดกุมล้วนเป็นกฎชั้นยอด แต่เนื่องจากผลการฝึกตนของตัวเขาเองต่ำเกินไป สุดท้ายก็ไม่สามารถเทียบทัดขั้น 6 ได้อยู่ดี

“กฎห้วงเวลา ช่างทำให้ข้าได้เปิดหูเปิดตามากจริง ๆ ”จีเสวียนคงใช้มือลูบหนวดเคราพลางยิ้มพลางมองไปทางหลัวซิว

นี่เป็นการชื่นชมอย่างแท้จริง แต่ไม่รวมจิตใจที่อยากครอบครองความลับบนตัวเขา ซึ่งหลัวซิวสามารถสัมผัสจุดนี้ได้อยู่แล้ว

อย่างไรเสียการฝึกกฎชั้นยอดก็ต้องการโอกาสและความสามารถในการตระหนักรู้อยู่ จากแดน ณ ปัจจุบันของจีเสวียนคง เขาต้องทราบเป็นธรรมดาอยู่แล้วว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่วรยุทธ์สามารถทำได้

ถึงแม้จะมีวรยุทธ์สามารถฝึกฝนยึดกุมกฎห้วงเวลา เช่นนั้นระดับความยากในการฝึกวรยุทธ์ดังกล่าวก็ต้องยากมากแน่นอน และมาตรฐานสูง 

ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สอบถามหลัวซิวว่าฝึกฝนและยึดกุมมันได้อย่างไร เนื่องจากจีเสวียนคงเข้าใจดีมากว่าตนเองไม่สามารถไปฝึกกฎสองประเภทนี้ได้อีกแล้ว หากสามารถฝึกได้ละก็ ตลอดกาลเวลาอันยาวนานที่ผ่านมาเป็นหลายสิบล้านปี เขาคงฝึกสำเร็จตั้งนานแล้ว ยังจำเป็นต้องรอถึงบัดนี้อยู่อีกหรือ?

“ขณะที่เจ้ากลั่นยา เจ้าใช้เปลวไฟที่ผนึกรวมมาจากกฎชีวิต หากข้าเดาไม่ผิดละก็ เปลวไฟสีดำบนตัวเจ้าเมื่อครู่นี้ คืออัคคีเทพทมิฬที่ผนึกรวมขึ้นมาจากกฎความตายใช่หรือไม่?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ