มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 1915

การมาเยือนของพระโอรสจ้านเทียนทำให้ทุกคนในที่เกิดเหตุต่างรู้สึกช็อก ผู้ที่มีคุณสมบัติเข้ามาในแดนเทวนิรันกาล มีผู้ใดบ้างที่ไม่ใช่อัจฉริยะผู้มีความฉลาดเป็นเลิศที่หลงคิดไปเองว่าตนเองเก่งแน่ไม่ธรรมดา?

แต่ทว่าถึงแม้จะยโสโอหังอย่างพวกเขา เมื่ออยู่ต่อหน้าพระโอรสจ้านเทียน พวกเขาก็ต้องทอดถอนใจที่ตนเทียบฝ่ายตรงข้ามไม่ติด รู้สึกนับถือในตัวเขา 

ด้านหลังของพระโอรสจ้านเทียน ยังมีชายหนุ่มผมสีแดงเลือดคนหนึ่งคอยอยู่เป็นสหาย ใบหน้าของคนดังกล่าวดูดุร้าย ดูเป็นคนกำเริบเสิบสานตามอำเภอใจ ถึงแม้จะเทียบพระโอรสจ้านเทียนไม่ติด แต่ทว่าก็ไม่ด้อยกว่าเท่าไหร่นัก

“นั่นมันเยาเย่ที่ได้รับการถ่ายทอดสืบสานวิถียุทธสายเลือดจากจักรพรรดิมารบุกเบิกตามข่าวลือที่ได้ยินมิใช่หรือ?”มีสายตาของบางคนสังเกตเห็นชายหนุ่มเส้นผมสีแดงเลือดนั่น แล้วบอกตัวตนและความเป็นมาของคนดังกล่าวออกมา

ลือกันว่าเผ่าพันธุ์มารเป็นสายเลือดที่สืบมาจากสูตรโบราณในยุคดึกดำบรรพ์ หลังจากผ่านพ้นกาลเวลาที่ยาวนานแล้ว พวกมันจึงค่อย ๆ กำเนิดตัวปัญญาทิพย์ เข้าใจการฝึกตนและกลายร่างเป็นรูปร่างของมนุษย์  

จากคำเล่าในตำนาน จักรพรรดิมารบุกเบิกก็ใช้วิถียุทธสายเลือดชุบสายเลือดของตัวเองขึ้นไปถึงระดับที่แข็งแกร่งมาก ๆ ยิ่งกว่านั้นคือถึงกับสามารถเทียบทัดอสูรโบราณดาราที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคดึกดำบรรพ์ได้!

พระโอรสจ้านเทียนใช้มือทั้งสองข้างไขว้ไว้ด้านหลัง มองลงมาจากที่สูง มองไปทางจีเสี่ยวจื่อที่กำลังข้ามผ่านทัณฑ์ที่อยู่ห่างออกไปไกล มีแสงเรืองทะลุออกมาจากดวงตาเล็กน้อย 

“ฮ่า! ช่างเป็นสตรีที่งดงามเสียจริง!”พระโอรสจ้านเทียนหัวเราะพลางพูด

“นึกไม่ถึงเลยว่าผู้ที่ข้ามผ่านทัณฑ์จักเป็นสตรีนางหนึ่ง”เยาเย่ก็ชะงักไปเล็กน้อยเช่นกัน เขาได้รับสมญานามว่าเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งในโลกาบรรพมาร แต่ปัจจุบันเขากลับไม่มีความมั่นใจในการทลายสู่แดนมกุฎเทพอย่างแน่นอน 

และในเวลานี้เอง แววตาของเยาเย่ก็เคร่งขรึมขึ้นมากะทันหัน เนื่องจากเขามองเห็นหลัวซิวที่อยู่ด้านล่างแล้ว 

“เจ้าเองหรือ?”

เยาเย่ไม่มีทางลืมหลัวซิวเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าฝ่ายตรงข้ามมีอสูรดูดจิตที่สูญพันธุ์ไปแล้วตัวหนึ่ง เขายิ่งสันนิษฐานว่ามนุษย์จากเผ่าพันธุ์มนุษย์คนนี้ได้ฝึกพลังจักรพรรดิชั้นฟ้าของเผ่าพันธุ์มาร เคล็ดกลั่นโลหิตบรรพมาร

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ