อ่านสรุป บทที่ 1910 จาก มหายุทธ์ สะท้านภพ โดย หลงเซียว-มังกรคำราม
บทที่ บทที่ 1910 คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายประวัติศาสตร์ มหายุทธ์ สะท้านภพ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย หลงเซียว-มังกรคำราม อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ไม่ว่าจะเป็นหอกยุทธ์มังกรดำในอดีต หรือหอกมังกรแดงมืดในปัจจุบัน ต่างไม่ใช่ตัวเลือกของอาวุธมรรคผล
เดิมทีหลัวซิวคิดว่าลูกแก้วความเป็นตายและตำหนักวัฏสงสารคือทิศทางมรรคผลของตน แต่ปัจจุบันทั้งสองสิ่งก็ถูกเขาตัดออกจากตัวเลือกแล้ว
หอกที่ปลดปล่อยจากวิถียุทธ์ของตน ณ บัดนี้ ดูเหมือนทรงพลัง ทว่าแท้จริงแล้วยังมีจุดที่ขาดตกบกพร่องและไม่สมบูรณ์อีกเยอะมาก
ในขณะที่มีความเคว้งคว้างทะลุออกมาจากแววตาเขาเล็กน้อยอยู่นั้น ช้างยักษ์สีขาวเงินก็คำรามร้อง แผ่นดินสั่นสะเทือน มันได้พุ่งตรงเข้ามาแล้ว
พลังออร่าที่ช้างยักษ์ตัวนี้ปลดปล่อยออกมาสามารถเทียบทัดผู้แข็งแกร่งมกุฎเทพช่วงปลาย ในบรรดาอัจฉริยะผู้แข็งแกร่งทั้งหมดที่เข้ามาในแดนเทวนิรันกาล ก็มีเพียงน้อยคนเท่านั้นที่สามารถต่อกรกับมันได้
“เสียงดังชะมัด!”
เสียงคำรามร้องของช้างเงินทำให้หลัวซิวฉุดตัวเองออกมาจากห้วงความคิด กวัดแกว่งหอกมังกรแดงมืดในมือ หอกมังกรเหมือนมีชีวิตจนเกิดเป็นเปลวไฟสีแดงมืดที่กำลังแผดเผา
และนี่ก็คืออัคคีเทพซิวหลัว ซึ่งมีกฎเพลิงอัคคีขั้น 7 แฝงซ่อน!
ช้างเงินนิรนามตัวนี้มีศักยภาพที่เทียบทัดมกุฎเทพช่วงปลาย สิ่งที่แข็งแกร่งที่สุดของอสูรโบราณที่คงอยู่ในห้วงดาราดึกดำบรรพ์ก็คือพลังร่างเนื้อ
ผนึกรวมอัคคีเทพซิวหลัว กฎเพลิงอัคคีขั้น 7 ลุกไหม้ หอกนี้ของหลัวซิวกวัดแกว่งจนเกิดเป็นแสงเปลวไฟยาว เหมือนดั่งดาวหางที่ทะลวงผ่านกลุ่มดาวฤกษ์ แสงหอกสว่างจ้าไปทั่วทั้งแผ่นฟ้าและปฐพี
ตู้มม!
ควันหลงที่น่ากลัวแผ่กระจายออกไป ยอดเขาหลายลูกที่อยู่ห่างออกไปไกลพังทลายลงไปภายในพริบตา อัคคีเทพซิวหลัวสีแดงมืดแผดเผาทุกสิ่งอย่าง ทำให้ทุกสรรพสิ่งว่างเปล่า
เลือดสดที่ร้อนผ่าวสาดกระเด็น ลำตัวที่เกะกะระรานของช้างเงินก็ถูกหอกนี้ของหลัวซิวทิ่มแทงจนเกราะป้องกันทลาย อย่างไรก็ตามปริมาตรของช้างยักษ์ตัวนี้ใหญ่เกินไป หอกมังกรทิ่มแทงเข้าไปจนหายไปหมดแล้ว แต่ก็ไม่สามารถทะลวงลำตัวของมันได้เลยด้วยซ้ำ
ความเจ็บปวดที่น่าเวทนาทำให้ช้างเงินร้องคำราม ช้างที่หลั่งเลือดฟาดงวงไปมา ก่อนจะฟาดโดนตัวหลัวซิวจนเสียงดังปัง
เลือดสีแดงสดสาดกระเด็นอยู่กลางนภา หลัวซิวถูกงวงช้างฟาดจนกระเด็นออกไปหลายพันไมล์ ร่างกายพุ่งชนเข้ากับแนวเทือกเขาจนแตกทะลุไปหลายเทือกเขา สุดท้ายร่างเขาก็ฝังเข้าไปในผาที่สูงชันของภูเขาลูกหนึ่ง
จู่ ๆ ตำหนักสีเหลืองทองหลังหนึ่งก็บินขึ้นมาจากฝุ่นละออง ตำหนักที่โบราณและเรียบง่ายนี้หนักหลายร้อยล้านชั่ง
ขาทั้งสี่ข้างของช้างเงินเหยียบอยู่บนพื้น ฟาดงวงช้างไปมา แล้วโจมตีเข้ากับตำหนักวัฏสงสารจนเสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่น
ภายในเวลาชั่วพริบตาเดียว ช้างเงินก็คำรามร้องโหยหวน งวงช้างที่ใหญ่โตถึงกับถูกตำหนักวัฏสงสารโจมตีจนขาดออกโดยตรง งวงช้างครึ่งหนึ่งร่วงหล่นลงบนพื้นที่ห่างออกไปไกลพร้อมกับเลือดที่ร้อนผ่าว
เนื่องจากผลการฝึกตนของตัวหลัวซิวถูกจำกัด ดังนั้นพลานุภาพที่ตำหนักวัฏสงสารสามารถปลดปล่อยออกมาได้ก็มีขีดจำกัดเช่นกัน แต่อย่างไรเสียเนื้อแท้ของมันก็กลายมาจากเศษวัฏสงสารโบราณ ระดับของมันจึงอยู่เหนือของขลังอาวุธสงครามที่จักรพรรดิเทพกลั่นเสียอีก!
โคจรร่างอมตะตลอดเวลา ร่างกายที่แตกร้าวเริ่มฟื้นฟูกลับคืนสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็ว สภาวะของหลัวซิวก็ฟื้นฟูกลับมาถึงขั้นสูงสุดภายในชั่วพริบตาเดียวเช่นกัน
“วัฎสงสารสยบสรรพนภา!”
หลัวซิวชี้นิ้วขึ้นฟ้า จู่ ๆ ตำหนักวัฏสงสารก็ขยายใหญ่ขึ้น เหมือนดั่งขุนเขาเทวสีทองเหลือง ร่วงหล่นลงมาจนดังสะเทือนเลื่อนลั่น แล้วกดอัดอยู่บนหลังของช้างเงิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
Good...
ทำไมอ่านต่อไม่ได้...
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...