มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 1842

ต้องท้าวความก่อนว่าถึงแม้จะเป็นอัจฉริยะผู้ที่มีความฉลาดเป็นเลิศในมหาโลกาพันสาม การที่จะฝึกตนถึงแดนราชาเทพได้นั้น อย่างน้อยสุดก็ต้องใช้เวลาเป็นพันปี

ใบหน้าของหลัวซิวไร้อารมณ์ เขาแค่ชูเมื่อขึ้นมาแล้วกำมือทีหนึ่ง กระบี่ไร้เงาก็ปรากฏในมือเขาแล้ว

ทันใดนั้นเอง เงาร่างของเขาก็หายวับไป ก่อนจะปรากฏตรงหน้าหนึ่งในศิษย์ของสำนักเซียนเทียนหยุนภายในชั่วพริบตาเดียว

ร่องรอยสีดำที่เกิดจากปริภูมิถูกฉีกกระชากปรากฏ ศิษย์คนดังกล่าวของสำนักเซียนเทียนหยุนเบิกตากว้าง ร่างกายถูกผ่าออกเป็นสองส่วนโดยไม่ให้สุ้มให้เสียง เลือดสีแดงสดพุ่งกระฉูด ย้อมขอบฟ้าจนกลายเป็นสีแดงฉาน

โคจรอาณาจักรกฎปริภูมิ แผ่คลุมร่างกายของศิษย์ในสำนักเซียนเทียนหยุนสิบกว่าคน พลังปริภูมิผูกมัดที่ยิ่งใหญ่พลังหนึ่ง ทำให้พวกเขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่มากมายมหาศาลภายในชั่วพริบตาเดียว ในขณะเดียวกันกิริยาท่าทางของตัวเองและการโคจรผลการฝึกตนก็ได้รับผลกระทบอย่างมากเช่นกัน

เห็นเพียงเงาร่างของหลัวซิวกระพริบผลุบ ๆ โผล่ ๆ ง้างมือขึ้นฟันกระบี่ลงไป ทุกครั้งที่ลงมือโจมตีต้องมีคนดับสลายสูญสิ้นหนึ่งคน ภายในเวลาชั่วพริบตาเดียว เลือดของศิษย์อัจฉริยะสิบกว่าคนในสำนักเซียนเทียนหยุนก็ย้อมเต็มขอบฟ้า ไม่รอดสักคน

ไม่มีเลือดเปื้อนชุดคลุมยาวดำแม้แต่หยดเดียว กระบี่ไร้เงาที่อยู่ในมือมีความเร้นลับของกฎปริภูมิซ่อนอยู่ ทำให้มันโผล่ ๆ หาย ๆ ราวกับว่าผสมรวมเข้ากับห้วงอากาศอันว่างเปล่าจนเป็นอันหนึ่งเดียวกันยังไงอย่างนั้น 

สายตาของหลัวซิวก้าวข้ามผ่านปริภูมิ ผนึกหลิวเซี่ยหานที่นอนตะแคงอยู่บนเตียงอัญมณีสีม่วงนั่น ก่อนจะค่อย ๆ ง้างกระบี่ที่อยู่ในมือขึ้นมาแล้วคมกระบี่ชี้ไปทางราชรถ 

“โอหัง!”

ศิษย์นับร้อยตะคอกด้วยความโกรธเกรี้ยวพร้อมกัน อยู่ตรงหน้าสำนักเขาของภูเขาหยุนเซียน คนดังกล่าวยังบังอาจลงมือสังหารศิษย์ในสำนักเซียนเทียนหยุน การกระทำเช่นนี้ไม่ต่างอะไรจากการยั่วยุความเกรียงไกรของสำนักเซียนเทียนหยุน

คนนับร้อยล้วนเป็นราชาเทพและมกุฎเทพ พลังออร่าทั้งหมดรวมเข้าด้วยกัน ภายในเวลาชั่วพริบตาเดียวก็เหมือนมีเทพเจ้าองค์หนึ่งจุติลงมา แรงกดดันที่เกะกะระรานแผ่กระจายไปทั่ว

ถึงแม้จะเป็นตัวหลัวซิว เมื่ออยู่ภายใต้บารมีอำนาจของผู้แข็งแกร่งนับร้อยที่รวมตัวกันแล้ว เขาก็สัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่มากล้นเช่นกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ