มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 1911

สรุปบท บทที่ 1911: มหายุทธ์ สะท้านภพ

บทที่ 1911 – ตอนที่ต้องอ่านของ มหายุทธ์ สะท้านภพ

ตอนนี้ของ มหายุทธ์ สะท้านภพ โดย หลงเซียว-มังกรคำราม ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายประวัติศาสตร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1911 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตู้มม!

ภายใต้การกดอัดจากตำหนักวัฏสงสาร เท้าทั้งสี่ของช้างเงินที่มีพลังเกะกะระรานถึงกับบิดเบี้ยวกะทันหัน แล้วคุกเข่าลงไปกับพื้นจนปฐพีเสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่น!

ในตำแหน่งที่อยู่ห่างออกไปไกลหลายพันไมล์ เงาร่างของหลัวซิวหกระเหินบินออกมาจากฝุ่นละอองที่ตลบฟุ้งเต็มท้องฟ้า มีลูกแก้วสีขาวดำลายทางลอยอยู่ตรงกลางฝ่ามือข้างขวาเขา

ช้างเงินที่เทียบเท่าผู้แข็งแกร่งมกุฎเทพช่วงปลายคำรามร้องโหยหวน เสียงของมันอ่อนแอมาก ภายใต้การกดอัดจากตำหนักวัฏสงสาร เหมือนกับว่ามันแบกรับห้วงดาราที่กว้างใหญ่ไพศาลไว้บนหลังหนึ่งห้วง

เมื่อหลัวซิวปรากฏตรงหน้ามัน อุปนิสัยที่ดุร้ายของช้างเงินตัวนี้มลายยากมาก ภายในดวงตาที่แดงเถือกมีชี่โหดที่สะพรึงน่ากลัว มีรังสีแห่งความเยือกเย็นเป็นประกายออกมาจากงาช้างทั้งสองกิ่ง ไม่นึกเลยว่างาทั้งสองกิ่งจะลอยขึ้นกะทันหัน แล้วเฉือนลงมาทางหลัวซิวดั่งดาบโค้งสองเล่ม

“ไอ้เดรัจฉานที่ไม่รู้จักความเป็นความตาย!”

ปีกเทพไร้มลทินที่อยู่ด้านหลังสยายออก เงาร่างของหลัวซิวโยกย้ายไปมา ก็หลบการโจมตีจากงาช้างทั้งสองกิ่งที่เหมือนดั่งดาบโค้งนั่นไปได้แล้ว 

ก่อนจะเดินทางมาแดนเทวนิรันกาล ปีกเทพไร้มลทินของเขาก็ผ่านการวิวัฒนาการหนึ่งครั้งโดยหินเทวเหินฟ้าแล้ว ปีกเทวทั้งห้าคู่ที่อยู่ด้านหลังสยายออก เหมือนดั่งปีกเทพของเซียนที่โบยบินขึ้นสู่สวรรค์ มีความแข็งกร้าวและอำนาจบารมีที่สูงเทียมฟ้าทะลุออกมาจากปีกเทพที่งามล้น

ในขณะเดียวกัน หลัวซิวก็กระตุ้นลูกแก้วความเป็นตายที่อยู่ในมือ แก่นแท้ชีวีที่อยู่ในร่างช้างเงินจึงพรั่งพรูออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ ถูกลูกแก้วความเป็นตายกลืนกินยึดครอง

ภายในระยะเวลาสั้น ๆ ช้างเงินที่ไม่สามารถขัดขืนได้ก็กลายเป็นกระดูกแห้งกรัง แก่นแท้ชีวีทั้งหมดล้วนถูกลูกแก้วความเป็นตายกลืนกินจนสิ้นซาก

กระดูกช้างที่ใหญ่โตมหึมาสูงตระหง่านและมั่นคงดั่งขุนเขา ทะมึนทึบแต่ก็น่ากลัว

หลัวซิวเก็บปีกเทพกลับเข้าร่าง แล้วนั่งท่าขัดสมาธิลงบนกระดูกช้าง อสูรโบราณช้างเงินตัวนี้คือราชาบนดาวเคราะห์ดวงนี้ เมื่อมีโครงกระดูกของมันอยู่ที่นี่ อสูรโบราณตัวอื่น ๆ บนดาวเคราะห์ดวงนี้จึงไม่กล้ามาทำอะไรบุ่มบ่ามที่นี่

ระยะเวลาการตระหนักรู้ในครั้งนี้ของจีเสี่ยวจื่อยาวมาก ๆ หลังจากที่ใช้เวลาไปเกือบหนึ่งเดือน นางถึงจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา 

“แน่นอนอยู่แล้ว ก็ไม่ดูก่อนเลยนะเจ้าคะว่าข้าคือผู้ใด!”จีเสี่ยวจื่อยิ้มอย่างมีชีวิตชีวา 

“แต่ทว่าต่อไปหากเจ้าออกไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ข้างนอกอีกละก็ ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดเวลาใด ก็ต้องมั่นใจเสียก่อนว่าตนอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัยจริง ๆ ”

ทันใดนั้นเองสีหน้าอารมณ์ของหลัวซิวก็ดูเข้มงวดขึ้น จากนั้นเขาก็บอกเล่าเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อก่อนหน้านี้ให้นางฟัง

เมื่อได้ยินเรื่องราวทั้งหมดที่หลัวซิวบอกเล่ามาแล้ว จีเสี่ยวจื่อถึงจะทราบว่าการตระหนักรู้ในครั้งนี้ของตัวเองนั้นอันตรายมากเพียงใด หากไม่ใช่เพราะมีศิษย์พี่คอยคุ้มกันนางอยู่ที่นี่ นางไม่มีทางตระหนักรู้ในความเร้นลับของกฎปริภูมิได้ราบรื่นเช่นนี้แน่นอน

“บัดนี้เราอยู่ในเขตพื้นที่ค่อนข้างอันตรายของแดนเทวนิรันกาลแล้ว ดาวเคราะห์ทุกดวงล้วนมีอสูรโบราณระดับมกุฎเทพเคลื่อนไหว เจ้าอยู่กับข้านี่แหละ อย่าวิ่งหนีไปที่ใดมั่วซั่ว”หลัวซิวกล่าว

จีเสี่ยวจื่อพยักหน้าอย่างเชื่อฟังคำสั่งมาก นางเข้าใจดีมากว่าแดนเทวนิรันกาลไม่ใช่สถานที่ธรรมดาทั่วไปอย่างแน่นอน ไม่ใช่สถานที่ที่นางสามารถกระทำทุกสิ่งอย่างกําเริบเสิบสาน 

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ