มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 1838

สรุปบท บทที่ 1838: มหายุทธ์ สะท้านภพ

ตอน บทที่ 1838 จาก มหายุทธ์ สะท้านภพ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1838 คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายประวัติศาสตร์ มหายุทธ์ สะท้านภพ ที่เขียนโดย หลงเซียว-มังกรคำราม เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

จีเสวียนคงมองหน้าศิษย์ที่ตนเพิ่งรับอย่างทอดถอนใจ ไม่แน่ชัดว่าจิตใจรู้สึกอย่างไรกันแน่

พรสวรรค์ของศิษย์สูง เมื่อพูดตามหลักตนผู้เป็นอาจารย์ควรจะรู้สึกมีความสุขสิถึงจะถูก แต่สถานการณ์คือพรสวรรค์ของศิษย์คนนี้สูงเกินกว่าเหตุไปหน่อยจริง ๆ ราวกับว่าตนเองที่เป็นอาจารย์นอกเหนือจากโยนคัมภีร์โอสถให้เขาไปตระหนักรู้เองแล้ว ตนก็ไม่สามารถสอนเรื่องอื่น ๆ ให้เขาได้อีกเลย

มีเพียงสิ่งเดียวที่สามารถทำให้จีเสวียนคงรู้สึกว่าตัวเองยังมีหน้าเป็นอาจารย์คนนี้ได้อยู่น้ัน ก็คงจะเป็นเรื่องที่เขาฝึกกฎชีวิตถึงแดนขั้น 10 แล้ว

อัจฉริยะผู้ฝึกสี่กฎชั้นยอดอย่างกฎการเวียนว่ายตายเกิดและห้วงเวลาพร้อมกัน ยิ่งกว่านั้นคือจีเสวียนคงไม่แน่ชัดด้วยซ้ำว่าขอแค่เพียงศิษย์คนนี้ของตัวเองไม่ดับสลายสูญสิ้น ในอนาคตเขาต้องเติบโตถึงขั้นที่เหลือเชื่อมาก ๆ อย่างแน่นอน

“กฎการเวียนว่ายตายเกิดนั้น เป็นเพราะศิษย์ฝึกวรยุทธ์ที่มีนามว่าพลังจุติมรณะวรยุทธ์หนึ่ง ในส่วนของกฎห้วงเวลานั้น ข้าได้ประสบกับอีกโอกาสหนึ่งน่ะขอรับ”

นอกเหนือจากความลับเรื่องตำหนักวัฏสงสารและลูกแก้วความเป็นตายแล้ว หลัวซิวไม่มีความคิดที่จะปิดบังความลับของตัวเองต่อหน้าจีเสวียนคงเยอะมากนัก

ยิ่งกว่านั้นคือแม้กระทั่งเศษใจแห่งศุภรก็ถูกเขาหยิบออกมาเช่นกัน จนทำให้จีเสวียนคงตกตะลึงหนักมาก 

“เศษอัญมณีดั้งเดิม!”

มาตรแม้นว่าเป็นผู้แข็งแกร่งไร้เทียมทานที่อยู่ในแดนระดับนี้อย่างจีเสวียนคง เมื่อพบสิ่งของที่มีความสัมพันธ์กันกับอัญมณีดั้งเดิมแล้ว ก็เพียงพอที่จะดึงดูดความสนใจของเขาได้เยอะมากเช่นกัน 

ในขณะที่หลัวซิวนำเศษใจแห่งศุภรออกมาอยู่นั้น เขาก็สังเกตดูสีหน้าของจีเสวียนคง

สำหรับอาจารย์คนนี้ของตัวเอง ในความเป็นจริงก้นบึ้งจิตใจของหลัวซิวก็คอยระแวดระวังเขาเล็กน้อยอยู่ เนื่องจากหลังจากผ่านพ้นเรื่องราวที่มากมายเช่นนี้มาแล้ว เขาเข้าใจดีมาก ๆ ว่าคนเดียวที่คุ้มค่าแก่การไว้วางใจมากที่สุดก็มีเพียงตัวเราเท่านั้น

เมื่อเห็นแววตาของจีเสวียนคง หลัวซิวจึงรู้สึกเก้อเขินเล็กน้อยทันที เห็นได้ชัดเจนเลยว่าความคิดแผลง ๆ ของตัวเองถูกมองจนทะลุปรุโปร่งแล้ว สุดท้ายแล้วเขาก็ยังอ่อนไปหน่อยอยู่ดี

“การคบค้าสมาคมกับผู้อื่นแล้วมีจิตใจที่ระแวดระวังน่ะถูกต้องแล้ว เจ้ามิต้องรู้สึกเก้อเขินหรอก”

ในขณะที่หลัวซิวไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรอยู่นั้น จู่ ๆ จีเสวียนคงกลับพูดเช่นนี้ขึ้นมาคำหนึ่ง

“ข้าย่างกรายลงเส้นทางแห่งการฝึกยุทธ์ตั้งแต่สามสิบล้านกว่าปีก่อน ในกาลเวลาที่ยาวนานนี้ เคยประสบพบเจอกับเรื่องราวต่าง ๆ มามากไม่รู้ตั้งเท่าใด ยิ่งกว่านั้นคือขอแค่เพียงเป็นสิ่งที่เจ้าจินตนาการได้ อาจารย์นั้นล้วนเคยผ่านพ้นมาหมดแล้ว สิ่งที่เจ้าจินตนาการไม่ได้ อาจารย์ก็เคยผ่านพ้นมาก่อนแล้วเช่นกัน”

“โลกของนักยุทธ์นั้นโหดเหี้ยม หากมีโอกาสบังเกิดแล้วเจ้าไม่ไปช่วงชิง มันก็จักไม่มีวันเป็นของเจ้าตลอดชีวิต นักยุทธ์ใต้หล้านี้ล้วนรวมตัวกันเพื่อผลประโยชน์ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเพื่อผลประโยชน์ เพื่อโอกาสโชคและเพื่อทรัพยากรสมบัติ เนื่องจากมีเพียงตัวเจ้าแข็งแกร่งแล้ว เจ้าถึงจะมีพื้นฐานในการอยู่รอด!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ